เตือนภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ ระวังโจรแสบเดนคุกแกล้งป่วยเป็นคนไข้ ก่อนย่องลักทรัพย์ผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้เงินสดพร้อมบัตรเอทีเอ็มคนไข้ หนีลอยนวล สุดท้ายตำรวจแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามรวบตัวได้สารภาพสิ้น นำเงินไปซื้อยาบ้าเสพและเที่ยวเตร่
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2566 พ.ต.ท.ศิริ จันดีศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ได้สอบปากคำ นางสาวอรอุมา รักษายงค์ อายุ 20 ปี ชาวบ้านนาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ ว่าได้ถูกคนร้ายขโมยกระเป๋าสตางค์ของตนที่วางไว้ข้างเตียงคนไข้ ในห้องฉุกเฉินไอซียู โรงพยาบาลศูนย์ชัยภูมิ หลังจากนั้นได้ติดตามตรวจสอบเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลชัยภูมิสามารถบันทึกภาพคนร้ายเป็นชายใช้ผ้าปิดปากรูปร่างผอมสูง แกล้งทำที่ป่วยเป็นคนไข้เข้ามารับการรักษาตัวในห้องไอซียู ก่อนเข้ามาบริเวณเตียงคนไข้ของนางสาวอรอุมา ที่ป่วยโรคท้องร่วงปวดท้องอย่างหนัก เดินทางเข้ามารักการรักษาตัวที่ห้องฉุกเฉินซึ่งกำลังนอนป่วยหลับอยู่ข้าง ๆ
คนร้ายพยามมองหาทรัพย์สินของผู้ป่วยในห้องและเห็นกระเป๋าของนางสาวอรอุมา ที่นอนป่วยอยู่ข้าง ๆ วางอยู่บนข้างเตียงคนไข้ก็รีบหยิบ ก่อนลุกออกจากเตียงคนไข้ใส่เสื้อผ้าเดินหลบหนีออกไปจากห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแล้วหนีหายไป ก่อนผู้เสียหายจะโทรแจ้งความตำรวจให้มาตรวจสอบ
โดยหลังเกิดเหตุนางสาวอรอุมา ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ศิริ จันดีศรี สว.สอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ว่ามีคนร้ายเข้ามาลักเอาทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 3,000 บาท ที่เตรียมมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลบัตรประชาชนและบัตรเอทีเอ็มธนาคาร ธกส. ที่มีเงินฝากจำนวน 30,000 บาท ของตนเองอยู่ในห้องฉุกเฉินไอซียูโรงพยาบาลศูนย์ชัยภูมิ
ต่อมาพ.ต.อ.ประสิทธิ์เปรมกมลผกก.สภ.เมืองชัยภูมิได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ได้ตามแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดและตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ ทะเบียนประวัติคนไข้ จนสืบทราบว่าคนร้ายคือ นายสุวิท จินาวงค์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านแก้งยาว ต.ภูแลนคา อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ที่มีประวัติเคยต้องโทษเป็นคนร้ายในคดีลักทรัพย์และถูกดำเนินคดี 1 ปี หลังออกจากเรือนจำชัยภูมิได้ 7 วัน ก็กลับมาก่อเหตุอีกในโรงพยาบาลศูนย์ชัยภูมิ
นายสุวิท ยังไปก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์จากชาวบ้านที่จอดไว้ข้างทางแล้วลงไปหาปลาในหนองน้ำท้ายหมู่บ้านโนองโสมง ต.โคกสูง อ.เมือง จ.ชัยภูมิอีก ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก
ขณะที่นายสุวิท นอนอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวตรวจค้นพบมียาบ้า 3 เม็ดอยู่ในกระเป๋ากางเกงจึงควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าหลังจากเข้าไปขโมยกระเป๋าเงินในห้องฉุกเฉินและค้นพบเงินสด 3,000 บาท และบัตรเอทีเอ็มและนำบัตรเอทีเอ็มเผาทิ้งในป่าข้างบ้าน และต่อมาได้ไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้ข้างทางแล้วลงไปหาปลาในหนองน้ำท้ายหมู่บ้านโนองโสมงต.โคกสูงอ.เมืองจ.ชัยภูมิก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก
ส่วนยาบ้าที่พบในกระเป๋ากางเกงนั้น ตนได้นำเงินที่ขโมยมาไปซื้อยาบ้ามาเสพและเที่ยวเตร่ในเมืองชัยภูมิกับเพื่อน ๆ ก่อนจะมาถูกตำรวจจับกุมนอกนึ้นยังบอกอีกว่าหลังจสากพ้นโทษออกจากเรือนจำชัยภูมิตนได้กลับไปอยู่บ้านพักแต่ไม่มีงานทำเลยออกหาลักทรัพย์ทั้งในตัวเมืองชัยภูมิและในโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อนำเงินมาซื้อยาบ้าไว้เสพ หลังสอบสวนเสร็จได้พาตัวไปค้นหาหลักฐานเพื่อประกอบเป็นหลักฐานก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืนและลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ รวมเป็น2คดี
