"เอสเธอร์" ถอยความสัมพันธ์ 7 ปี "เคน ภูภูมิ" เผยตอนนี้อยู่ในระยะรักษาใจ

เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา ถอยความสัมพันธ์ 7 ปี เคน ภูภูมิ เผยตอนนี้อยู่ในระยะรักษาใจ เปิดโอกาสให้ฝ่ายชายเดินหน้าง้อขอจีบใหม่

สำหรับคู่รักอย่างหนุ่ม เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค กับสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา ที่เจอข่าวคู่รักเลิกเงียบมาหลายครั้งแล้ว ล่าสุด เอสเธอร์ ได้ออกมาเปิดใจถึงความสัมพันธ์กับ เคน ภูภูมิ ว่าตอนนี้ได้ถอยความสัมพันธ์ 7 ปีแล้ว ได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน ตอนนี้อยู่ในระยะรักษาใจ เปิดโอกาสให้ฝ่ายชายเดินหน้าง้อขอจีบใหม่

ก็อาจจะต้องถอยกลับมา คืออย่างที่บอกไปครั้งทึ่แล้วคือเราไม่ได้รู้สึกเหมือนคู่รัก เรารู้สึกเหมือนเค้าเป็นคนในครอบครัวที่เรารู้สึกเป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกัน แต่ความรู้สึกที่เราคบกันแบบคนรักกัน ณ ตรงนั้นมันไม่มีแล้วมันไม่เหลือแล้ว เราก็บอกไปเขาไปอย่างนี้ตรงๆด้วย

เขาบอกว่าไม่อยากเลิก?
ต้องบอกว่าคู่ของหนูจริงๆมันมีปัญหากันแบบที่ใหญ่แล้วก็หนักในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในระหว่างที่คบกันแต่แค่เลือกที่จะไม่ได้พูด เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องในบ้าน เราก็อยากที่จะเก็บไว้ แต่มันยากกว่ามันจะถึงตอนนี้เราก็เลยรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆมันก็ไม่ดีไม่ดีต่อตัวเราเองด้วยและไม่ดีต่อตัวพี่เขาด้วย เรา ก็เลยเลือกที่จะคุยกับเขาตรงๆ

พยายามปรับตัวพยายามทำให้ดีขึ้นแต่มันก็กลับมาอยู่ในจุดเดิมที่มันไม่ได้มีการพัฒนาขึ้น คือไม่ได้ตกลง 1-2-3-4-5 แต่มันผิดที่คู่ของหนูเป็นคู่ที่ไม่สื่อสารกัน เปนคู่ที่ไม่ได้ดูแลใส่ใจในเรื่องของความสัมพันธ์วันหนึ่งเราลืมตาขึ้นมาแล้วเอ๊ะ ทำไมความสัมพันธ์เรามันเป็นแบบนี้ ทำไมมันไม่ดี ทำไมมันยิ่งแย่ลงทำให้มันไม่ดีขึ้น เราก็ต้องกลับมาคิดว่าเราควรจะแก้ไขยังไง

เรื่องเวลาที่ห่างกันหนูว่าไม่เกี่ยวนะคะ แต่อยู่ในจุดที่ว่าเราอายุเยอะทั้งคู่แล้วถ้ามันไม่ได้ดีขึ้น หรือถ้าคบกันแล้วมันไม่ได้ทำให้ทั้งคู่มีความสุขและดีขึ้น เราก็ต้องหันมามองไหมว่าเราจะเอายังไงต่อกับชีวิต เพราะถ้าเราคบกันไปแบบนี้เรื่อยๆก็เหมือนจะเสียเวลาทั้งคู่

เขาบอกว่าเดินหน้าง้อ เราจะให้โอกาสเขาไหม? คือหนูก็ไม่ได้ปิด เพราะเราก็ไม่รู้ว่าอนาคตเรา จะเป็นยังไงอย่างที่บอกเพราะณตอนนี้ความสัมพันธ์มันไม่ได้รู้สึกคนรักกันมันก็ต้องเริ่มสร้างใหม่ของแบบนี้อยู่ที่ว่าเราก็ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันว่าเราจะพัฒนาไปได้ดีขึ้นกว่าเดิมไหมหรือว่ามันจะไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางไหน เราก็เปิดโอกาสให้เขาและเปิดโอกาสให้ตัวเองด้วย

เราก็ไม่ได้ปิดเขาแต่เราก็ไม่ได้ปิดตัวเองด้วย เราแค่บอกในจุดที่เราเห็นปัญหาตัวเราด้วยและเขาเห็นปัญหาของตัวเราด้วย เราบอกในจุดที่ไม่โอเคของกันและกันทั้งคู่บอกไปตรงๆเรียบร้อยโอเคเคลียร์แล้วดูว่ามันจะไปในทิศทางไหนได้

ส่วนครอบครัวเราเขาว่ามันเป็นปัญหาแต่เค้ามองว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคนเค้าก็ได้แต่ขอให้คำปรึกษาอยู่ห่างห่างส่วนในเรื่องการตัดสินใจว่าเราจะเอายังไงต่อจะทำยังไงก็เป็นในส่วนของหน้าที่เราและพี่เขา

คิดว่าอาถรรพ์ 7 ปีเกี่ยวไหม?
หนูรู้สึกว่าเจ็ดปีมันเป็นช่วงระยะเวลาที่เราเรียนรู้ใครสักคนนึงรู้ถึงสันดานที่แท้จริงหมายถึงว่าสันดานที่เขารู้ของเราคือรู้นิสัยกันและกัน ตัวตนที่แบบแท้จริง

กำแพงไม่สูงค่ะแค่รู้สึกว่าต้องคิดให้ดีต้องเอาใจใส่ในเรื่องของความสัมพันธ์มากขึ้นไม่ใช่คู่กันแล้วก็ปล่อยปะละเลยมันเป็นสิ่งที่เราควรจะเอาใจใส่และดูแลรักษาให้มันดี

ตอนนี้รู้สึกว่าขอพักก่อนไม่รีบตัดสินใจทำอะไรด้วยสติไม่ใช้อารมณ์ในการดำเนินชีวิต ไม่เหงาค่ะ สถานะตอนนี้ เรียกว่ารักษาใจอยู่แล้วกัน ระยะทำใจ อย่างที่บอกคือการที่เราทำอะไรด้วยกันเยอะอย่างงานที่ต้องทำด้วยกันเราก็ต้องเจอกันบ่อยบ่อยอยู่แล้วเราก็เห็นเค้าเป็นเหมือนคนในครอบครัว ซึ่งเราก็อยากให้เขาได้แต่สิ่งดีๆก็รักแล้วก็หวังดีกับเขาเสมอ ตั้งแต่เขากลับมาเพิ่งได้คุยกันจริงๆจังๆก็เมื่อไม่กี่วันนี้เอง