ลูกค้าสาวลั่นไม่กลับไปเหยียบซ้ำ ร้านส้มตำเหยียด-ด่าโง่

25 ธ.ค. 62
นักท่องเที่ยวสาวเปิดใจ กรณีโพสต์โวยถูกพ่อค้าส้มตำร้านดังเชียงใหม่พูดจาเหยียด ระหว่างไปใช้บริการ ยืนยันถูกเรียกไปด่าถึงหน้าเคาน์เตอร์ แค่ไม่วงกลมสั่งอาหาร ลั่นครั้งเดียวพอ ไม่ขอกลับไปเหยียบซ้ำ แม้จะมีการขอโทษแล้วก็ตาม ชี้อย่าสร้างจุดขายด้วยถ้อยคำหยาบคาย จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมบอกเล่าประสบการณ์เลวร้ายจากการไปใช้บริการร้านส้มตำชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ “เต๋อตำยำระเบิด” ว่าถูกพ่อค้าหนุ่มเจ้าของร้านพูดจาดูถูกเหยียดหยามและตลอดการใช้บริการอยู่ในร้านพ่อค้าพูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคายเสียงดังอยู่ตลอด โดยโพสต์ดังกล่าวมีเพจชื่อดังนำไปเผยแพร่ และมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมากรุมตำหนิร้านส้มตำซึ่งช่วงแรกทางร้านออกมาตอบโต้ แต่ล่าสุดได้ยอมออกมาขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ล่าสุดนางสาวผักบุ้ง (นามสมมติ) อายุ 29 ปี นักท่องเที่ยวสาว เผยว่าเหตุเกิดเย็นวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00 น.ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวมาจากกรุงเทพฯ และได้เข้าไปใช้บริการที่ร้านดังกล่าวเป็นครั้งแรกตามคำชักชวนของเพื่อน และเคยติดตามในโซเชียลมาก่อน ตนเป็นลูกค้ารายที่ 3 ของร้าน และนั่งโต๊ะหมายเลข 17 และได้สั่งส้มตำใส่ปลาร้าโดยขีดเครื่องหมายถูกตรงที่ระบุว่าให้ใส่ปลาร้า แทนที่จะวงกลมและส่งใบสั่งอาหารไปตามปกติ แต่ปรากฏว่าต่อมานายเต๋อเจ้าของร้านได้ประกาศออกไมค์เรียกตนเองไปหาที่เคาน์เตอร์ พร้อมตำหนิว่าทำไมไม่วงกลม และบอกว่าไม่สวยแล้วยังโง่อีก ซึ่งสร้างความตกใจและงุนงงให้กับตัวเองเป็นอย่างมากจนทำอะไรไม่ถูก แม้จะทราบมาบ้างว่าพ่อค้าส้มตำรายนี้มักจะพูดจาหยาบคาย แต่ไม่คิดว่าจะกล้าตำหนิลูกค้าเช่นนี้ ยอมรับว่าในเวลานั้นรู้สึกอับอายและโกรธอย่างมาก แต่อดทนกลับไปนั่งที่โต๊ะและรับประทานอาหารจนเสร็จเนื่องจากเกรงใจเพื่อนที่ไปรับประทานด้วยกัน หลังจากออกจากร้านแล้วตั้งใจกับตัวเองว่าจะไม่กลับไปใช้บริการที่ร้านนี้อีกอย่างแน่นอน พร้อมทั้งนำเรื่องราวไปโพสต์ระบายในเฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันว่าตัวเองไม่มีเจตนาที่จะทำลายชื่อเสียงของร้านส้มตำแห่งนี้เพียงแต่ต้องการจะแสดงความเห็นและประสบการณ์ส่วนตัวจากการไปใช้บริการเท่านั้น รวมทั้งเห็นว่าร้านสามารถสร้างจุดขายอื่นๆ ได้มากมาย เช่น รสชาติอาหาร เป็นต้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำหยาบคายและส่วนตัวมองว่าร้านนี้ไม่เหมาะสมสำหรับการนำครอบครัวโดยเฉพาะเด็กไปใช้บริการเพราะถือว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสม ส่วนที่ทางเจ้าของร้านออกมาขอโทษแล้วและอ้างว่าอาจจะทำไปด้วยความผิดพลาดนั้น เชื่อว่าตนเองไม่น่าเป็นลูกค้าคนแรกและคนเดียวที่ถูกพ่อค้าส้มตำรายนี้พูดจาด้วยในลักษณะเช่นนี้ เพราะคงพูดเป็นประจำทุกวันจนเคยตัว อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการขอโทษแล้วก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรแต่คงไม่กลับไปใช้บริการอีกแล้ว และต่างคนต่างอยู่ไป รวมทั้งหวังว่าพ่อค้าส้มตำรายนี้จะไม่ไปทำอย่างนี้กับลูกค้าคนอื่นอีก ด้วยการเอาเรื่องรูปร่างหน้าตาหรือปมด้อยของลูกค้ามาพูดจาล้อเลียนหรือตำหนิ ส่วนการที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าการโพสต์ในครั้งนี้เนื่องจากอยากดังและหวังผลในเรื่องการโปรโมตสินค้าหรือไม่ เนื่องจากผู้โพสต์เป็นแม่ค้าขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนักทางออนไลน์ นางสาวผักบุ้ง (นามสมมติ) ยอมรับว่าหลังจากที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าวทำให้มีผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่ไม่ได้มีเจตนาหวังผลในการโปรโมตขายสินค้าแต่อย่างใด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ