“พิธา” กางโรดแมปก้าวไกล เผย หลังสงกรานต์ถึงเวลาเปิดศึกซักฟอก

26 ม.ค. 67

“พิธา” กางโรดแมปก้าวไกล ชู 6 เป้าหมายสำคัญ หนุนประชาธิปไตยเต็มใบ เผยหลังสงกรานต์ถึงเวลาเปิดศึกซักฟอก -ปรับ กก.บห.ชุดใหม่ เม.ย.นี้ 

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ม.ค. 67 ที่รัฐสภา นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงว่า วันนี้เป็นการแถลงแผนการดำเนินงานของพรรคก้าวไกลในปีนี้ เปรียบเสมือนเป็นปฏิทินของพรรค เพื่อกำหนดการทำงานของพรรค 

เป้าหมายในการดำเนินการที่เป็นยุทธศาสตร์ และคือคำตอบว่าพรรคก้าวไกลต้องการทำอะไรในปีนี้ ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากสัญญาที่เราให้ไว้กับประชาชนก่อนการเลือกตั้ง เราไม่มีโอกาสได้ทำเป้าหมายเหล่านั้น 

สำหรับพรรคก้าวไกลเรา 6 เป้าหมายคือ 1.ประชาธิปไตยเต็มใบ อาทิ การปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ 2.ยกระดับคุณภาพชีวิต อาทิ ระบบขนส่งสาธารณะ สวัสดิการ สาธารณสุข แรงงาน สิ่งแวดล้อม 3.หยุดแช่แข็งชนบทไทย อาทิ ลดต้นทุนภาคเกษตร เพิ่มเครื่องจักรในการผลิต เพิ่มแหล่งน้ำ แก้ปัญหาหนี้สิน แปลงสปก.เป็นโฉนด 4.การปฏิรูปรัฐครั้งใหญ่ อาทิ กระจายอำนาจ ปราบโกง การปฏิรูประบบงบประมาณ 

5.เรียนรู้ทันโลก อาทิ การพัฒนาทรัพยากรบุคลากรเพิ่มขีดสามารถในการแข่งขันของประเทศ การคิดหลักสูตรใหม่ ลดภาระครู และขอชื่นชม ครม.ที่ยกเลิกครูเวร การตัดอำนาจนิยมในโรงเรียน  6.เติบโตแบบมีคุณภาพ อาทิ การสร้างานดี ลงทุนท้องถิ่น สนับสนุน SMEs ท่องเที่ยวคุณภาพ อุตสาหกรรมใหม่ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 

นาย พิธา กล่าวว่า  โดยมี 4 ปัจจัยความสำเร็จในการนำไปปฏิบัติเพื่อให้สัมฤทธิ์ผลอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ 1.กฎหมาย 2.การปฏิบัติ 3.งบประมาณ และ4.บุคลากร  

ปีนี้พรรคก้าวไกลผลักดันกฎหมาย 47 ฉบับ โดยอยู่ในวาระการประชุมสภาฯแล้ว 21 ฉบับ แบ่งเป็น 3 ฉบับ สภาฯกำลังพิจารณา ได้แก่ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม พ.ร.บ.ฝุ่นพิษ และมลพิษข้ามแดน และ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วน 1 ฉบับ คือข้อบังคับการประชุมสภา หรือสภาก้าวหน้า ถูกสภาฯปรับตก ขณะที่อีก 17 ฉบับได้บรรจุเข้าวาระการประชุมสภาฯแล้ว อาทิ แก้รัฐธรรมนูญ ยกเลิกมาตรา 272 พ.ร.บ.รับรองเพศฯ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังรัฐ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกลาโหม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงงาน เป็นต้น 

ส่วนอีก 26 ฉบับยังไม่ได้เข้าสู่วาระการประชุมสภาฯ อาทิ พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คสช. การแก้ไขกฎหมายไม่ตีเด็ก พ.ร.บ.ยกเลิก กอ.รมน. พ.ร.บ.ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เป็นต้น 

ส่วนกฎหมายที่พรรคก้าวไกลหวังผลมากเป็นพิเศษ และต้องทำงานเพิ่มเป็นพิเศษ ได้แก่ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม, พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า,พ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ,การเปลี่ยนสปก.เป็นโฉนด, ร่างแก้ฝุ่นพิษ และแต่ละกรรมาธิการของพรรคก้าวไกลมีแผนประจำปีเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน 

อย่างไรก็ตามเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราก็ต้องเตรียมบุคลากรมงานคนให้พร้อมด้วย ซึ่งมีทั้งอาสาสมัคร ข้าราชการที่สนใจ เอ็นจีโอ ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ สามารทำงานเป็นทีม และขยายทีมเพิ่มมากขึ้น 

สำหรับหมุดหมายสำคัญในการทำงาน ได้แก่ เดือน ก.พ. พิจารณาทบทวนตัวชี้วัดของประธานกรรมาธิการและ สส. หมายความว่าทุกคนที่ทำงานจะมีเคพีไอวัด เพื่อประสิทธิภาพ , เดือน เม.ย. หลังสงกรานต์ก็มีโอกาสอภิปรายทั่วไป หรืออภิปราบไม่วางใจรัฐบาล เพราะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการทำงานของรัฐบาล, เดือน เม.ย.จะมีการประชุมใหญ่สามัญพรรคก้าวไกลที่ กก.บห.พรรคชุดนี้ทำงานครบ 4 ปี ที่จะต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กร และทบทวนแกนนำการทำงานใหม่ , เดือน พ.ค. เราจะทำการเมืองให้เป็นเรื่องสนุก ทำนโยบายให้มันส์และให้คนเข้าใจได้ จะมี Policy Fest ,เดือน มิ.ย.-ส.ค. จะเป็นการอภิปรายงบประมาณปี 2568  และปลายปีเราจะโฟกัสเรื่องการเตรียมตัวลงแข่งขันสนาม อบจ. 

เมื่อถามว่า ในสัปดาห์หน้าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยนโยบายแก้ไข มาตรา 112 พรรคก้าวไกลได้มีการเตรียมการอย่างไรหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า มีการคิดเป็นฉากทัศน์อยู่ รวมถึงฉากทัศน์ที่แยกที่สุด ซึ่งพรรคก้าวไกลยังสามารถบริหารจัดการได้ และไม่ได้ทำให้ภาพใหญ่ตลอดทั้งปีต้องสะดุดลง แต่ตนคงลงรายละเอียดไม่ได้ เพราะตุลาการได้พูดเอาไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 

ส่วนแนวนโยบายการแก้ไขมาตรา 112 ที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำงานของพรรคก้าวไกลในปีนี้ มีแนวทางที่จะผลักดันต่อหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยในพรรคยังมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ 

เมื่อถามว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ได้ครอบคลุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 แต่จะพิจารณาเป็นรายบุคคลนั้น ของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นการพบกันครึ่งทาง แต่ของพรรคก้าวไกลเป็นการนิรโทษรวมมาตรา 112 ด้วย นายพิธา กล่าวว่า ได้มีโอกาสเจอกับนายรังสิมันต์ โรม  ที่โรงพยาบาลแต่ไม่มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ ทราบเพียงมอบหมาย นายมานพ คีรีภูวดล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ดูแลกรรมาธิการในช่วงนายรังสิมันต์ โรม ลาไปดูแลลูกสาว จึงไม่ทราบว่าตรงตามเจตนารมย์ของนายรังสิมันต์ โรม หรือไม่ สำหรับความคิดเห็นของตนเอง ในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ที่เรามีความขัดแย้งทางการเมืองถ้าหากปีนี้ เป็นการเริ่มต้นใหม่ก็ไม่อยากให้มีการสร้างกำแพงขึ้นมา จะทำให้โอกาสในการสร้างความสมานฉันท์ลดลง และมีเงื่อนไขใหม่เกิดขึ้น จึงคิดว่าน่าจะมีวิธีการในการบริหารจัดการความขัดแย้งทางการเมืองที่มาจากหลายรูปแบบได้รับการจัดการอย่างครบถ้วน 

นายพิธา ยังตอบคำถามสื่อต่างชาติว่า ไม่ว่าผลการคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 31 ม.ค.นี้จะเป็นอย่างไร เราก็ยังจะต้องทำงานต่อ เพราะเราเป็นองค์กร ไม่ใช่แค่เรื่องเป้าหมายของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องมีแผนงานของพรรคในปีนี้

เมื่อถามถึงหัวข้อที่จะนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นาย พิธา กล่าวว่า มี 3 ข้อคือ ความล้มเหลวในการบริหาร การประพฤติมิชอบ และการคอรัปชั่น รวมถึงเรื่องการทำงานที่ช้าเกินไป น้อยเกินไป และสายเกินไปต่อความท้าทายและศักยภาพของประเทศ ซึ่งมีข้อมูลเข้ามาพรรคทุกสัปดาห์ ทั้งในรูปแบบของจดหมาย ดีเอ็มอินบ๊อกมาหา หรือแม้กระทั่งการลงพื้นที่ และกรรมาธิการที่สามารถเลือกข้อมูลเข้ามาได้เรื่อยๆ สัญญากับประชาชนว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง และมาตรฐานไม่ต่ำไปกว่า 4 ปีที่ผ่านมา 

เมื่อถามว่า การเปิดโรดแมปแบบนี้ จะเป็นการสกัดดาวรุ่งของตัวเองหรือไม่ เพราะเป็นการเปิดเผยความต้องการของพรรค นายพิธา กล่าวว่า “การทำงานการเมืองของผม ไม่ได้มีแค่ฝ่ายผมกับฝ่ายรัฐบาล แต่มีประชาชน อาสาสมัคร ข้าราชการ เอกชน เอ็นจีโอ และองค์กรระหว่างประเทศ ถ้าผมไม่พูดอย่างโปร่งใสว่าต้องการทำอะไร การจะได้ความร่วมมือของทุกภาคส่วนก็จะสะเปะสะปะ มองไม่เห็นว่างความเป็นไปได้การเมืองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม