ยิงปืนขึ้นฟ้าส่งท้ายปีเก่า กระสุนตกใส่หลังคาบ้านทะลุโดนโคนขาซ้าย ชายวัย 60 ปี ที่กำลังนอนพักผ่อนอยู่บนห้องนอนได้รับบาดเจ็บ
วันที่ 1 มกราคม 2567 พ.ต.อ.ภูมิบาล ทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.สุธีร์ สุบรรณกูล รองสวป.สภ.หาดใหญ่ มีเหตุใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าทำให้กระสุนปืนตกใส่หลังคาบ้านทะลุโดนขาชาวบ้านจนได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยสันติราช ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังรับรายงานจึงได้สั่งการให้ ร.ต.ท.กสิสังข์ พงศ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ และชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุภายในบ้านพักบ้านเลขที่ 17 ถนนสันติราษฎร์ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อนายโชคเดชแก้ว อายุ 60 ปี นอนอยู่หน้าห้องของลูกชายทราบชื่อ นายชุติพงษ์ เดชแก้ว อายุ37 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้บาดเจ็บโดยมีผ้าเช็ดตัวปิดห้ามเลือดที่บริเวณโค่นขาซ้ายอยู่เนื่องจากโดนกระสุนปืนปริศนาตกใส่ทะลุหลังคาบ้านลงมาจนได้รับบาดเจ็บกระสุนปืนฝังใน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อรักษาต่อและทำการผ่าตัดเอาหัวกระสุนปืนออกมาจากนั้นนายชุติพงษ์เดชแก้วได้พาผู้สื่อข่าวไปดูร่องรอยรูกระสุนปืนจำนวน 1 รูภายในห้องนอนของพ่อซึ่งกระสุนปืนได้ทะลุหลังคาบ้านและฝ้าเพดานลงมาตรงที่พ่อนอนหลับอยู่บนที่นอนพอดี
จากการสอบถามนายชุติพงษ์ ได้เล่าว่าช่วงก่อนเกิดเหตุตนเองได้นอนพักผ่อนอยู่ในห้องพัก จากนั้นพอถึงเวลาเที่ยงคืนได้ยินเสียงจุดพลุอยู่ประมาณ 15 นาที ตนก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องพร้อมกับเสียงตระโกนของพ่อตนเองว่าโดนยิง ก่อนที่ตนจะเปิดประตูออกไปดูพบว่าพ่อนอนกองอยู่กับพื้นบ้าน ซึ่งได้คลานออกมาจากห้องนอนเพื่อมาขอความช่วยเหลือตอนแรกตนยังไม่เห็นเลือดว่าโดนยิงตรงไหนก่อนที่ตนจะเปิดผ้าออกและเห็นเลือดไหลออกมาจากโค่นขาซ้ายตนจึงได้วิ่งไปดูที่ห้องนอนพ่อก็พบว่าที่ฝ้าเพดานเป็นรูอยู่และได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ซึ่งตอนแรกจะพาไปโรงพยาบาลเองแต่พ่อบอกว่าลุกขึ้นเองไม่ได้
ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังสอบปากคำลูกชายแล้วเสร็จต้องรอทางโรงพยาบาลหาดใหญ่ทำการผ่าตัดเอาหัวกระสุนปืนออกมาก่อนส่งมอบให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าหัวกระสุนปืนอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นกระสุนปืนของใคร
ซึ่งทาง พ.ต.อ.หญิงฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้มีการประชาสัมพันธ์เรื่องการยิงปืนขึ้นฟ้าว่ามีโทษอย่างไรโดยเปิดเผยว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความกังวลในกรณีที่มีเหตุการณ์สูญเสียชีวิตจากเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่2567ที่อาจเกิดจากค่านิยมที่ผิดความคึกคะนองขาดสติรวมถึงความรู้เท่าไม่ถึงการโดยการยิงปืนขึ้นฟ้าอันตรายเพราะกระสุนปืนที่ยิงออกไปนั้นอาจจะไปตกใส่บุคคลให้ได้รับอันตรายบางรายถึงขั้นเสียชีวิตหรือตกใส่หลังคาบ้านเรือนประชาชนจนได้รับความเสียหายซึ่งถือว่าเป็นความผิดและมีโทษตามกฎหมาย
การยิงปืนขึ้นฟ้านั้นมีความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“หากกระสุนตกใส่หรือทะลุหลังคาบ้านเรือนทำให้ทรัพย์สินเสียหายหรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา291 ผู้ใดกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัสต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
