นายกฯ รับไม่ได้เจ้าหนี้โหดบุกพังร้านส้มตำ ท้าทายอำนาจรัฐ

6 ธ.ค. 66

นายกฯ รับไม่ได้เจ้าหนี้โหดบุกพังร้านส้มตำบอกเป็นการท้าทายอำนาจรัฐ ใครที่ถูกเจ้าหนี้ข่มขู่สามารถแจ้งตำรวจได้เลย

วันที่ 6 ธ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เชิญ พล.ต.ท.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บัญชาการตำรวจภาค 3 พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภาค 1 และพล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา มาหารือการแก้ปัญหาหนี้ โดยเฉพาะกรณีเจ้าหนี้โหดบุกพังร้านส้มตำ ที่จังหวัดชัยนาท ระหว่างร่วมงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่เขาใหญ่จังหวัดนครราชสีมา

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ที่เชิญทั้ง3 ท่าน ก็เพื่อมารับนโยบายพอเป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้รับไม่ได้ ถือว่าเป็นการท้าทายไปหน่อย เรื่องนี้ต้องจัดการให้เด็ดขาด และต้องสาวให้ถึงตัวคนให้ได้

ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ผลักดันนโยบายแก้หนี้ จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้ การเป็นหนี้นอกระบบแล้วถูกรังแกด้วยเรทที่ไม่เป็นธรรม จะทำให้ไม่มีขวัญและกำลังใจในการทำงาน ซึ่งอาจจะทำให้หันไปพึ่งยาเสพติดหรือกลายเป็นอาชญากรเอง เพราะหาเงินคืนไม่ได้ ฉะนั้นเราต้องแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้ได้ ซึ่งตนจะมีการแถลงข่าวด้วยตนเองในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 นี้ ซึ่งจะมีการประชุมมอบนโยบายให้กับนายอำเภอและผู้กำกับทั่วประเทศ เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้สูงสุด

ส่วนเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ของเจ้าหนี้รายดังกล่าวนั้นคิดเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว ตอนแรกอ้างว่าเป็นเรื่องชู้สาว แต่มีหลักฐานจนรู้ว่าเป็นเรื่องของหนี้ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นสองวันก่อนที่รัฐบาลจะมีการประกาศเรื่องแก้หนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ ถือว่าเป็นการท้าทายเกินไป และบ้านเมืองมีขื่อมีแปล คาดว่าพรุ่งนี้จะสามารถจับกุมตัวต้นตอหรือผู้บงการได้ นอกจากนี้ยังได้มีการกำชับไปยังผู้บัญชาการตำรวจภาค 1 ให้ดำเนินการดำเนินการตามขั้นตอน และยังฝากไปบอกผู้บัญชาการภาคอื่นๆ ด้วย ว่าเรื่องนี้รัฐบาลยอมรับไม่ได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวนี้เราจะต้องดับไฟตั้งแต่ต้นลม เพราะถือเป็นการข่มขู่ ซึ่งรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดูแลคุ้มครองทุกคน ส่วนประชาชนที่ถูกข่มขู่สามารถแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลย เรายึดตามหลักกฏหมายอยู่แล้ว

ส่วนบางกรณีที่เกี่ยวข้องกับราชการหรือว่าผู้มีอิทธิพลนั้น จะแก้ไขปัญหาอย่างไรนายกรัฐมนตรีระบุว่าแต่ละกรณีมีความพัวพันแตกต่างกันไป ยืนยันว่าหากมีใครพัวพันก็จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้อย่าสรุปว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่หากพบว่าใครพัวพันจะต้องดำเนินการ และถ้ามีต้องจบเรื่องให้ได้พร้อมกับย้ำว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป เรื่องนี้นอกระบบเป็นปัญหาตั้งต้นของอะไรหลายหลายๆ อย่าง ทุกวันนี้เจอปัญหาว่าทำงานเท่าไหร่ก็ใช้หนี้ไม่หมด แถมยังถูกคิดดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม ประชาชนหลายคนที่ทำงานเหนื่อยแต่กลับไม่มีเงินเหลือเงินเก็บ ทำให้คิดมากและหลายคนต้องหันไปพึ่งยาเสพติดเสพ หรือนำไปสู่การกระทำผิดอีกหลายๆ อย่าง เราจึงต้องพยายามตัดไฟตั้งแต่ต้นลม พร้อมกับยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญครจริงๆ และในวันที่ 12 ธ.ค. จะมีการแถลงหนี้ในระบบด้วยเหมือนกัน

ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำว่าประชาชนต้องเข้าถึงเงินทุนได้ และกลับเข้ามาเป็นหนี้ในระบบ พร้อมทั้งชี้แจงว่าต่อให้แก้ไขหนี้นอกระบบได้เรื่องก็ยังไม่จบ แต่รัฐบาลต้องทำให้ผู้ที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนไม่ได้ เข้าถึงแหล่งเงินทุนให้ได้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ให้กู้ ทั้งเรื่องความเสี่ยงและผลตอบแทนต้องให้เหมาะสม

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส