ทนายเสี่ยแป้ง ยื่นขอความเป็นธรรม เผยส่งข้อความสัญญาณดีวางแผนมอบตัว

4 ธ.ค. 66

ทนายเสี่ยแป้ง ยื่นหนังสือ ขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวหลังพี่ชายถูกตำรวจค้นบ้าน เผย เสี่ยแป้ง ส่งข้อความสัญญาณดีวางแผนมอบตัว

ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความของ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ยื่นหนังสือถึง นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กรณีได้รับมอบอำนาจจากครอบครัวแป้ง นาโหนด ให้มาร้องเรียนเรื่องที่ตำรวจเข้าค้นบ้าน โดยครอบครัวหวั่นไม่ปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายธนกฤต ระบุว่าได้รับการประสานงานจากทนายความเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกับเสี่ยแป้งโดยตรง แต่เป็นเรื่องครอบครัวเสี่ยแป้งที่ได้รับผลกระทบจากการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ

และวันนี้ทนายชัชวาลย์ มาร้องทุกข์ถึงนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ผ่านตนเองว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่กระทำโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และให้ยื่นหนังสือไปยังคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ของสภาผู้แทนราษฎรด้วย รวมถึงยื่นหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ในการเข้าตรวจค้น และเชิญตัวบุคคลที่ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหา และผู้ต้องหา รวมถึงมีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหายหรือไม่

อีกทั้งต้องยื่นผ่านไปยังกรรมการสิทธิมนุษยชน เพราะการกระทำดังกล่าว ถูกต้องตามหลักสิทธิมนุษยชนด้วยหรือไม่ เพราะบางคนเป็นข้าราชการที่เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายเรียกได้ ตามกฎหมายอาญา แต่การกระทำดังกล่าวเป็นการเชิญตัวไปแล้วแจ้งข้อหาทันที จึงมีการมาร้องเรียนให้ตรวจสอบว่ากฎหมายอนุญาตให้ทำอย่างนั้นได้หรือไม่

โดยในวันนี้ได้ลงเลขรับหนังสือและส่งหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ทนายชัชวาลย์ร้องขอและมองว่าเรื่องนี้ขยายไปวงกว้าง ก็อยากให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างรอบคอบ

ทั้งนี้ทนายชัชวาลย์ ก็ยังกังวลเรื่องความปลอดภัย จึงขอยื่นมายังกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อขอคุ้มครองพยานด้วย ซึ่งวันนี้ทางครอบครัวแป้ง ก็กังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน จึงขอกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเพื่อให้มีการคุ้มครองพยานด้วย ทั้งนี้ก็ขอฝากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการติดตามตัวให้ใช้ความระมัดระวัง เพราะกฎหมายตอนนี้มีหลายส่วน โดยเฉพาะกฎหมายอุ้มหาและทรมาน

ซึ่งแป้งไม่ได้มีความสำคัญอะไร แต่เป็นประชาชนคนหนึ่งที่ร้องขอความเป็นธรรม ไม่เกี่ยวกับคดีความที่ดำเนินการอยู่ในชั้นศาลก็ต้องกลับมารับโทษ ดังนั้นจึงย้ำว่าต้องเรียกร้องให้แป้งกลับมามอบตัว เพราะมีผลกระทบกับคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงอยากให้มารับโทษโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้การกระทำของ แป้ง นาโหนด ผิดกฎหมาย แต่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ดำเนินการให้ เพราะต้องการให้แป้ง เข้ามอบตัวต่อกระบวนการยุติธรรมและเข้าสู่เรือนจำ หรือต้องการป้องกันความไม่ปลอดภัยที่เราเน้นย้ำว่าต้องปลอดภัยและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพราะคดียังไม่สิ้นสุด

ซึ่งเจตนาในครั้งนี้ของตนเอง ไม่ได้มีเจตนาที่ช่วยบุคคลที่กระทำความผิดกฎหมาย และยืนยันว่าตนเองกับเสี่ยแป้งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และตนเองรู่จักผ่านทางทนายความเพราะเป็นเพื่อนร่วมอาชีพทนายความด้วยกัน

นายธนกฤต ยืนยันด้วยว่าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ รับเรื่องราวจากทุกตนทุกประเภทไม่ใช่เลือกปฏิบัติ และตนเองไม่ได้เป็นตัวแทนของเสี่ยแป้ง และการทำหน้าที่เป็นการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจาก สมศักดิ์ ที่ให้มาทำหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์เพราะตนเองเป็นนีกกฎหมายและทนายความ และเคยเป็นเลขานุการกระทรวงยุติธรรมที่เคยรับเรื่องราวร้องทุกข์ จึงขอย้ำว่าไม่ได้เป็นตัวแทนของเสี่ยแป้งและไม่มีส่วนได้ส่วนกับเรื่องนี้ แต่ทำไปตามหน้าที่

ขณะที่ ทนายชัชวาลย์ ระบุว่า ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากคนในครอบครัวของเสี่ยแป้ง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเสี่ยแป้งที่เขารู้สึกว่าถูกคุกคามจากเจ้ากน้าที่ที่อาจจะไม่ยุติธรรมกับครอบครัว ซึ่งตลอดเวลาที่เสี่ยแป้งหลบหนี ครอบครัวยืนยันในความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเสี่ยแป้งเลย

โดยเฉพาะญาติสนิทลุงป้าน้าอาที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ในเรื่องของการออกหมายค้น อย่าง นายกษิดิ์ชาติ ทองด้วง หรือ นายพงษ์ พี่ชายเสี่ยแป้ง การกระทำหมายค้นมีเอกสารที่ถูกต้อง แต่การปฏิบัติหน้าที่หมิ่นเหม่โดยมิชอบหรือไม่ เพราะการกระทำวันดังกล่าวมีการเชิญตัวไปพบพนักงานสอบสวนแล้วก็แจ้งข้อกล่าวหาเลย ซึ่งการควบคุมตัวของพนักงานสอบสวน หากจะนำตัวไปสอบสวนหรือแจ้งข้อกล่าวหาใดๆนั้น เมื่อจะควบคุมตัวหรือแจ้งข้อหาจะต้องสิทธิต่อเขา แต่นายพงษ์ไม่ได้รับสิทธิ รวมถึงการถูกสั่งห้ามไม่ให้ถ่ายและยึดโทรศัพท์ ซึ่งจริงๆสามารถทำได้ รวมถึงการสอบสวนภรรยา และการนำนายพงษ์ไปฝากขัง ซึ่งอัตราโทษไม่ถึง 3 ปี ในชั้นพนักงานสอบสวนสามารถประกันได้แต่เหตุใดต้องไปส่งศาลและให้ประกันในชั้นศาล ทำให้ครอบครัวเชื่อว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

ซึ่งหนังสือร้องทุกข์ ของนายพงษ์ ถูกเขียนด้วยลายมือที่มาจากความรู้สึกของเขาเอง และการกระทำดีงกล่าวเป็นการกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะนายพงษ์ เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ดังนั้นการจะแจ้งข้อกล่าวหาต้องกลั่นกรองไม่ใช่ทำให้กระทบต่อหน้าที่การงานและชื่อเสียง จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรม และให้ตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่ และขัดต่อ พ.ร.บ.อุ้มหายหรือไม่

รวมถึงไปให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐกับเสี่ยแป้ง มีอำนาจตามกฎหมายอยู่แล้วแต่ต้องไม่เกินกว่าเหตุและมีของเขต โปร่งใส เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาของประชาชน

หลังจากยื่นหนังสือเสร็จสิ้น นักข่าวถามถึงเรื่องความชัดเจนในการมอบตัวของ เสี่ยแป้ง โดยทนายชัชวาลย์ ยอมรับว่า เสี่ยแป้งมีการส่งผ่านข้อความมาให้ตนเอง ว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีในระดับหนึ่ง ที่จะนำไปสู่การมอบตัว แต่ยังมีเรื่องความห่วงใยเรื่องความปลอดภัย รวมถึงญาติๆก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยด้วย

ส่วนการจะกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมเมื่อไรนั้น ยังตอบไม่ได้ จะต้องมีการประเมินก่อน โดยวันนี้สิ่งที่ได้เนินการทำแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ การรับฟังสิ่งที่เขาพูด และนำข้อรับฟังไปปฏิบัติและตรวจสอบ ส่วนข้อที่ 3 เสี่ยแป้ง คาดหวังผลของการตรวจสอบว่าออกมาเป็นอย่างไร ทำให้เป็นที่ประจักษ์ว่าสิ่งที่เขาร้องเรียนมาใครผิดใครถูก โดยนายธนกฤต ได้ส่งเรื่องไปยังหน่วยงานต่างๆแล้ว

ส่วนกระแสข่าวที่มีการระบุว่า หลบหนีไปส่วนยังประเทศลังกาวีหรือไม่ ทนายชัชวาลย์ ระบุว่า เป็นแค่การคาดเดา และแป้งก็ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาที่ตนเองโดยตรง และถ้ามีการไล่ล่าให้เขากลับมา มองว่าจะยิ่งเป็นการต่อต้าน ส่วนการจะมอบตัวนั้น คงต้องมีความเป็นรูปธรรม ชองกระบวนการยุติธรรมมากกว่านี้ที่ต้องอยู่ในระดับที่พึงพอใจ

ทั้งนี้ตนเองไม่ทราบว่าเสี่ยแป้งอยู่ที่ไหน และไม่คิดจะถามด้วย ถ้าเขาอยากบอกเขาก็จะบอก คาดว่าเสี่ยแป้งมีการปล่อยคลิปที่ 4 แน่ เพราะตนเองได้ฝากบอกเขาไปว่า หากยังมีอะไรที่ติดใจตกค้างอีก ก็เชื่อว่าคลิปต่อไปจะออกมา แต่จะไว้ใจใครส่งไปให้ใครก็ต้องรอดู แต่ส่วนตัวตนเองมองว่าในอนาคตจะมีกระแสข่าวที่เป็นข่าวดีก็ได้ เพราะหากประเมินจากหน่วยงานหลายๆหน่วยงานที่ทำแล้ว

ด้านนายธนกฤต บอกถึงกรณีการมอบตัวของเสี่ยแป้ง ว่า หลักๆ 4 คนที่เป็นตัวหลักที่เสี่ยแป้งเขาจะไปมอบตัวด้วย หนึ่งในนั้นคือทนายชัชวาลย์ ต้องอยู่ด้วย ทำให้ตอนนี้เรื่องใกล้จะจบแล้ว เหลืออีกแค่หน่วยงานบางหน่วยงานที่จะทำให้จบ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการต่อรอง แต่เป็นการให้หน่วยงานที่ปฏิบัติให้ครบ

“ตอนนี้เหลืออีกแค่ 20% แต่ยังไม่อยากพูดว่าหน่วยงานไหน แต่อยากทำให้เร็ว จะได้จบจะได้เอาภาษีประชาชนไปทำประโยชน์ให้ประเทศดีกว่าคิดว่าถ้าเขาพร้อมทำงาน ภายใน 1-2วันก็จบ เพราะวันนี้ได้เงื่อนไขจะสมบูรณ์อยู่แล้ว รู้อยู่แล้วว่าจะมอบตัวกับใคร 4 คน จึงอยากให้ใช้สมองทำงาน อย่าเป็นจระเข้ขวางคลอง ช่วยเป็นชาละวันให้เห็นหน่อย มันจะถึงเป้าหมายแล้ว อย่าใช้กำลังมันไม่ได้เรียกว่าเป้าหมาย มันเรียกว่าเป้ากางเกง ช่วยกันคิดหน่อย ผมไม่อยากต่อว่าไปมากกว่านี้ อยากให้กลับไปคิดบ้าง ช่วยหันหูมาฟังหน่อย ถึงผมจะอายุน้อยกว่า แต่สติปัญญาผมไม่ได้แพ้ใคร ผมอยากทำให้มันจบ ผมไม่ได้ทำคอนเทนต์ ไม่ได้มานั่งหาแสง แต่เป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำ”

นายธนกฤต ยังฝากบอกเสี่ยแป้งด้วยว่า “ถ้าทำให้ครบแล้ว อย่ามีข้อเรียกร้องอื่น ให้กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และกระบวนการยุติธรรมจะไม่สมบูรณ์หากยังขาดแป้งด้วย ถ้าได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วควรมามอบตัว ถ้าไม่มอบตัวคุณก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจะน่าชื่นชมกว่า”

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส