"ชัยชนะ" มั่นใจ 9 ธ.ค.นี้ ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่แน่นอน ย้ำต้องมีแผนฟื้นฟูพรรคให้กลับมาเป็นพรรคแกนนำในการเลือกตั้งรอบหน้าให้ได้ เตรียมคุย สส.ปัจจุบันและผู้ใหญ่ในพรรคเย็นนี้ มั่นใจมีผลต่อการตัดสินใจวันโหวตหัวหน้าแน่นอน
ที่อาคารัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 9 ธันวาคม นี้ ว่า จะได้หัวหน้าพรรคที่แท้จริงเนื่องจากได้เตรียมองค์ประชุมไว้พร้อมแล้วหากขาดอีกก็จะเติมจนครบ ส่วนผู้สมัครหัวหน้าพรรคนั้น เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง สมาชิกจึงเปิดกว้างให้โอกาสทุกคน แม้ผู้สมัครบางคนจะติดเงื่อนไขเป็นสมาชิกไม่ครบ5 ปี แต่เชื่อว่า สมาชิกจะให้โอกาส ลงแข็งขันด้วยเช่นกัน
ส่วนที่มีการประเมินว่า นางสาววทันยา ผ่านด่าน 3 ใน 4 แล้ว ก็จะสามารถนั่งเป็นหัวหน้าพรรคได้แน่นอน นายชัยชนะกล่าวว่าทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด
พร้อมมองว่าอนาคตของพรรคจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสมาชิก และก่อนจะถึงวันที่ 9 ธันวาคม น่าจะมีผู้ที่มีคุณสมบัติครบมาสมัครเพิ่มอีก ซึ่งขณะนี้มีเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง คือ พ.ท.หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล โดยผู้สมัครหัวหน้าพรรคแต่ละคนก็ได้หาเสียงกับสมาชิก
นายชัยชนะ ยังกล่าวถึงการประชุม ส.สพรรค ในเย็นวันนี้ว่า จะมีการพูดคุยเรื่องแนวทางของพรรค และใครที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป และเห็นตรงกันว่าจะไปทิศทางไหนมากกว่า ซึ่งคนนั้นก็จะได้โอกาสรับชัยชนะ พร้อมย้ำว่ามีผลต่อการเลือกหัวหน้าพรรควันที่ 9 ธันวาคม นี้ แน่นอน เนื่องจาก สส. คิดเป็นสัดส่วน 70% ของการโหวต แต่มั่นใจไม่มีคลื่นใต้น้ำ ดังนั้นขอให้รอฟังตอนเย็น
" พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรที่รู้ก่อนล่วงหน้าเลือกตั้ง 2 วัน อยู่แล้วเพราะประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีเจ้าของ ตนไม่ได้หมายถึงว่าพรรคการเมืองอื่นมีเจ้าของ ที่รู้เลยว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค เปิดตัวมา 7 วัน 10 วันหรือเดือนหนึ่ง คนที่จะเป็นหัวหน้าพรรคก็ไม่เปลี่ยนเลย แต่ประชาธิปัตย์ต้องลุ้นนาทีต่อนาที" นายชัยชนะกล่าว
ส่วนที่มีข่าวว่าจะไปขอให้นายเฉลิมชัยศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรค ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ขึ้นอยู่กับการพูดคุยทั้งหมดในเย็นวันนี้
นายชัยชนะ ยังบอกถึงกระแสข่าวที่มีชื่อตนเองเป็นเลขาธิการพรรค ว่า เป็นเพียงแค่ชื่อ ข่าวก็คือข่าว ข้อเท็จจริงอยู่ที่ตน ซึ่งตนยังไม่ได้มีการตัดสินใจอะไร แต่ตนก็พูดคุยกับทุกคนอยู่แล้ว รวมทั้งกับนายเดชอิศม์ ขาวทอง ก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่ตลอด แต่กลับมีว่านายเดชอิศม์ อยู่ฝั่งหนึ่ง ตนอยู่อีกฝั่งนึ่ง ซึ่งความจริงแล้วตนพูดคุยกับนายเดชอิศม์อยู่ทุกวัน ถ้าหากตนได้เป็นจริงตนก็ออกมาบอกอยู่แล้ว แต่ย้ำว่ายังไม่ได้ตัดสินใจยืนจุดจุดไหน ต้องคุยกับ สส.ปัจจุบันและผู้ใหญ่ในพรรคให้เห็นตรงกันว่า พรรคจะเดินไปอย่างไร ที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์ต้องสร้างความน่าเชื่อถือคือการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา ต้องทำอย่างจริงจัง และย้ำว่าพรรคอยู่ในช่วงฟื้นฟูให้กลับมาแล้ววันนี้ถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องมีเอกภาพ และความสามัคคี ดังนั้นหัวหน้าพรรคคนต่อไปต้องมีแผนฟื้นฟูพรรค ตนคิดว่าในการฟื้นฟูพรรคไม่ใช่ใช้เวลา 1-2 ปี แต่ต้องใช้เวลา 3 ปี และต้องเสนอแนวคิดนโยบายที่ดี การแก้ปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจ รวมทั้งการกระจายอำนาจ เพื่อทำให้พรรคกลับมาเป็นแกนนำในการเลือกตั้งรอบหน้าให้ได้
