“ลุงพล – ป้าแต๋น” พร้อมรับฟังคำพิพากษาวันนี้

20 ธ.ค. 66

“ลุงพล – ป้าแต๋น” พร้อมฟังคำพิพากษา ด้าน “ทนายสุรชัย” ย้ำมั่นใจหลักฐาน ชี้หากผลเป็นบวกไม่คิดฟ้องกลับ บอกลูกความคดีนี้ถือเป็นวิบากกรรมถ้ารอดก็บุญแล้ว

19 ธ.ค. 66 เวลา 21.30 น. ที่โรงแรมริเวอร์ฟอร์น จังหวัดมุกดาหาร นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นางสมพร หลาบโพธิ์ จำเลยในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ พร้อมด้วย นายสุรชัย ชินชัย ทีมทนายความแถลงข่าวก่อนศาล จังหวัดมุกดาหารนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ (20 ธ.ค. 66 )

นายสุรชัย ระบุว่าตนเองในฐานะทนายความผู้รับผิดชอบคดี ยืนยันว่าลูกความของตนเองไม่ได้กระทำผิดและมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เสียชีวิตของน้องชมพู่ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 แม้แต่น้อย

พร้อมย้ำว่าหลักในการต่อสู้ของคดีระบุว่ามีทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย  ย้ำว่าจำเลยไม่มีเหตุจูงใจในการก่อเหตุทั้งเรื่องแย่งที่ดินทำกิน เรื่องชู้สาว หรือเรื่องทะเลาะวิวาท ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ปรากฏในสำนวนนำสืบของพยานโจทก์ และข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ปรากฏอีกว่า พ่อแม่ของน้องชมพู่และจำเลยไม่มีเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน และยังมีความรักใคร่สามัคคีกันในหมู่ญาติ และอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญทนายระบุว่าการตายของน้องชมพู่ลุงพลและป้าแต๋นไม่ได้ประโยชน์โดยตรง  เช่นกรมธรรม์ประกันชีวิต

พร้อมระบุว่าในทางต่อสู้ได้ใช้ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นผลชันสูตรน้องชมพู่มาหักล้าง ข้อกล่าวหาของโจทก์เพราะไม่พบดีเอ็นเอของลุงพลในร่างชมพู่และกางเกงที่ชมพู่สวมใส่ และข้อเท็จจริงอีกหนึ่งอย่างคือเส้นผมที่อยู่ในรถลุงพล  เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการแจ้งให้ทราบว่าค้นจุดไหนบ้าง  จึงมองว่าเป็นการได้วัตถุพยานไม่สุจริต และการตรวจแบบซินโครตรอนเส้นผม ก็ไม่มีรากผมจึงไม่สามารถตรวจดีเอ็นเอว่าเป็นเส้นผมของชมพู่หรือไม่  แต่สามารถตรวจได้แค่ พิสูจน์สาแหรกครอบครัวฝั่งแม่ของน้องชมพูเท่านั้น

อีกทั้งรถคันดังกล่าวเป็นรถที่ลุงพลและป้าแต๋นใช้เป็นประจำเคยพาน้องชมพู่ไปเที่ยวหลายครั้ง  และไม่เคยล้างรถเลย นอกจากนั้นไม่พบการทำร้ายร่างกาย ไม่พบสารพิษและสิ่งแปลกปลอม รวมถึงอวัยวะเพศมีเยื่อพรมจารีย์สมบูรณ์ จึงเชื่อว่าลูกความของตนเองไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง

ทนายความระบุด้วยว่าการไปเข้าเครื่องจับเท็จของจำเลยก็ไม่พบพิรุธแม้แต่น้อย  และยังไม่มีพยานคนใดเห็นว่าจำเลยอุ้มน้องชมพู่ออกไปสักบ้านดังนั้นคดีนี้จึงถือว่าถือว่าไม่มีประจักษ์พยาน

อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้ (20 ธ.ค. 66) เป็นวันฟังคำตัดสิน ศาลจะออกมาแทนทิศทางใดก็พร้อมที่จะเคารพในคำพิพากษา

ส่วนหากคดีเป็นบวกจะมีการยุติคดีหรือฟ้องกลับหรือไม่ ทนายความระบุว่าสู้กับเจ้าหน้าที่เอาตัวรอดก็เป็นบุญแล้วซึ่งให้ข้อคิดกับลูกความว่าอาจเป็นวิบากกรรมหรือกรรมอย่างหนึ่งที่มากระทบครอบครัวและไม่ควรผูกใจเจ็บควรจะให้อภัย ที่สำคัญอยากเห็นชุมชนกรอบมีความรักความสามัคคีกัน

ด้านลุงพล ระบุว่า มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง แล้ววันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค. 66)จะเป็นวันที่ทุกคนจะทราบว่าจะตัดสินอย่างไรขอให้รอฟังพร้อมกันและพร้อมน้อมรับ คืนนี้ยังคงนอนหลับปกติ ซึ่งถ้าผลออกมาทางลบก็พร้อมจะเตรียมนายประกันไว้

ขณะที่ป้าแต๋นระบุว่ารอฟังคำตัดสินในวันพรุ่งนี้(20 ธ.ค. 66) มีตื่นเต้นบ้างเป็นปกติเพราะอยากจะรู้ว่าเป็นอย่างไร ยืนยันว่าที่ผ่านมาก็ได้ต่อสู้อย่างเต็มที่แล้ว

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส