ช้างป่าเขาอ่างฤาไน ยกโขลงมาปราจีนฯ จากแปดริ้วกว่า 130 ตัว

4 ธ.ค. 66

ช้างป่าเขาอ่างฤาไน ยกโขลงมาไกลจากแปดริ้วกว่า 130 ตัว ไล่ไม่กลับถิ่นเดิม ติดใจไร่อ้อย-มันสำปะหลัง-สับปะรด-นาข้าว ชาวปราจีนฯ 

วันที่ 4 ธ.ค. 66 ที่ จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากอาสาสมัครชุดเฝ้าระวัง และผลักดันช้างป่าที่บ้านคลองยาง หมู่ที่ 11 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ในพื้นที่ป่าสะเดาบนเนื้อที่มากว่า 700 ไร่เศษ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นเขาไม้แก้ว (อบต.) และองค์การบริหารส่วนตำบลวังท่าช้าง (อบต.) อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา ได้บูรณาการร่วมกัน ผลักดันโขลงช้างป่าที่อพยพข้ามฝั่งจาก จ.ฉะเชิงเทรา ข้ามฝั่งเข้ามาหากินในป่าอ้อยของเกษตรกร 

โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังเป็น 3 ชุด ประกอบด้วยทีมบล็อกพื้นที่โขลงช้างป่า,ทีมเดินเท้าและทีมใช้รถกระบะรถไถเพื่อการเกษตรผลักดัน ติดตามและใช้โดรนความร้อนบินสำรวจ เพื่อค้นหาติดตามตำแหน่งโขลงช้างป่า ซึ่งช้างป่าจำนวนมากกว่า 130 ตัวหากินอยู่ในป่าอ้อยของชาวบ้าน 

ขณะที่เจ้าหน้าที่จุดประทัดผลักดัน เพื่อให้ช้างป่าออกจากพื้นที่ พบว่าโขลงช้างป่าได้แตกโขลงเป็น 2 โขลงใหญ่ พื้นที่แรกมุ่งหน้าไปบ้านคลองตามั่น ต.เขาไม้แก้ว พื้นที่ที่สองมุ่งหน้าไปบ้านเนินจินดา และบ้านโคกไม้แดง ต.วังท่าช้าง พบว่ามีช้างเพศผู้กำลังตกมัน 2 ตัว หากินและคุมขบวนอยู่ท้ายโขลง 

ขณะผลักดันช้างป่าได้เข้าไปอยู่ในป่ายูคาลิปตัส และแยกตัวออกจากฝูงใหญ่เป็น 2กลุ่มดังกล่าวข้างต้น และย้อนกลับมายังที่จุดเดิมในพื้นที่ป่าสะเดา บนเนื้อที่มากว่า700 ไร่เศษ เจ้าหน้าที่พยายามผลักดันออกจากพื้นที่ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากช้างป่าตัวใหญ่อ้อมไปทางด้านหลังของเจ้าหน้าที่ เกรงว่าช้างอาจชาร์ทได้และพบว่าในฝั่งตรงข้ามคือพื้นที่แถบหมู่บ้านห้วยกระโดด และหม่บ้านหนองใหญ่ ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัย เขตจ.ฉะเชิงเทราเขตรอยต่อกับ จ.ปราจีนบุรีได้มีการบล็อกพื้นที่ป้องกันไม่ให้โขลงช้างป่าหวนกลับ เนื่องจากเกรงว่าจะทำลายพื้นที่การเกษตร จึงจุดประทัดยักษ์สกัด และยังนำยวดยานทางการเกษตร อาทิ รถพ่วง, รถไถ, รถสิบล้อมาขวางทางผ่านโขลงช้างป่า เจ้าหน้าที่จึงยุติการค้นหาเพื่อความปลอดภัย 

ป้าสายรุ้ง สุทธิโต อายุ 47 ปี ชาวบ้านบ้านคลองยาง กล่าวว่า ได้ยินเสียงช้างร้องอยู่หลังบ้านหลายวันแล้ว ด้วยความกลัวจึงใช้เชือกขึงบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งติดกับถนน เป็นทางผ่านของช้างป่าที่เคยผ่านหน้าบ้านเมื่อ 2 ปีติดต่อกัน ที่ผ่านมากลัวช้างมาก เพราะอยู่บ้านคนเดียวนอนตี 2 ทุกคืน 

นายอุเทน ฉายาพัด เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปฏิบัติงาน (ปภ.) อบต.เขาไม้แก้ว กล่าวว่า นายประยูร สมโภช นายกอบต.เขาไม้แก้ว สั่งให้ออกมาเฝ้าระวัง และผลักดันช้างป่าที่มาหากินอยู่ในพื้นที่ ซึ่งได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีช้างป่ามาหากินอยู่ในป่าอ้อยมากกว่า 100 ตัว ทำให้พืชผลการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย จึงจัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ฯและชุดผลักดัน อบต.วังท่าช้าง ร่วมกันผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ แต่ก็ไม่สามารถผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจากช้างแตกฝูงแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย และมีช้างตัวใหญ่คุมหลังอยู่ 2 ตัว ฝูงช้างป่าออกจากป่าอ้อยกระจายไปอยู่ในป่ายูคาลิปตัส เจ้าหน้าที่จึงยุติการผลักดัน เนื่องจากทราบว่าฝูงช้างป่าอีก 30 ตัว เข้ามาหาฝูงใหญ่จึงยุติการค้นหาเมื่อกลางดึกเวลา 22.00 น. 

นายสุนทร คมคาย จิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่า กล่าวว่า พบว่าโขลงช้างป่าเข้ามาหากินในพื้นที่ 100 กว่าตัวจึงได้ร่วมกับชุดผลักดันช้างป่าวังท่าช้าง และเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ก็ไม่สามารถผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจากการผลักดันของเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายได้ผลักดันช้างกลับไปกลับมา เพราะไม่อยากให้ฝูงช้างกัดกิน และทำลายพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน การทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันขาดการประสานงานจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงทั้งระดับอำเภอ และผู้ว่าฯใน 2 จังหวัดอยากให้ทางอำเภอ และจังหวัดเข้ามาช่วยเหลือทางเจ้าหน้าที่ระดับล่างด้วยเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาได้ร่วมกันผลักดันมาแล้วก่อนหน้า และในคืนนี้จะร่วมกันผลักดันต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ