“เน็ตไอดอลสาวแฟนนักแสดงช่องดัง” ร้อง “สธ.” ถูกคลินิกดังจุดไฟเผาหน้าท้องสาหัส เสียค่ารักษา 3 แสน รับไม่ได้ ด้านหมอชิ่งหนีไม่รับผิด ด้านจนท.เตรียมบุกคลินิก บ่ายนี้
4 ธ.ค. 66 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ พาผู้เสียหายซึ่งเป็นเน็ตไอดอลสาวแฟนนักแสดงช่องดัง เดินทางมาที่กระทรวงสาธารณสุข ขอความช่วยเหลือกรณีคลินิกรักษาแบบเผาหน้าท้อง แต่เกิดผิดพลาดทำผู้เสียหายเกิดแผลไฟไหม้เกือบทั้งตัว
โดยนายกัณฐัศว์ ระบุว่าผู้เสียหาย เข้ารักษาที่คลินิกดังด้วยวิธีเผายาหน้าท้องที่มีสรรพคุณช่วยให้ผู้หญิงเลือดไหลเวียนดี แต่เกิดการผิดพลาด หมอฉีดแอลกอฮอล์ 95% ลงในผ้าและลุกลามไปตามร่างกาย และเมื่อเกิดเหตุหมอกลับวิ่งหนี ให้เหยื่อกับแฟนดับไฟกันเอง ซึ่งทางคลินิกและหมอไม่รับผิดชอบ และผู้ต้องหาต้องจ่ายค่ารักษาเอง 3 แสนกว่าบาท จึงได้เดินทางมาที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อมาขอความเมตตาเยียวยา และอยากให้สธ.ไปดูว่ารักษาถูกต้องหรือไม่
ด้านเน็ตไอดอลสาว ระบุว่าคลินิกได้ติดต่อแฟนมาอยากให้ทำการรักษาที่นั่น ตนก็ไปตกลงรักษาแบบเป็นโปรโมท โดยในการรักษาแบบจุดไฟเผาจะทำ 5 รอบต่อครั้ง ซึ่งระหว่างการรักษาตนเองว่ามีความผิดปกติตั้งแต่รอบที่ 2 ตนได้พยายามบอกหมอ แต่หมอยังเดินหน้ารักษาต่อจนกระทั่งเกิดไฟไหม้ลามไปที่ร่างกาย ในขณะนั้นหมอกลับวิ่งหนีออกไปไม่ช่วยเหลือ มีแค่ตนกับแฟนที่ช่วยกันดับไฟ โดยหมอได้วิ่งเข้ามายกมือขอโทษหลังจากไฟดับแล้ว
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ต้องนอนรักษารพ. 2 เดือน ไฟไหม้ระดับ 3 คิดเป็น 10% ซึ่งมีโอกาสเสียชีวิตได้
ตอนนี้บาดแผลกระทบกับงานเป็นอย่างมากและไม่สามารถโดนแดดได้ ยังต้องเข้าผ่าตัดเดือนละครั้ง ยังรู้สึกเจ็บอยู่และยังต้องรักษารอยแผลเป็นอย่างต่อเนื่อง
และเรื่องดังกล่าวส่งผลถึงสภาพจิตใจเป็นอย่างมาก จนเคยแอบคิดว่าไม่อยากอยู่แล้ว
ตนมองว่าหมอเป็นอาชีพที่มีคุณค่ามีเกียรติ วันนี้อยากมาเรียกร้องไม่ได้อยากมาทำลายเพียงต้องการความรับผิดชอบ อยากถามกลับด้วยว่าจิตใจมีความเป็นมนุษย์หรือไม่
นอกจากนี้อยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจอยากให้ทำงานด้วยความรวดเร็วไม่ใช่แค่คดีของตัวเองแต่รวมถึงประชาชนทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย
ด้าน นานแพทยท์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ทรงคุณวุฒิระดับ 11 ระบุว่า นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับว่าขอให้ดำเนินการอย่างเต็มที่
ซึ่งในบ่ายวันนี้จะส่งทีมเจ้าหน้าที่กระทรวงพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตรวจสอบ การจดทะเบียน การขออนุญาติ มาตรฐาน และจะประสานไปยังแพทยสภา และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลในทาวคดี แต่ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าผู้รักษาเป็นแพทย์จริง แต่อย่างไรก็ตามเท่าที่ดู มองว่าน่าจะมีความผิดในหลายข้อหา