เปิดชีวิตอดีตนักแสดงตลก “จอห์น มกจ๊ก” ชีวิตที่เหลือต้องสู้เพียงลำพัง หลังสามี “โจ้ มกจ๊ก” เสียชีวิตถูกคนปาหินใส่รถตู้ขณะเดินทางไปทำการแสดง และสูญเสียลูกสาวในเวลาต่อจากอุบัติเหตุรถเหยียบ
ล่าสุด “เอ็ม บุษราคัม” พาไปเยี่ยมบ้าน “จอห์น มกจ๊ก” ในยูทูบตอน ชีวิตที่ตกนรกทั้งเป็นของ จอห์น ม๊กจ๊ก| ไม่ลำบาก อย่าปากดี Ep.6 พร้อมกับบอกว่า "แฟนคลับบอกให้ไปอ่านบทความของพี่จอห์น ที่พี่จอห์นพูดถึงครอบครัวและเอ็ม เอ็มจำได้เสมอว่าเป็นคนตั้งชื่อให้น้องเจนนี่ ไม่คิดว่าพี่จอห์นจะจำได้"
ด้าน “จอห์น มกจ๊ก” บอกว่า "พี่จำได้หมดแหละคนที่ช่วยเหลือและมีบุญคุณ เราไม่ได้เจอกัน 20 ปีแล้ว ตั้งแต่เอ็มไปเรียนต่างประเทศ"
เอ็ม บุษราคัม : ช่วงที่เอ็มอยู่เมืองนอก ก็ได้ยินว่าพี่จอห์นเจออะไรมาบ้าง พอจะเล่าให้ฟังได้ไหม ?
จอห์น มกจ๊ก : "ปี 2547 ตอนนั้นน้องเจนนี่อายุ 1 ขวบ 6 เดือน ตื่นเช้ามาจะไปซื้อนมให้น้องเจนนี่ แล้วไก่กับแจ้เดินเข้ามาบอกให้ใจเย็นๆ นะ ทำใจนะ รถเราโดนวัยรุ่นปาหินใส่ โจ้เสียชีวิตแล้ว พี่ก็ทรุดลงไปไม่รู้นานแค่ไหน ถ้าเล่าเรื่องนี้ พี่แค้นพี่แน่นแต่พี่ก็ไม่อยากจะรื้อ (จะร้องไห้)"
"ช่วงชีวิตที่เหลืออยู่สองคนแม่ลูก หลังพี่โจ้เสียชีวิต ก็เปิดร้านอาหารตามสั่งหน้าบ้านและในเวลาต่อมาลูกสาว น้องเจนนี่ เกิดอุบัติเหตุรถทับ วันนั้นพี่จอห์นทำกับข้าว ส่วนน้องเจนนี่ไปเล่นกองทรายข้างบ้าน เขาไปเล่นทุกวัน แต่บังเอิญวันนั้นเขาอยู่คนเดียว ปกติทุกวันเขาจะอยู่กับเด็กคนอื่นๆ คนมาบอกลูกโดนรถเหยียบทับ ไปโรงพยาบาล เวลาที่เขาเสียชีวิต ตรงกับเวลาที่พ่อเขาเสียชีวิตเป๊ะเลย"
เคยคิดไหมว่า คำถามที่เขาถามมันแรงเกินไป ?
"แรง บางคำถามก็คิดว่า เอ๊ะ เขาให้กำลังใจกูหรือซ้ำเติมกู แต่ก็คิดว่า คนอย่างกู แค้นก็จริง กูหมดทุกสิ่งทุกอย่างแต่ต้องทำให้คนปกติรู้ซึ้งถึงใจกูว่าสู้แค่ไหน พี่ก็เลยตั้งสติ แล้วทำน้ำพริกนี้ขึ้นมา เพื่อที่ว่า เจ็บปวดแค่ไหนก็นี่กินน้ำพริกจอห์นสู้ชีวิต จะได้รู้ว่าพริกมันเผ็ดมันแสบแค่ไหน มันเหมือนความเจ็บปวดของเรามันเป็นยังไง"
"ชีวิตเราผ่านทุกอย่าง ฝ่าฟันให้หมด ให้จบชาตินี้ ไม่ต้องไปตามชาติไหนแล้ว เรื่องเวรกรรม"
"ส่วนเรื่องที่เขาปาหินพี่จอห์นก็อภัยให้เขาเรียบร้อยแล้ว เราคิดว่าถ้าเรายังโกรธแค้นเขาอยู่ โจ้ก็ไม่ได้ฟื้นขึ้นมา คนที่ทำก็ไม่ได้ตั้งใจ ชาติที่แล้วเราคงไปทำเขาไว้ก่อน เราก็ปล่อยวาง"