พี่ชายเสี่ยแป้ง นาโหนด เชื่อน้องเตรียมปล่อยคลิป 4 ร้องขอความเป็นธรรม ก่อนตัดสินคดียิง ตร.ทางหลวง 25 ธ.ค. ไม่รู้อยู่ไหน แต่น้องกว้างขวาง
วันที่ 13 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีของนาย เชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนดนั้น ในวันที่ 25 ธ.ค. 66 ศาลจะตัดสินคดีของ เสี่ยแป้ง นาโหนด ในข้อหา “พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน” จากเหตุการณ์ยิงหน้าร้านอาหารเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 62 ซึ่งแน่นอนว่าถ้าผลการพิพากษาเป็นผลดีกับ เสี่ยแป้ง นาโหนดเป็นไปได้ว่าอาจจะมอบตัว แต่ถ้าเป็นผลร้ายถูกตัดสินประหารชีวิต เสี่ยแป้ง นาโหนดก็อาจจะหนีไปเรื่อยๆ
รวมถึงปัจจัยที่ เสี่ยแป้ง นาโหนด ออกมาอัดคลิปร้องเรียน กรณีไม่ได้รับความยุติธรรม และที่ซัดทอดไปเจ้าหน้าที่หลายคน หากได้รับความเป็นธรรม และมีการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ถูกอ้างถึง อาจจะมีผลกับการตัดสินใจของ เสี่ยแป้ง นาโหนด ว่าจะมอบตัวหรือไม่
ล่าสุดวันที่ 13 ธ.ค. 66 นาย กษิดิ์ชาติ ทองด้วง หรือ พงษ์ อายุ 53 ปี พี่ชายของ เสี่ยแป้ง นาโหนด ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ยอมรับว่านับตั้งแต่วันที่น้องชายหลบหนีออกจากโรงพยาบาล จนวันนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา ตนก็ไม่มีช่องทางติดต่อกับน้องชายด้วย จึงไม่รู้เลยว่า ณ เวลานี้น้องชายไปอยู่ที่ไหน แต่ถ้าให้เดาใจ เชื่อว่าน้องคงเตรียมจะปล่อยคลิป 4 ที่หลายๆ คนกำลังรอคอย ซึ่งเนื้อหาในคลิปที่ 4 ก็ยังคงอยู่ในรูปแบบของการขอความเป็นธรรม แต่จะเป็นประเด็นไหนนั้นก็ต้องรออัปเดทจากความคืบหน้าข้อเรียกร้องใน 3 คลิปก่อนหน้านี้ ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับน้องชายไปแล้วอย่างไรบ้าง และหนึ่งในนั้น ถ้าเขาได้ดูข่าว น่าจะเป็นเรื่องที่ตนถูกค้นบ้าน พร้อมถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าช่วยส่งเสบียงให้น้องชายด้วย
เมื่อถามว่า การออกคลิป 4 จะรอให้ผลการตัดสินศาลในวันที่ 25 ธ.ค. 66 ผ่านพ้นไปก่อนหรือไม่ นาย กษิดิ์ชาติ บอกว่า คลิปน่าจะออกมาก่อน เพราะผลตัดสินวันที่ 25 ธ.ค. มันสำคัญกับน้องชายมาก อาจจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าน้องชายจะออกมามอบตัวหรือไม่ด้วยซ้ำ ตนเชื่อว่าถ้าผลตัดสินตรงใจน้องอาจจะมามอบตัว แต่จะมอบกับใครนั้น ตนก็ตอบไม่ได้ แต่ถ้าผลออกมาไม่ตรงใจ น้องอาจจะหนีไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าสร้างความกังวลใจให้ครอบครัวพอสมควร เพราะไม่รู้เลยว่าความเป็นอยู่จะเป็นอย่างไร รวมถึงความปลอดภัยด้วย ถ้าถามตนว่าตอนนี้น้องชายหนีไปอยู่ที่ไหน ยอมรับเลยว่าตอบยาก และไม่คุ้นกับสภาพแวดล้อมในคลิปทั้ง 3 ด้วย
บวกกับเขาเป็นคนกว้างขวาง พรรคพวกเยอะ หลายๆ คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในคดี ตนไม่รู้จักด้วยซ้ำ แล้วยิ่งเรื่องของการข้ามแดนไปต่างประเทศ ส่วนตัวยืนยันว่าครอบครัวไม่ได้มีเครือญาติอยู่ต่างประเทศเลย น้องชายก็ไม่ได้เดินทางไปเที่ยวหรือทำงานที่ต่างประเทศด้วย ยกเว้นสมัยเด็กที่ไปแข่งรถมอเตอร์ครอสในประเทศมาเลเซีย
แล้วกับภรรยาของ เสี่ยแป้ง นาโหนด หลังจากเกิดเรื่องก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย ตนไม่มีคอนแทคตรงด้วย บวกกับทุกครั้งที่ขับรถผ่านหน้าบ้าน ก็เห็นว่าปิดเงียบตลอด แต่ก็เชื่อว่าเขาคงมีความกังวล เพราะได้ข่าวว่าทุกวันนี้ได้ใช้เงินเก็บแค่วันละ 150 บาท งานการก็ไม่ได้ทำ พอเสาหลักหรือน้องชายตนหายไป มันก็เดือดร้อนไปหมด มีแต่รายจ่าย ภาระหนี้สินก็ไม่น้อย ไหนจะหนี้รถ ค่าเทอม-ค่าใช้จ่ายของลูกอีก
สิ่งที่ตนอยากจะบอกกับน้องชายคือ เป็นห่วงความปลอดภัย อยากให้กำลังใจและอยากหวังว่าการแหกออกจากโรงพยาบาล เพื่อมาขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง น้องจะได้รับความเป็นธรรมตามที่ตั้งใจ ขอให้จบกันด้วยดีทุกฝ่าย ไม่เกิดความเสียหาย
ส่วนตัวไม่ขอกดดันให้น้องชายออกมามอบตัว แต่ขอให้เป็นการตัดสินใจของเขาเองน่าจะดีกว่า ถ้ารู้สึกว่าปลอดภัยก็ออกมา เพราะเอาตามตรงทุกวันนี้ตัวเองก็ยังหวั่นใจว่าถ้าน้องชายปรากฎแล้วจะเกิดความไม่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดจากการปะทะ ซึ่งส่วนนี้ครอบครัวมีการทำใจไว้บ้างแล้ว แต่ถ้าเป็นโทษประหารชีวิต อันนี้มองว่าสูงเกินความเป็นจริงไปหน่อย เนื่องจากในหลายๆ คดีที่ถูกตั้ง น้องชายไม่เกี่ยวข้องเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นตนเชื่อว่ายังไงก็ตาม ความยุติธรรมจะปรากฎ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่ง เสี่ยแป้ง นาโหนด ตกเป็นจำเลยคนที่ 5 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 62 ที่ร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.4 หมู่ 4 ถนนทางหลวงชนบทหมายเลข พท.2038 ตําบล/แขวง ปรางหมู่ อ.เมือง จ.พัทลุง ซึ่งฝั่งของผู้เสียหายคือ ด.ต.ไพบูลย์ บุญสนิท ตำรวจทางหลวง จ.พัทลุง
