"เบสท์ รักษ์วนีย์" เปิดใจน้ำตาคลอ ขอโทษแทน "พ่อสมรักษ์" ลั่นถ้าผิดก็ต้องยอมรับ

12 ธ.ค. 66

เบสท์ รักษ์วนีย์ เปิดใจน้ำตาคลอ ขอโทษแทน พ่อสมรักษ์ อยากให้เผชิญหน้ากับสิ่งที่เราทำ ถ้าผิดก็ต้องยอมรับ แต่ยังรักพ่อเหมือนเดิม พ่อแม่หย่าเป็นเรื่องของสามีภรรยาถ้าเขาสบายใจเราก็โอเค

จากกรณีเด็กหญิงสาววัย 17 ปี ได้เข้าแจ้งความอ้างว่าถูก สมรักษ์ คำสิงห์ พ่อของนักแสดงสาว เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ กระทำการอนาจารและลวนลามร่างกาย ก่อนที่สมรักษ์จะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน รวมถึงเผยว่าได้หย่าภรรยาไป 2 เดือนแล้ว

เบสท์ รักษ์วนีย์

ล่าสุด เบสท์ รักษ์วนีย์ ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า ก็ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจหนูค่ะ แล้วก็ ต้องรอดูว่าแบบคดีทนายจะจัดการยังไงก็ต้องรอตามขั้นตอนทางกฎหมาย คือหนูรู้เท่าที่พอเล่าก็คือตรงกับข่าวที่พ่อเล่าให้หนูฟังก็คือเหมือนที่ให้ข่าว หนูก็ทราบเหมือนกับทุกๆคน หนูก็ถามทนายทนายก็บอกว่าเดี๋ยวจะดำเนินคดีตามกฎหมายตรงนี้ก็ต้องให้ทนายกับพ่อคุยกันจัดการกัน

ได้คุยกับคุณพ่อไหม? ไม่ได้คุยเลย หนูไม่รู้นะว่ายังไงคือหนูรู้ว่าเขาอยู่ขอนแก่น แต่หนูไม่รู้ว่าเขารู้สึกอะไรยังไงแต่ว่ามันก็ไม่ได้มีใครรู้สึกดีอยู่แล้ว ทุกๆฝ่ายก็เสียความรู้สึกอยู่แล้ว รวมถึงตัวผู้เสียหายด้วย หนูก็อยากให้ทุกคนคอมเมนต์กันเบาเบาๆ อยากให้กำลังใจทุกๆฝ่ายดีกว่า

ก็คือตอนแรกเราก็ตกใจเหมือนกันเพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดข่าวที่ขึ้น พอเรามาคุยกันในครอบครัว มีเบสท์มีแม่แล้วก็โบ๊ท เขาโอเคเราก็ให้กำลังใจกัน 3 คน มันก็ต้องเดินหน้าต่อไป

ในส่วนของเรื่องครอบครัว อันนี้หนูรู้อยู่แล้วค่ะเพราะว่าตอนที่พ่อกับแม่หย่ากันพ่อกับแม่ก็มาบอกเราซึ่งเราก็โอเคเราแล้วแต่เขาอยู่แล้วมันเป็นเรื่องของสามีภรรยาถ้าเขาสบายใจเราก็โอเค ซึ่งตรงนี้เราทราบอยู่แล้วแต่ที่ไม่ได้ออกมาพูดเพราะแค่รู้สึกว่าพ่อหย่ากับคุณแม่เขาก็ยังอยู่บ้านเบสท์ คืออยู่คนละห้องแต่เขาก็ยังพักอยู่ที่บ้าน เราก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราออกมาพูดมันก็ยังไม่ใช่

ก่อนที่เค้าจะยุติความสัมพันธ์กันมีการได้มาคุยกับลูกทั้ง 2 คนไหม? บอกค่ะส่วนตัวเบสท์กับโบ๊ทคือเราก็โตแล้ว เราเข้าใจในเรื่องของความรัก คือถ้ามันไม่โอเคหรือไม่สบายใจก็แล้วแต่เขาตัดสินใจ สาเหตุอยู่ว่าน่าจะหลายหลายเรื่องรวมกัน คือเค้าอยู่กันมานานการที่จะหย่ากันมันก็ต้องมีหลายๆเรื่อง ตรงนี้เบสท์ไม่ได้ถามว่าเพราะอะไร ถ้าแม่สบายใจแบบไหนเอาตามที่แม่สบายใจได้เลยก็ขอบคุณแฟนคลับหนูและทุกๆคนที่ให้กำลังใจหนู คือหนูรับรู้และมันฮีลใจได้จริงๆค่ะ

เบสท์ รักษ์วนีย์

หลังจากนี้คุณพ่อน่าจะต้องได้กลับกรุงเทพอยู่แล้วเพราะเขาจะต้องมีหลายๆอย่างที่จะต้องเคลียร์ เพราะว่าทนายก็อยู่กรุงเทพยังไงเค้าก็ต้องกลับมาคุยอยู่แล้ว

ส่วนตัวหนูหนูบอกพ่อไปว่า ถ้าเกิดว่าพอผิดก็ต้องยอมรับผิดแต่ถ้าผมไม่ผิดแล้วถ้าพ่ออยากจะไปพักผ่อนที่ฝรั่งเศสหนูก็ออกค่าที่อยู่ค่าเครื่องบินอะไรให้ปกติค่ะ แต่ถ้าเกิดผลออกมาว่าเราผิดก็ต้องเผชิญหน้าหน้ากับสิ่งที่เราทำผิดก็คือผิด

คือเราก็รักพ่อแม่เราปกติ เขาเป็นพ่อแม่เรา มันเกิดขึ้นแล้ว ถ้าผิดก็คือผิดถูกก็คือถูก เพราะฉะนั้นเบสท์ให้กำลังใจพ่อนะคะ แต่ถ้าเกิดว่าพ่อทำผิดจริงๆก็ต้องรับผิด ซึ่งตรงนี้คือเราไม่รู้เหตุการณ์พ่ออยู่กับน้อง 2 คน เราไม่มีทางรู้ได้ ก็ให้กระบวนการทางกฎหมายพิสูจน์ หนูก็รักพ่อแม่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงหนูก็ซัพพอร์ตพ่อแม่เท่าที่หนูทำได้อยู่แล้ว

เราให้กำลังใจแม่ คือเราไม่ได้พูดอะไรมากคือมองตาก็รู้แล้ว สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็หนัก แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะเราก็เลือกไม่ได้ มันเกิดขึ้นแล้วเราเดินหน้าดีกว่า การที่เป็นหัวหน้าครอบครัวรับผิดชอบครอบครัวมันคือสิ่งที่ดีอยู่แล้ว

แต่ว่าปัญหาที่เข้ามามันอาจจะรู้สึกไม่ดีตรงทีว่าเราไม่ได้ทำแต่เข้ามาด่าเราบ้าง แต่ว่ามันเกิดขึ้นแล้วหนูก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน คือหนูโดนมาตลอดมันก็ห้ามไม่ได้ ก็แล้วแต่ทุกคนจะคอมเมนต์มันห้ามไม่ได้ สำหรับใครที่ให้กำลังใจขอขอบคุณมากๆเลยหนูรับรู้ค่ะ

หนูไม่เชื่อใครเลยมันพิสูจน์ไม่ได้เราไม่รู้ เราไม่ได้อยู่ในห้องนั้นเราไม่ได้อยู่ในคืนนั้นจะมีใครพูดความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ คือเราไม่มีทางรู้ แต่คือหนูก็ถามทนายว่าจะพิสูจน์ได้ยังไงมันก็ต้องตามขั้นตอนมันก็มีวิธีพิสูจน์อยู่แล้ว ตามกฎหมายตรงนี้ก็ต้องให้ทนายดูแล แต่ส่วนตัวถามว่าหนูเชื่อใครไหมหนูตอบตรงๆว่าหนูไม่ได้เชื่อใครเลย

เบสท์ รักษ์วนีย์

เบสท์เป็นห่วงอะไรคุณพ่อ? อย่าวที่เคยบอกตามรายการอยากให้ดูแลตัวเองดีๆ แล้วก็รอบคอบทั้งหมดทั้งมวลที่เบสท์พูดเบสท์ไม่ได้ว่าพ่อนะคะ ยังรักพ่อเหมือนเดิม ถ้าอะไรที่มันผิดก็ต้องพูดไปตามความผิด อะไรที่ควรจะตักเตือนมันก็ต้องเตือน แต่ว่าเบสท์ก็รักพ่อรักแม่เหมือนเดิม คือพี่ก็ลำบากใจเหมือนกันที่ต้องออกมาพูด เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดว่าเราไม่รักพ่อ คือเบสท์และครอบครัวเหมือนเดิมแต่ว่าเรื่องนี้ถ้าผิดก็ต้องว่าไปตามผิดค่ะ

หนูว่าเดี๋ยวนี้ชาวเน็ตแยกแยะได้แล้วก็เก่งแล้วค่ะ คือถ้าเราทำผิดจริงๆชาวเน็ตคงไม่ยอมอยู่แล้วแหละ แต่ถ้าเราทำถูกชาวเน็ตก็ จากที่เค้าด่าเดี๋ยวเค้าก็กลับมาอ่อความจริงมันเป็นแบบนี้ คือหนูรู้สึกว่าให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ใช้เวลาและพิสูจน์เองว่าเรื่องราวเป็นยังไง แต่ถ้าถามว่าพ่อหนูมีความผิดไหมมีความผิดอยู่แล้ว หนูก็ขอโทษแทนคุณพ่อด้วย

คือเรื่องนี้มันไม่ใช่เป็นเรื่องของเบสท์ ที่พูดไปอยากให้ทุกคนคือไม่ต้องเชื่อเบสท์ก็ได้ แต่ก็รอดูตามกระบวนการของกฎหมายแต่ในส่วนของเบสท์คือเบสท์ก็รักพ่อกับแม่เหมือนเดิม ขอบคุณกำลังใจเบสท์รับรู้ว่าทุกคนให้กำลังใจ ขอบคุณมากๆค่ะ

เบสท์ รักษ์วนีย์

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม