"ตู่ จารุศิริ" เผยเส้นทางรักสามีเด็ก อายุห่าง 13 ปี หวิดเลิกฟ้าผ่า งานแต่งเกือบล่ม

16 ธ.ค. 66

ตู่ จารุศิริ เผยเส้นทางรักสามีเด็ก อายุน้อยกว่า 13 ปี รื้อประวัติเหมือนผีบ้า หวิดเลิกฟ้าผ่า งานแต่งเกือบล่ม

 

ตู่ จารุศิริ ที่วันนี้ ควง “บี นรินทร์” สามีวัยละอ่อน อายุห่างกันถึง 13 ปี เข้าสู่ประตูวิวาห์ไปหมาดๆ ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา พร้อมเปิดเส้นทางรักที่มีระยะทางหลายพันกิโลเป็นเดิมพัน หวิดเลิกกันแบบฟ้าผ่า งานแต่งเกือบล่ม ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow 

ตู่ จารุศิริ
 
แต่งงานมากี่วันแล้ว?
ตู่ : 8 วัน
 
เป็นการออกงานคู่ครั้งแรก พี่บีตื่นเต้นมั้ย?
บี : ตื่นเต้น
 
ชินมั้ยเราเป็นสามีภรรยาแล้ว
ตู่ : จะบอกว่าแต่งงานเสร็จปุ๊บ เจ้าบ่าวก็กลับเชียงใหม่ ยังไม่ได้ไปไหน นี่ก็เพิ่งเจอกันหลังแต่งงาน เขาเพิ่งบินมาเมื่อเช้า เขามีงานต้องไปเคลียร์ ตู่ก็ถ่ายละครเหมือนกัน วันนั้นเลย

ตู่ จารุศิริ
 
ในงานมีซุปตาร์เบอร์ใหญ่มาในงาน?
ตู่ : คุณอั้ม พัชราภาค่ะ บรรยากาศในงาน ตั้งแต่แรก เราเล่นละครกับอั้มเรื่องล่าสุดคือลมพัดผ่านดาว ตอนนั้นอั้มรู้ข่าวแล้วว่าเมื่อปีที่แล้วเราขอผู้ชายแต่งงาน อั้มเจอหน้าก็แซว เธอขอผู้ชายแต่งงานเหรอ ยินดีด้วยนะ เราก็บอกว่าถ้าเราแต่ง เชิญมางานเราด้วยนะ เพื่อเป็นเกียรติกับเรา เขาก็บอกว่าได้ๆ แต่ ณ ตอนนั้นเราก็ไม่มั่นใจว่าเพื่อนจะมาได้มั้ย เพราะงานเขาก็เยอะ แล้วใกล้ๆ วันเกิดของอั้มด้วย ล่วงหน้าสักเดือนนึงเลยอินบ็อกไปหาในไอจีว่าเราส่งการ์ดมาให้นะ ยังไงเรียนเชิญอั้มด้วย สักชม.นึงได้ก็ตอบมาว่าได้เลย ปรากฏว่าน้องอีกคนที่เป็นเพื่อนสนิทของอั้มก็คุยกันว่าอั้มมาจริงหรือเปล่า เราจะได้เตรียมการต้อนรับ เขาก็บอกว่าอั้มมาแน่
 
ตอนที่เขาตอบว่าจะมา?
ตู่ : ก็ดีใจ ไม่คิดว่าอั้มจะมางานเล็กๆ ของเรา มันก็พูดไม่ถูก เราสนิทกันตอนเล่นเพลิงพระนาง เขาอวยพรว่าขอให้รักกันนานๆ มีเวลาคุยกันนิดเดียวค่ะ

ตู่ จารุศิริ
 
สามีรู้มั้ยพี่อั้มจะมางาน?
บี : พอรู้ ก็ตื่นเต้นและดีใจที่เขาเสียสละเวลามาร่วมแสดงความยินดี ผมไม่ค่อยได้คุยอะไรกับเขา ไม่เคยเจอมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก
 
ตื่นเต้นกว่างานแต่งคือได้เจอคุณอั้ม พัชราภา?
ตู่ : ใช่ ถึงขนาดช่างภาพยืนถ่ายรูปตรงแบ็กดรอปว่าเจ้าสาวเหงาแล้ว เพราะพออั้มมา ทุกคนก็ไปทางโน้นหมดเลย (หัวเราะ) เขาก็แซวกันเล่นๆ
 
นอกจากอั้มมีใครมาอีก?
ตู่ : เจ้านายโดยตรง คือพี่หลุยส์ สยาม สังวริบุตร แล้วก็ป๊อก ปิยธิดา ป๊อกก็เหมือนกันไม่ได้เจอนานมาก พอไลน์ไปหาเพื่อนเขาก็บอกว่าได้เลย เจอกันคุณ ด้วยความที่นานแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าเพื่อนจะมีเวลาว่างมางานให้เราหรือเปล่า
 
เขาแนะนำมั้ยหลังแต่งจะเป็นยังไง?
ตู่ : ไม่ได้แนะนำอะไรค่ะ แค่บอกว่าดีใจด้วยนะเพื่อน ดีแล้วที่เลือกคนนี้ ฝากว่าดูแลเพื่อนฉันดีๆ

ตู่ จารุศิริ
 
บีตอบยังไง?
บี : ยินดีครับ
 
มีเรื่องแอบน้อยใจกับการเชิญแขก?
ตู่ : ด้วยเราฟิกซ์แขก เราเชิญแขกประมาณ 150 คน บางคนเราก็เกรงใจเขา ไม่กล้าเชิญเขาแหละ บางคนอยู่ไกลเหมือนกัน บางคนเหินห่างกันไปเยอะแล้ว แต่รู้สึกว่าการแต่งงานของเรา เราอยากให้คนที่เขาเห็นเรามาตั้งแต่เด็กๆ เขามาจะอินกับความรักของตู่ กับบางคนที่ไม่ได้สนิทกับตู่มาก เขามาก็แค่อือๆ มันแต่งงานเหรอ เราอยากให้ทุกคนเห็นว่าในที่สุดเราก็แต่งงานแล้ว แล้วผู้ชายก็คือคนนี้ อิ่มเอมไปด้วยตรงนี้ บางคนไม่มา แล้วไม่บอกอะไรเลย จนถึงตอนนี้ก็ไม่บอกว่าสาเหตุที่ไม่มาเพราะอะไรเราก็นอยด์เหมือนกัน เพราะเกือบ 4 เดือนลงทุนทำเองทุกอย่าง เจ้าบ่าวอยู่เชียงใหม่ เขาก็ไม่ได้รู้จักแขกเพื่อนเราเท่าไหร่ ทุกอย่างเราต้องทำเองหมด เราเลยสตริกทุกอย่าง เราคิดแทนทุกคนหมด ทำให้เราเครียดเยอะมาก
 
อยากให้มีฟีดแบ็กหน่อย?
ตู่ : หลายคนเขาตอบว่าไป แต่พอถึงเวลาจริงๆ เขาไม่มา มีหลายคนนะ เช่น น้องเดียร์ ปริษา หรือพี่เงาะ กชกร อาจจะป่วยเลยมาไม่ได้ เขาก็ส่งไลน์มาว่าขอโทษนะ คุณมิ้งค์ กรรณสูตก็อีกคนนึงเหมือนกัน หลายท่านมาก เราแค่อยากให้ตอบเราสักนิดว่ามาไม่ได้ หรือมีเหตุการณ์อย่างนี้นะ แต่เขาหายไปเลย ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ งง (หัวเราะ)

ตู่ จารุศิริ
 
คนที่ไม่มา เรางอนๆ อยู่ในวงการมั้ย?
ตู่ : อยู่วงการก็มี ไม่อยู่ก็มีค่ะ เขาคงยังไม่รู้ตัว (หัวเราะ) ก็อยากบอกว่าจริงๆ แค่สะกิดมาหน่อยนึงก็พอว่ามาไม่ได้เพราะอะไรเราก็อยากให้มา อีกอย่างเราค่อนข้างสตริกคำพูดของคน ถ้าเขามาไม่ได้ อย่างบางคนเขาบอกเลยว่าผมมีคิวถ่าย หนูมีคิวถ่าย แม่หนูมาไม่ได้ จบแล้ว คนที่เราเชิญส่วนมากเป็นนักแสดง แต่อันนี้ไม่มาแล้วเงียบหาย ไม่บอกสักอย่าง เราก็เลยคิดว่าเขาไม่แคร์เราเหรอ งานแต่งงานของเรา เราเชิญแล้ว แล้วคุณตอบตกลงแล้ว อยู่ดีๆ คุณไม่มา ทิ้งไปเลยอย่างนี้เหรอ ก็นอยด์ เป็นคนขี้นอยด์อยู่แล้วด้วย
 
พี่บีปลอบใจมั้ย?
บี : ปลอบบ้าง
 
พี่บีเป็นคนเหนือแบบร้อยเปอร์เซ็นต์?
บี : ก็บอกเขาว่าอย่าไปสนทุกคนก็ได้ เข้าใจภรรยาเป็นคนแคร์คนอื่น
 
ทำเองหมดเลย 4 เดือน ร้องไห้ทุกวัน?
ตู่ : ไม่ถึงขนาดทุกวัน แต่ด้วยเครียด เรื่องงานก็ถ่ายละครไปด้วย 2-3 เรื่องในเวลาเดียวกัน ต้องท่องบทด้วย แล้วต้องมาดูว่าต้องเชิญใครมั่ง ใครจะอยู่ตรงนี้ ของชำร่วยล่ะ ของรับไหว้ผู้ใหญ่ล่ะ ติดต่อหรือยัง ทุกอย่างมันคนเดียวหมด เหมือนตั้งความหวังไว้สูงมาก แต่พอถึงเวลาไม่ได้ดั่งหวังก็นิดนึงเฟล ก็บ่นให้สามีฟังตลอด
 
ทำไมไม่บินมาช่วยจัดการ?
บี : ก็โทรศัพท์คุยกัน เราเองก็ไม่รู้จักเพื่อนเขาเยอะ

ตู่ จารุศิริ
 
พี่บีพูดน้อยอยู่แล้ว หลังแต่งงานพูดกันเยอะขึ้นมั้ย?
ตู่ : ไม่ค่ะ (หัวเราะ)
 
บี : เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย
 
ตู่ : จริงๆ แต่เห็นอย่างนี้เขาเถียงนะ เขาเป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก จุก เราบ่นๆ ไป แต่เขาพูดมาประโยคะนึงก็ไปต่อไม่ได้แล้ว อย่างไปเชียงใหม่ ต้องรู้ว่าเพื่อนเยอะ และเราชอบสังคม ไปเชียงใหม่ 7 วัน 6 วันอยู่สถานบันเทิง เขาก็ไม่พูดเลยนะ จนวันที่ 6 เขาก็พูดว่าไม่ไปได้มั้ย กินเหล้าเนี่ย ทำหน้าเฉยๆ ตู่มานี่ตกลงมาหาใคร มาหาบีหรือมาหาเพื่อนกันแน่ ก็จ๋อย ไม่รู้จะไปยังไงต่อแล้วกัน ก็บอกว่าเดี๋ยวคราวหน้ามาใหม่ (หัวเราะ) แต่เราก็ไปอีกค่ะ
 
บี : เราก็ไปด้วยกัน ไม่ถึงกับคุม ดูแลเขา
 
เห็นว่าช่วงเวลาเตรียมงาน พี่ตู่พยายามลดน้ำหนัก ดูแลตัวเองตลอดเวลา ลงไปกี่กิโล?
ตู่ : ตั้งแต่ต้นปีจนถึงงาน ลงไปเกือบ 9 กิโล เคล็ดลับเอียงๆ ไปอยู่กับคุณน้ำผึ้ง ณัฐริกา แล้วก็กินอกไก่ ไข่ต้มด้วยค่ะ แล้วหยุดการดื่มใดๆ เลย เราหยุดได้เดือนครึ่งค่ะ สามีก็ปลื้มปิติ (หัวเราะ)
 
เจอสามีเดือนนึงกี่ครั้ง?
ตู่ : ส่วนมาก 2 เดือนนึงขึ้นไปทีนึง แล้วแต่เราค่ะ
 
เจอภรรยาน้ำหนักลดฮวบ?
ตู่ : แต่ก่อนแต่งงานไม่ได้เจอกัน 4 เดือน เจอกันล่าสุดเดือนส.ค.
 
เจออีกทีตกใจมั้ย?
บี :  สวยขึ้นครับ ก็ชมเขาตลอดว่าวันนี้สวยเนอะ
 
ตู่ : เขาชมในวิดีโอคอล บางทีเราไปทำงาน เขาก็ชมว่าเราสวยเนอะ

ตู่ จารุศิริ
 
อยู่ห่างกัน การชมกันทำให้รักกันมากขึ้น?
บี : ก็เกี่ยวนิดหน่อย แต่ไม่เท่าไหร่
 
ตู่ : คู่เราไม่หวาน คบมา 5 ปีก็เป็นแบบนี้ หวานแหววน้อยมาก พูดทีก็กระดากปากตัวเอง
 
เส้นทางรักเจอกันได้ยังไง?
ตู่ : ครั้งแรกที่เราไปเชียงใหม่ แต่ช่วงนั้นตู่มีแฟน ตู่ไปเรียนเชียงใหม่ก็มีเพื่อนเยอะ จนวันนึงไปเที่ยวร้านของเพื่อน เราหันไปเห็นเขาก็รู้สึกว่าหน้าตาดีเนอะ แต่ทำอะไรไม่ได้ เรามีแฟนอยู่ ทำอะไรคงน่าเกลียดมาก ก็ทดไว้ในใจเฉยๆ (หัวเราะ) เขาเป็นคนหน้าตาดุมีซัมติง แต่คิดอะไรไม่ได้ เรามีแฟนอยู่ คืนนั้นแฟนเราก็ไปด้วย หลังจากนั้นประมาณ 3-4 เดือน เราเลิกกับแฟน เราก็ไปร้านนี้อีกเพราะเป็นร้านเพื่อนเรา ก็เจอเขาอีก นั่งโต๊ะติดกันเลย เขาก็ยิ้มๆ เราก็จำได้น้องคนนั้นนี่นา ก็ไปถามเขาว่ามีเฟซบุ๊กกันหรือยัง (หัวเราะ) เขาบอกว่าเดี๋ยวแอดไปครับ แล้วเขาก็แอด สักพักเขากลับ ด้วยบีอยู่กับคุณแม่สองคน สี่ทุ่มเที่ยวไหนก็ตาม ต้องกลับบ้านไปอยู่กับแม่
 
ตกใจมั้ยโดนรุกขนาดนี้?
บี : ตอนนั้นก็ชอบเขาครับ ก็คิดว่าพี่คนนี้ก็สวย
 
โมเมนต์แรกเจอกัน พี่บีเห็นพี่ตู่มากับแฟน จำได้มั้ย?
บี : ตอนนั้นยังไม่สนใจเพราะเขาอยู่กับแฟน ผมก็อยู่กับพี่อีกคน นั่งคุยกันเล่นๆ
 
ตู่ :   คืนนั้นพอแยกย้ายเขาก็แมสเซนเจอร์มาว่า พี่มาเชียงใหม่อีกเมื่อไหร่ครับ เราก็บอกว่าคงมาอีกทีปีหน้า นางก็บอกว่าคิดถึงแย่เลยครับ นี่ไง (หัวเราะ)
 
ปิ๊งเขาตั้งแต่เจอรอบสอง?
บี : ใช่ พี่เขาน่ารักครับ  
 
เรียกว่าพรหมลิขิตมั้ย?
ตู่ : ก็น่าจะได้นะ เขาเหมือนไม่น่ารอด ตอนนี้เราอายุ 47 แต่ตอนนั้นอายุ 42 เราแก่แล้ว คุยไปได้สองสามวันเราก็อยู่เชียงใหม่ต่อ จริงๆ ต้องกลับแต่เราไม่กลับ ทิ้งตั๋วเลยจ้า เราก็บอกว่าพี่อยู่ต่อนะ ไปกินข้าวกันมั้ย ก็ไปกินข้าวกัน และคุยกัน ก็ถามว่าน้องมีแฟนหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่ได้คบใคร ก็เลยถามเขาเป็นแฟนกันมั้ย มาคบดูมั้ย
 
บี : ตอนนั้นผมอายุ 28-29
 
อายุห่างกัน 13 ปี คิดว่าจะมีช่องว่างระหว่างวัยมั้ย?
บี : เป็นบางครั้งครับ บางครั้งคิดว่ามันดีที่เรามีคนให้คำปรึกษา
 
ตู่ : เหมือนแม่
 
บี : เฮ้ย (หัวเราะ) ให้คำปรึกษากับบางเรื่องที่ผ่านมา
 
ชอบคนอายุเยอะกว่าหรือเปล่า?
บี : ไม่เกี่ยวครับ
 
ตู่ : เราไม่ได้คิดจะมีแฟนเด็กเลย แต่ผู้ชายอายุเยอะกว่าเราก็ต้อง 45 46 50 แล้วใครจะมาเอาเรา ก็ต้องหาเด็กอายุ 25 แล้วคาแรกเตอร์แบบนี้ ผู้ชายอายุเยอะไม่ชอบแน่นอน แล้วเราเป็นคนไม่ยอมคน ทำอะไรต้องเป็นผู้นำ เราก็เลยคิดว่าเราต้องรุกแบบนี้ เราอายุเยอะแล้ว เขาก็เซย์เยสเลย
 
กลัวมั้ย?
ตู่ : ตอนนั้นก็กลัวค่ะ เลยนำไปสู่ช่วง 5-6 เดือนแรก เป็นหายนะกับเขามาก (หัวเราะ)
 
บี : เหมือนเขารื้อประวัติอาชญากรรม ยังไงยังงั้น ต้องไปดูในเฟซบุ๊ก
 
ตู่ : ย้อนเฟซบุ๊กเขา 5 ปี ก่อนเจอเราค่ะ ไปย้อนดูแล้วแบบ เขาคุยกับใคร ผู้หญิงคนนี้มากดหัวใจ แล้วผู้หญิงคนนี้มาแซวอะไร ย้อนทุกอย่าง แล้วแคปไปถามเขา นี่ใคร ทำไมรู้จักกันเหรอ ซึ่งจริงๆ อันนั้นก่อนรู้จักเราไง แต่ความเราต้องการรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง
 
ถามเพื่อนง่ายกว่ามั้ย?
ตู่ : เพื่อนก็บอกว่าเห็นแค่ภายนอก น้องเขาก็เป็นเด็กดีนะ แต่ไม่รู้ว่าเขามีความเจ้าชู้หรือเปล่า เราย้อนไปดูไกลมากเลย จนเกือบจะหมดเฟซบุ๊กเขาแล้ว

ตู่ จารุศิริ
 
มีอะไรสะกิดให้กลับไปดูข้อมูล?
ตู่ : ทั้งชีวิตหนูโดนผู้ชายทำร้ายมาเยอะ ง่ายๆ ผู้ชายเจ้าชู้ หลอกซ้ำหลอกซ้อน หลอกซ่อนเงื่อน จนไม่อยากเจอแบบนี้อีกแล้ว เหนื่อย ต้องเช็กจนเป็นบ้า ช่วงนั้นทะเลาะกันเยอะมาก
 
บีอึดอัดขนาดไหน?
บี : ก็อึดอัด เพราะเราเพิ่งเริ่มคุยกัน เขาไล่หมด
 
ผู้ชายโดนผู้หญิงจี้แบบนี้ 5-6 เดือนแรก คนอื่นเขาไปแล้วนะ ทำไมยังไปต่อ เลือกคนนี้?
บี : บางทีก็อยากสู้ อยากรู้ไปถึงเมื่อไหร่ ก็เลยคิดว่าลองดู เพราะไม่มีอะไรอยู่แล้ว
 
ตู่ : หลังจากเป็นบ้าได้ 5-6 เดือนก็หายไปเอง (หัวเราะ) เราคิดไว้เลยว่าคนนี้เป็นรถไฟขบวนสุดท้ายแล้ว ต้องบรู๊ฟให้เต็มที่ แล้วเรามีความเป็นบ้า ความจูเลี่ยนให้เขาเห็นตั้งแต่แรกว่าเราบ้า บรู๊ฟไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีอะไร เหมือนสมุดเปล่า มันหาไม่เจอ ค้นยังไงก็ไม่เจอ จนเราเหนื่อยเองค่ะ ค้นไปก็รังแต่ทำให้ประสาทเสีย สุดท้ายเราก็คิดว่าเขาก็คนดีนี่หว่า ถ้าคนเราจะเลว วันนึงก็เลวเอง รู้เองแหละ พอแล้ว เหนื่อยมาก
 
ไม่คิดไปค้นเขาบ้างเหรอ เขาค้นเราขนาดนี้?
บี : นิดหน่อยครับ เคยรื้อ แต่ไม่เจออะไรมาก ผมไม่เซ้าซี้ใคร
 
ยอมคน เขารื้อเราก็อดทน มีเหตุการณ์ไฝว้กัน ทะเลาะกันจนรู้สึกไม่ไหวแล้วมั้ย?
ตู่ : ช่วงนั้นแหละ แล้วเป็นคนคิดว่าตัวเองแก่ เป็นบ้าประชดเขาเอง เดอะเบสต์มาก
 
ถ้าสลับกันคิดว่าจะทนมั้ย?
ตู่ :   ไม่ (หัวเราะ) มันเลยเป็นจุดเปลี่ยน ที่รู้สึกว่า ถ้ากลับกัน ง่ายๆ ถ้าทุกวันหนูเที่ยวกับเพื่อน มีการดริ๊ง บางครั้งเราลืม เรากลับมาเมาไม่ไหวแล้ว เราไม่ได้ไลน์บอกเขา เราก็คิดว่าโดนแน่  เขาก็แค่ถามว่าทำไมไม่ไลน์บอก ถ้าเป็นบีบ้างเนอะ คงไม่ได้อยู่กันแบบนี้แล้ว เขาก็เป็นแบบนี้มาตลอด เราก็สองสามรอบที่ไม่ไลน์
 
เรารู้ตัวว่าเราชอบพูดประชด เราก็ประชดเขาอยู่ บีรู้มั้ยเขาประชด?
บี :   รู้ บางทีก็ไม่รู้ (หัวเราะ) ครั้งที่รู้ เขาก็ชอบประชดช่วงเวลาไปดื่ม เปลี่ยนร่าง อย่าง ใช่ซี้ คำแรกมาแล้ว เรารู้เลย เราก็บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกันก็ได้ แต่เขาไม่ยอม

ตู่ : เวลาประชดก็ยกเรื่องอายุมาประชด เพราะเป็นปมของเรา แก่กว่ากันเยอะมาก รู้สึกว่าจริงๆ ควรปล่อยเขาไปเจอสาวๆ ดีกว่ามั้ย ดีกว่าอยู่กับเรามั้ย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายผีเข้าผีออก

ตู่ จารุศิริ
 
พี่บีมีประโยคเด็ดตอบกลับมั้ย?
บี : มีครั้งนึง ผมตอบกลับไปว่า ทำยังไงได้ ทำให้ผมเกิดไวกว่านี้ไม่ได้
 
ตู่ : ตอนนั้นกำลังร้องไห้อยู่ เขาพูดคำนี้ เราก็นั่งเหวอไป อะไรอ่ะ (หัวเราะ) แต่มันโดนใจเรา สะกิดไปลึกมาก เราก็คิดได้ ปัญหาเรื่องอายุก็ลดลง
 
อีกปัญหา ระยะทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่?
ตู่ : ก็แค่หน้าปากซอย ส่วนใหญ่เราไปหาเขา เพราะเขาอยู่กับแม่สองคน ถ้าเขามากรุงเทพฯ ไม่มีอะไรให้พาเที่ยว แต่เราเคยอยู่เชียงใหม่ เราชอบไปเชียงใหม่ เราขับรถบ้าง ขึ้นเครื่องบ้าง รถไฟบ้าง เดือนนึงขึ้นไปที อาจอยู่ 7-10 วันค่ะ
 
พี่บีคบพี่ตู่ การพาพี่ตู่ไปแนะนำแม่ มาคุมั้ย?
บี :   ไม่ครับ แม่บอกว่าลูกรักใคร แม่ก็รักด้วย
 
แม่ได้เพื่อน?
ตู่ : แหม ประโยคเดียวกับพ่อดิฉันเลยค่ะ พ่อจะบอกว่าหูย เด็กกว่าเยอะเลยเหรอ คุณแม่ก็เหมือนเขาเลย ไม่ค่อยพูด แต่แม่ไม่มีอะไรยิ้มๆ แต่ให้มานั่งคุยแม่ไม่ค่อยเป็นแบบนั้น คาแรกเตอร์เขาไม่ใช่
 
บี : ถ้าแม่อยู่ในกลุ่มเขาจะพูดมากหน่อย ถ้าไม่รู้จักจะเบาๆ
 
ตู่ : ตัดภาพมาที่บ้านเรา สนุกสนาน บันเทิงมาก
 
ตอนเจอพ่อแม่เขาครั้งแรก?
บี : เกร็งครับ
 
ทำไมถึงขอพี่บีแต่งงาน?
ตู่ : เราคบมา 4 ปีแล้ว เราคิดว่าอยากแต่งงานแล้ว ไม่ได้อยากมีงานวิวาห์ใหญ่โตอะไรมาก ด้วยคุณพ่อเป็นข้าราชการ เคยเล่นละคร ก็อยากแต่งงานให้ท่าน ลูกเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว ก็ถามพ่อว่าถ้าลูกจะขอบีแต่งงาน พ่อก็เฮ้ยนิดนึง ได้มั้ย พ่อก็หัวสมัยใหม่ แม่ก็หัวเราะๆ ด้วยปีที่แล้วน้องชายแต่งงาน เขายังอยู่ต่อ ก็เลยทำแผนการหลังน้องชายแต่งงาน ก็หลอกล่อเขาใดๆ เขาให้ร้องเพลงแพ้ใจบนเวที เพลงประจำตัว ยังไม่ทันจบครึ่งเพลงก็เดินลงมา ไม่คิดว่าตัวเองจะร้องไห้ เคยคิดว่าทำไมจะแต่งงานต้องร้องไห้ ควรดีใจมั้ย แต่ ณ เวลานั้น ร้องทำไมวะ เราก็บอกว่าไม่เคยขอใครแต่งงาน ขอแต่งงานได้เปล่า
 
บีรู้สึกยังไง?
บี : ตกใจไปแป๊บนึง เหมือนตะหงิดๆ ก่อนแล้ว เหมือนต้องมีอะไรสักอย่าง แต่ไม่คิดว่าเขาจะขอแต่งงาน
 
คิดวางแผนมั้ยจะแต่งกับคนนี้?
บี : ก็คุยกันก่อนว่าสักระยะนึง ขอเก็บตังค์
 
ตู่ : เราก็บอกว่าเก็บตังค์ไม่มีในโลก งั้นแต่งเลยแล้วกัน ไหนๆ พ่อแม่เราอนุญาตแล้ว เราก็เลยขอเขาแต่งงาน
 
ตอนนั้นเป็นไง พอเขาขอแต่งงาน?
บี : ช็อกนิดหน่อย ทำอะไรไม่ถูก มือสั่น ไม่คิดว่าเขาจะพูดก่อน
 
ตู่ : จากนั้นก็โดนกระแสเหมือนกันนะ ไม่คิดว่าเว็บไซต์จะเอาเราไปลงหรอก เพราะเราไม่ใช่ดาราเบอร์ใหญ่ เราโดนว่าเรื่องขอผู้ชายแต่งงาน ดารารุ่นใหญ่ เราโกรธตรงนี้แหละ (หัวเราะ) ที่ดีๆ เราก็ขอบคุณ แต่บางคนเข้ามาบอกว่าหน้าด้าน กล้าขอผู้ชายได้ไง แต่มันยากตรงไหน เราคุยกันอยู่แล้วว่าจะแต่งแน่นอน การขอไม่มีกฎว่าผู้หญิงห้ามขอนะ

บี นรินทร์
 
มีไปฟาดมั้ย?
ตู่ : ตอบเหมือนกัน เป็นคนชอบตอบ สามีก็บอกว่าไม่ต้องไปสนใจ กำลังขึ้นๆ อยู่ ก็พูดภาษาเหนือว่าไม่ต้องไปสนใจ ช่างเขาเถอะ แต่ฉันส่งไปเรียบร้อยแล้วจ๊ะ
 
บี : ปล่อยวาง
 
เจอแต่ผู้ชายทำให้เสียใจ ครั้งนี้กับการตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับเด็กผู้ชายที่อายุห่างเรา 13 ปี ไม่กลัวเหรอ?
ตู่ : มันผ่านมา 5 ปีแล้ว เราคิดว่าอุปสรรคมันผ่านมาหมดแล้ว เราไม่สามารถบอกได้ว่า เราจะรักเธอจนชั่วฟ้าดินสลาย โลกสวยเกินเหตุ แต่ถือซะว่าวันนี้เราสองคนทำดีที่สุดแล้ว อนาคตให้เป็นเรื่องอนาคต แต่นั้นเองค่ะ
 
บี : เราก็รักเขาครับ
 
เกิดอะไรขึ้นเกือบไม่ได้แต่ง?
ตู่ : ด้วยความเขาหน้านิ่ง หน้าเดียว การแสดงออกเขาไม่ได้มีจริตจก้าน ช่วงที่เครียดๆ เกือบเดือนที่ทะเลาะกัน วิดีโอคอลคุยกันทุกวัน ด้วยความเราเป็นห่วงคุณแม่เขา เพราะต้องมากรุงเทพฯ กับเขาด้วย เราก็ถามว่าถ้าแม่ง่วงก่อน 4 ทุ่ม แม่จะอยู่โรงแรมได้มั้ย ถ้าเป็นคนอื่นอาจตอบว่าแม่ก็อยู่ได้แหละ งานเราจัดครั้งนึง แต่ตาคนนี้ไม่มีการประณีตใดๆ หน้าเขาก็บอกว่าแม่ก็ต้องอยู่ได้แหละ แต่เราก็ปรี๊ดมาก ทำไมต้องทำหน้าขนาดนี้ด้วย ไม่แต่งก็ได้นะ เราก็สวนกลับเดี๋ยวนั้นเลย ความรู้สึกนั้นเราเป็นห่วงแม่เขา
 
บี : ความหมายมันคนละอย่าง เหมือนความหมายเราอีกอันนึง ความหมายที่เขาคิดก็อีกอย่างนึง จริงๆ วันนั้นเราพยายามให้เขาเข้าใจว่าเราไม่ได้ทำหน้า ไม่ได้ไม่พอใจหรือยังไง ความหมายคือแม่ก็ต้องอยู่ แต่เราประดิษฐ์คำพูดไม่เป็น
 
จบยังไง?
ตู่ : เราเล่นละครเยอะ เราสามารถดูรีแอ็กเขาแล้วคิดไปตามละคร (หัวเราะ) เราคิดไปเยอะแยะ สุดท้ายพอเราวางโทรศัพท์แล้วมานั่งทบทวน งานก็มีแหละ จะยังไงดี เขาก็พยายามไลน์มาขอโทษ เขาไม่ได้ทำหน้าอะไรเลย ไม่ได้คิดอะไรเลยในหัวจริงๆ โล่งๆ
 
วางแผนมีลูกมั้ย?
ตู่ :   ไม่น่ามีแล้วค่ะ ไม่ทันแล้ว

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส