มาแล้ว!  98 สว.ยื่นซักฟอกรัฐบาล ข้องใจเงินหมื่น-ทักษิณ ปัด 2 มาตรฐานไม่แตะลุงตู่

22 ม.ค. 67

98 สว. ยื่นประธานวุฒิสภา ขอเปิดญัตติอภิปราย ม.153 ‘รัฐบาลเศรษฐา’ ข้องใจ เงินหมื่น-ทักษิณ ปัด 2 มาตรฐานไม่แตะ “ลุงตู่” 

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 22 ม.ค. 67 ที่อาคารรัฐสภา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 98 คน นำโดยนาย เสรี สุวรรณภานนท์ สว. ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ต่อประธานวุฒิสภา 

ทั้งนี้เป็นประเด็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว มีทั้งสิ้น 7 ประเด็น สรุปดังนี้ 1.ปัญหาด้านเศรษฐกิจของชาติและปัญหาปากท้องประชาชน อาทิ การดำเนินนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลว อลเล็ต จะดำเนินการได้จริงหรือไม่ 2.ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ช่วยพวกพ้อง หาประโยชน์ส่วนตน สร้างมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว ทำให้การคุ้มครองสิทธิของประชาชนไม่เท่าเทียม 3.ปัญหาด้านพลังงาน 4.ปัญหาด้านการศึกษา สังคม 5.ปัญหาด้านการต่างประเทศ และการท่องเที่ยว 6.ปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีความจำเป็นในการดำเนินการอย่างไร ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ และ7.ปัญหาการดำเนินการปฏิรูปประเทศและการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ 

มาแล้ว!  98 สว.ยื่นซักฟอกรัฐบาล ข้องใจเงินหมื่น-ทักษิณ ปัด 2 มาตรฐานไม่แตะลุงตู่

โดยนายเสรี กล่าวว่า เนื้อหาที่ สว.ทั้ง 98 คน ร่วมกันเข้าชื่อยื่นญัตติต่อประธานวุฒิสภา เพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปฯ ตามมาตรา153 เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน เกี่ยวกับประชาชน ทั้งสิ้น 7 ประเด็น โดยขอเวลาไว้รวม 2 วัน 

ส่วนที่มีฝ่ายการเมืองบางฝ่าย ออกมาบอกว่าการยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปตาม มาตรา 153 เร็วเกินไป เนื่องจากรัฐบาลเพิ่งบริหารประเทศได้เพียง 4 เดือนนั้น สิ่งที่เราดำเนินการ ไม่ได้ต้องการมาล้มรัฐบาล หรือให้รัฐบาลตอบในสิ่งที่ทำงานล้มเหลว แต่เราดำเนินการในเรื่องสำคัญต่างๆ ที่รัฐบาลบริหารประเทศ 4 เดือนที่ผ่านมา ได้เริ่มทำในสิ่งที่หาเสียงไว้กับประชาชน หรือที่แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภาแล้วหรือไม่ ดังนั้นมันจะเป็นประโยชน์ 

“อยากให้พี่น้องประชาชนได้เห็นว่า ในช่วงที่ สว.ทำหน้าที่มา แม้ว่าจะมีการบอกว่าทำไมมายื่นในรัฐบาลชุดนี้ ไม่ยื่นรัฐบาลที่แล้ว ก็ต้องเรียนว่ารัฐบาลนี้กับรัฐบาลที่แล้วไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ พรรคการเมืองที่มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นพรรคเดียวกัน เราไม่ได้กลัวว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรี อีกทั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บริหารประเทศในช่วงประเทศ 4 ปีที่ผ่านมา ใน 3 ปีแรกก็แก้ปัญหาโควิด-19 จึงยังไม่พบปัญหามาก แต่ปัจจุบันเห็นปัญหาจำนวนมาก จึงเป็นสิ่งที่เราต้องนำมาหารือในสภาฯ ถือว่าเรายื่นญัตติตามภารกิจหน้าที่ที่สำคัญที่สมาชิกวุฒิสภาจะต้องทำ ยืนยันว่าจะไม่ทำให้เกิดความเสียหาย มีแต่จะได้ประโยชน์ เพราะเรากำลังจะพ้นหน้าที่ในช่วงอีก3-4เดือนที่เหลืออยู่ วุฒิสภาก็จะทำหน้าที่ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถือเป็นวัตถุประสงค์สำคัญในการยื่นญัตติขออภิปรายฯครั้งนี้” นายเสรี กล่าว 

มาแล้ว!  98 สว.ยื่นซักฟอกรัฐบาล ข้องใจเงินหมื่น-ทักษิณ ปัด 2 มาตรฐานไม่แตะลุงตู่

นายเสรี กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เรานำมายื่นอภิปรายรัฐบาล ได้แก่ เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ที่ทางรัฐบาลควรแก้ปัญหาได้เร็วและดีกว่านี้ แต่กลับวนเวียนอยู่กับการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต และอาจทำให้สำเร็จเนื่องจากมีปัญหาตามมาเยอะ ซึ่งปัญหาเรื่องปากท้องเป็นเรื่องสำคัญตามที่รัฐบาลเคยพูดมาโดยตลอด แต่ 4 เดือนที่ผ่านมาก็ยังไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม ส่วนอีกข้อที่สำคัญคือกระบวนการยุติธรรม ที่หากรัฐบาลสามารถรักษามาตรฐานความเป็นธรรม เลือกปฏิบัติ หาช่องหาผลประโยชน์ให้กับคนบางกลุ่ม ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นปัญหาใหญ่ในบ้านเมือง และเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรอว่าบริหารมาเท่าไหร่ แต่เป็นเรื่องปัจจุบันที่สามารถนำมาพูดกันได้ 

เมื่อถามว่า เรื่องกระบวนการยุติธรรมอาจมีการโยงไปถึงนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องอภิปรายก่อนที่นายทักษิณจะได้รับการพักโทษหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เรื่องนี้เราไม่ได้เน้นตัวบุคคล แต่เราเน้นในหลักการ ดังนั้นจะเปิดอภิปรายก่อนหรือหลังไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ว่าจะยึดหลักยุติธรรมให้เป็นธรรมได้แค่ไหน ซึ่งเราไม่ควรให้เกิดปัญหาในเรื่องนี้ขึ้น เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่ากระบวนการยุติธรรมจะต้องใช้ได้กับทุกคนเท่าเทียมกัน

เมื่อถามว่า ในการยื่นญัตติอภิปรายรัฐบาลจะใช้เวลาเท่าไหร่ และมีใครเป็นผู้อภิปรายบ้าง นายเสรี กล่าวว่า ตนตั้งใจไว้ว่าจะอภิปราย 2 วัน ส่วนใครจะเป็นผู้อภิปรายนั้นอยู่ที่ว่าใครจะมาแสดงความจำนง ซึ่งขณะนี้ก็มีผู้สนใจจำนวนมาก แต่ทั้งนี้ต้องแสดงความชัดเจนเพื่อที่จะสามารถจัดลำดับได้ 

เมื่อถามถึง ความคิดเห็นของ สว. เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต เนื่องจากมีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นไม่ตรงกัน นายเสรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือวัตถุประสงค์ที่จะแจกเงินดิจิทัล โดยให้เหตุผลว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งก็มีคำถามว่าแล้วกระตุ้นได้จริงหรือไม่ 

สำหรับการแจกเงิน 10,000 บาทนั้น ประชาชนเชื่อว่าไม่ว่าจะแจกในรูปแบบใด เดี๋ยวก็ใช้หมดในเวลารวดเร็ว และเงินที่จะนำมาแจกนั้น มีที่มามาจากไหน กู้มาหรือไม่ มีดอกเบี้ยหรือไม่ เป็นภาระของประเทศจำนวนมหาศาล อีกทั้งนโยบายนี้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเฉพาะจาก ป.ป.ช. ระบุว่าเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง ฉะนั้นรัฐบาลต้องคิดให้ดีว่าการเป็นหนี้ 5 แสนล้านบาท หากนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนกับประชาชนอย่างยั่งยืนจะสามารถช่วยให้ประชาชนดำรงชีวิตได้ดีกว่า ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เราต้องนำมาพูดในสภาฯ 

ด้านประธานวุฒิสภา กล่าวภายหลังการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปฯ ว่า ตามกระบวนการก็จะส่งหนังสือให้สำนักงานวุฒิสภา ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ว่าเข้าหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 หรือไม่ มีจำนวนครบหรือไม่ จากนั้นก็จะประสานงานไปยังครม.ว่าพร้อมที่จะแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงตาม มาตรา 153 ส่วน ครม.จะมาแถลงเมื่อไหร่ สำนักงานวุฒิสภาก็จะไปประสานไปยัง ครม.ว่ามีความประสงค์ที่จะมาชี้แจงในวันเวลาใด ใช้เวลาเท่าไหร่ จากนั้นทางสำนักงานวุฒิสภาจะต้องรายงานให้ตนทราบว่าพร้อมหรือไม่อย่างไร ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ ส่วนจะอภิปรายในช่วงไหนนั้น เท่าที่ฟัง สว. อยากจะให้อภิปรายในเดือน ก.พ. ซึ่งจะไปดูว่าเหมาะสมหรือไม่ ทางสำนักงานเลขาฯวุฒิสภาและผู้เสนอญัตติฯ จะร่วมประสานไปยัง ครม.อีกครั้งหนึ่ง 

เมื่อถามว่า คาดหวังว่าการอภิปรายครั้งนี้จะเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างไร เพราะหลายประเด็นเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน นายพรเพชร กล่าวว่า เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินเป็นเรื่องสำคัญ ไม่เช่นนั้นก็ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ ครม.แถลง และชี้แจงข้อเท็จจริง แต่เรื่องอื่นตนไม่ทราบ ซึ่งตนต้องขอตรวจสอบก่อน  ซึ่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อประสานงานไปยัง ครม. 

เมื่อถามว่า จะเป็นผลงานของวุฒิสภาที่เป็นชิ้นโบว์แดงก่อนที่จะหมดวาระหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า จะไปพูดอย่างนั้นไม่ได้ แต่คิดว่าการทำงานของ สว.เป็นการทำตามรัฐธรรมนูญ ผู้ที่เปิดอภิปรายสามารถหารายชื่อได้ตามที่กฎหมายกำหนดก็ไม่มีปัญหาอะไร 

“จะโบว์แดง โบว์ขาว เป็นเรื่องทุกท่านตระหนักได้เอง ผมคงพูดไม่ได้ แต่ผมเข้าใจ สว. มีความประสงค์ที่อยากให้รัฐบาลมาแถลงเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าเป็นไปตามวัตถุประสงค์นี้ก็จะเกิดประโยชน์” นายพรเพชร กล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม