รวบลูกเขยตัวดี ใช้ปืนจี้แม่ยายขึ้นรถพาไปให้ลูกพี่ข่มขืน หลังก่อเหตุเมียรู้ตัดสัมพันธ์ ไม่สำนึกผิด แค้นหนักย้อนกลับมาเผาบ้าน
จากกรณีที่ นายยุรนันท์ พรานไพร หรือ ยุ ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้บังคับนางจรรยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี แม่ของภรรยาตนเองไปให้ลูกพี่ข่มขืน ก่อนจะกลับมาเผาบ้านตัวเอง ในพื้นที่หมู่ 2 ต.พุสวรรค์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรีนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 10 ม.ค. 67 นางจรรยา ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อนำผลการตรวจทางแพทย์ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบการดำเนินคดี
ทั้งนี้ น.ส.ประภาพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ภรรยาของนายยุรนันท์ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตอนที่นายยุรนันท์มารับแม่ ใช้รถกระบะของนายชัยวัฒน์ คนที่ข่มขืนแม่มารับ โดยตนได้ยินแม่บอกว่าไม่ไป หลังจากนั้นรถก็ขับออกไปเลย ตนจึงโทรศัพท์ไปสอบถามนายยุรนันท์ว่าเอาแม่ไปไหน ได้รับคำตอบว่าเอาแม่ไปคุยธุระกับนายชัยวัฒน์เรื่องตำรวจเข้าไร่ พร้อมกับบอกว่าอย่าบอกตำรวจนะ ถ้าบอกตำรวจแม่ตายตอนนี้แหละ
หลังจากที่รู้ว่าแม่ถูกกระทำชำเรา ยอมรับว่ารับไม่ได้ และแค้นใจมาก อยากให้ตำรวจจับตัวไปดำเนินคดี ตนคาดว่านายยุรนันท์ยังอยู่ในพื้นที่ โดยบอกว่าจะยิงให้ตายหากเห็นออกมายืนหน้าบ้าน ก่อนที่นายยุรนันท์จะเผาบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 5 นัด แล้วไฟก็ไหม้บ้าน
น.ส.ประภาพร กล่าวต่อว่า ตนกับนายยุรนันท์มักจะมีปากเสียงกันบ่อยครั้งในเรื่องเงิน ยอมรับว่านายยุรนันท์มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการค้าและเสพยาเสพติด โดยพักหลังมีอาการติดยาเสพติดอย่างหนัก ไม่หลับไม่นอน นายยุรนันท์เข้าใจผิดว่าแม่ของตนเป็นคนแจ้งตำรวจ แต่ความจริงแล้วแม่ของตนไม่เคยยุ่ง นายยุรนันท์เคยใช้ปืนตบศีรษะแล้วทำร้ายร่างกายตน บ่อยครั้ง มีทั้งบีบคอและผลัก แต่ตนก็ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี ส่วนสาเหตุที่คาดว่าผู้ก่อเหตุลงมือ นายยุรนันท์เคยบอกว่าแม่ชอบยุ่งเรื่องของตนบ่อยครั้ง โดยตนได้บอกแม่ว่าอย่าเข้ามายุ่ง เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับแม่
ส่วนนายชัยวัฒน์ ได้รู้จักกับแม่มาพร้อมๆ กับนายยุรนันท์ โดยนายชัยวัฒน์เคยเดินทางมาที่บ้านแม่ในวันตรุษจีน ทำให้รู้จักสนิทสนมกัน แต่ตนไม่คิดว่านายชัยวัฒน์จะลงมือก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว หลังจากที่แม่ถูกจับตัวไป แม่ได้โทรศัพท์กลับมาให้ตนกลับไปรับ แต่ยังคุยไม่รู้เรื่องโทรศัพท์ก็ขาดการติดต่อ ตนได้โทรศัพท์กลับไปหานายยุรนันท์บอกว่าแม่โทรมาให้ไปรับ จนกระทั่งนายยุรนันท์พาแม่เดินทางกลับมาที่บ้าน ตนจึงทราบเรื่องทั้งหมดและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด
น.ส.ประภาพร กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงกลางดึก นายยุรนันท์ยังส่งข้อความมาขู่อาฆาตหมายเอาชีวิต ทางช่องแชตเฟซบุ๊กของตนอีกด้วย โดยมีข้อความโต้ตอบว่า คนแรกที่จะยิงคือแม่ภรรยา ภรรยา และลุงของภรรยา เหลือลูกกระสุนปืน 15 นัด จะยิงใส่ญาติพี่น้อง หากเป็นอะไรตาย ต้องเป็นฝีมือของนายยุรนันทน์ นิสัยของนายยุรนันท์คือพูดจริง ทำจริงและ ยิงจริง เพราะเคยโดนทำร้ายร่างกายด้วยการถูกบีบคอจนเกือบเสียชีวิตมาแล้ว
นอกจากนี้เมื่อช่วงสายของวันนี้ (10 ม.ค. 67) นายชัยวัฒน์ได้ให้ภรรยา และญาติขับรถกระบะคันที่นายยุรนันท์ขับมานำตัวแม่ไปในวันเกิดเหตุมาเจรจาพูดคุยว่าจะจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูแม่ โดยยื่นข้อเสนอให้เรียกร้องเท่าไหร่ก็ยอม แต่ขอให้แม่ไปถอนแจ้งความ แต่ตนปฏิเสธ และยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ส่วนความคืบหน้าคดี วันนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองรายในข้อหา ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการหรือไม่กระทำการหรือยอมจำนนต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต โดยได้กระทำโดยมีอาวุธปืน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้ปราศจากเสรีภาพและร่างกายร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตพบอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วน
ล่าสุดได้รับรายงานว่า สามารถควบคุมตัวนายยุรนันท์ได้แล้วอยู่ระหว่างนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.แก่งกระจาน
