ฝากขังไอ้คลั่งทำร้ายเด็กไม่สลด บอกเสพเม็ดเดียวก็เสียวได้

1 ธ.ค. 66

ฝากขังไอ้คลั่งทำร้ายเด็ก 9 ขวบ อาการโคม่า พบยังไม่สลดบอกเสพเม็ดเดียวก็เสียวได้ แม่ผู้ต้องหาวอนรัฐบาลปราบจริงจัง

วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ความคืบหน้ากรณีน้องฟิน เด็กชายวัย 9 ขวบ ชาวบ้านหนองผักตบหมู่ 4 ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ถูกนายทศพร โยลัย หรือ ปลิว อายุ 26 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกันเมายาบ้าบุกไปทำร้ายขณะน้องฟิน เด็ก 9 ขวบ ขณะเล่นอยู่กับเพื่อนที่บวชเป็นสามเณร ภายในวัดโพนสว่าง

โดยนายทศพร เกิดอาการคลุ้มคลั่ง บุกเข้าไปก่อเหตุทำร้ายเด็กๆโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งน้องฟินวิ่งหนีไม่ทัน ถูกทำร้ายโดยใช้ไม้ทุบตีจนสลบคาที่บนระเบียงกุฏิเจ้าอาวาส มีรอยทุบตีศีรษะปูดบวม เจ้าหน้าที่นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลโพนสวรรค์และส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม เนื่องจากอาการสาหัสมีเลือดคั่งในสมอง ล่าสุดน้องฟินยังไม่รู้สึกตัว อยู่ในห้องไอซียูเป็นตายเท่ากัน

โดยหลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพนสวรรค์ ได้เข้าจับกุมตัวนายทศพร ผู้ก่อเหตุพร้อมตรวจค้นเจอยาบ้าจำนวน 3 เม็ด และยังมีอาการหลอน

พ่อแม่ผู้ต้องหาไม่ขอยื่นประกันตัว ยอมรับเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย และไม่ขอช่วยเหลือลูกชายทางคดี ให้รับโทษตามกฎหมาย ยอมรับว่าติดยาเสพติดมานานหลายปี เคยนำไปบำบัดรักษาแต่ไม่หาย ย้อนกลับมาเสพอีก ก่อนเกิดเหตุสลดนายปลิวไปทำงานอู่ต่อเรือที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพิ่งกลับมาบ้านไม่ถึงสัปดาห์ก็ก่อเหตุไม่คาดคิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายทศพร หรือ ปลิว ผู้ต้องหาขณะตำรวจคุมตัวไปขึ้นรถนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม ยังพูดคุยอย่างไม่สะทกสะท้าน ไม่มีอาการหวาดระแวง ยอมรับว่าเสพยาบ้าไปแค่เม็ดเดียวก็เสียวได้ ซื้อมาจากเพื่อนในหมู่บ้าน ไม่มีเงินแต่มีเครดิตจึงได้มา 4 เม็ด หลังอาการสงบจึงรู้ตัวว่าทำร้ายเด็ก ฝากขอโทษผู้เสียหายพร้อมยอมสำนึกผิดทุกอย่าง

ส่วนสามเณรต้นกล้า อายุ 9 ปี เพื่อนคนเจ็บ เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุพากันเล่นบนกุฏิเจ้าอาวาสกับเพื่อน 4-5 คน รวมคนเจ็บด้วย ขณะเดียวกันไม่คิดว่าคนก่อเหตุจะคลุ้มคลั่งเดินมาในวัดและตะโกนเรียกหาคนในวัด พร้อมปาท่อนไม้ใส่ฝากุฏิเสียงดังโครม จึงพากันออกมาส่องดู พบคนก่อเหตุถือไม้ยาวประมาณ 1 เมตร กำลังวิ่งขึ้นบันได พวกตนจึงหาทางหลบหนี ขณะเพื่อนคือน้องฟิน ถูกคนก่อเหตุใช้ไม้ทุบตีล้มฟุบกับเพื่อนอีกคน แต่ละคนจึงฉวยโอกาสวิ่งหนี ดูจากอาการแล้วเหมือนคนคลั่งขาดสติทำร้ายมั่วไปหมด

ด้านปู่ของผู้ต้องหา ยืนยันว่าหลานชายมีพฤติกรรมอันธพาลเพราะติดยาเสพติด พ่อแม่เคยนำไปบำบัดหาทางรักษาแต่ไม่หายและกลับมาเสพอีก ไปทำงานต่างจังหวัดเพิ่งกลับมา ก็ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุทำร้ายคนอื่น ยอมรับเสียใจกับครอบครัวผู้เสียหายไม่รู้จะพูดอะไรเสียใจจนบอกไม่ถูก

ด้านแม่ของผู้ต้องหา เปิดเผยว่าปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมและต้องขอโทษครอบครัวผู้บาดเจ็บ ฝากถึงรัฐบาลช่วยปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง คิดอีกทีอยากให้เหมือนสมัยอดีตนายกฯท่านหนึ่ง ที่ปราบปรามยาเสพติดจนแทบจะหมดไปจากแผ่นดินไทย.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส