คนขับรถนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เมาทะเลาะยิงปืนใส่คู่กรณี

30 ม.ค. 67

คนขับรถนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เอารถนายไปใช้ แล้วไปเมาทะเลาะวิวาทแล้วยิงปืนใส่คู่กรณี

จากกรณี เมื่อเวลา 00:40 น. วันที่ 29 มกราคม2567 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุ ทะเลาะวิวาทกันโดยใช้อาวุธปืน จุดเกิดเหตุ ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ซอย 5 แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร จนมีผู้ที่ได้รับเจ็บ 1 ราย เป็นชาย ถูกยิงเข้าที่ฝ่ามือด้านขวา 1 นัด อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญ ให้การช่วยเหลือ นำส่ง โรงพยาบาลมิชชั่น

ล่าสุดมีรายงานว่าจากการสอบปากผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นตำรวจชั้นประทวน และเป็นพลขับของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับผู้บังคับการ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้นำรถของผู้บังคับบัญชาไปใช้นอกเวลาราชการ และไปดื่มสุราที่ร้านในจังหวัดนครปฐม ก่อนจะไปสังสรรค์กับเพื่อนต่อที่ร้านที่เกิดเหตุปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 5 แต่ระหว่างอยู่ในร้านด้วยความมึนเมา จึงเดินเซไปชนโต๊ะของกลุ่มนักตะกร้า 5 คน โดยผู้ก่อเหตุได้ถกเสื้อโชว์ ทำท่ากร่างคล้ายว่ามีปืน แต่ขณะนั้นไม่ได้มีปืนอยู่กับตัวจริง ๆ ทำให้เกิดการเขม่นกันแต่ไม่ได้มีเรื่องกันในร้าน จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงเดินออกจากร้านมาเพราะไม่อยากมีปัญหา แต่ขณะกำลังขับรถออกจากลานจอดรถบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ถัดจากร้านอาหาร กลุ่มนักตะกร้อก็ยกพวกเข้ามาหาเรื่อง ทำให้ผู้ก่อเหตุหยุดรถและหันหัวรถไปหา ก่อนที่จะเปิดกระจกมีปากเสียงกัน และถูกกลุ่มนักกีฬาตะกร้อกระชากลงจากรถ และเตะหลายครั้ง ผู้ก่อเหตุจึงเอาปืนออกมาขู่ แต่ระหว่างยื้อยุดฉุดกระชากกัน ปืนเกิดลั่น 1 นัด ถูกเข้าที่มือขวาของนายสมาน อายุ 42 ปี ผู้บาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นส ฝน (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ได้ความว่า “คนก่อเหตุนำเก้าอี้ไปนั่งตรงหน้าเวที โดยมีการสั่งเบียร์มาหนึ่งขวด โดยเก้าอี้ที่ลากมานั่ง อาจทำให้แขกโต๊ะอื่นไม่พอใจ ด้านพนักงานเสิร์ฟก็ได้แจ้งกับคนก่อเหตุไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่ง แต่คนก่อเหตุมีอาการมึนเมามากจนเดินเซ จนอาจโดนแขกโต๊ะอื่น จนเวลาล่วงเลย กำลังจะขับรถยนต์กลับ แต่คนก่อเหตุซึ่งจอดรถอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อกลับขับรถย้อนศร จนมีคนตะโกนร้องว่าขับรถย้อนศรก่อนจะเกิดเหตุชุลมุนตรงประตูรถของคนก่อเหตุ ก่อนจะได้ยินเสียงอาวุธปืนดังขึ้น โดยคนก่อเหตุ ใส่เสื้อสีดำกางเกงยีนส์ ตนเองคาดว่าเหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากการกระทบกระทั่งกันเพราะต่างคนก็ต่างเมาสุรา เพราะไม่ได้เพราะวิวาทกันในร้าน น่าจะเป็นการออกมาด้านนอกและเคลียร์ปัญหากัน เรื่องนี้ตนเองก็ไม่แน่ใจ

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส