ตำรวจชุดปะทะ เปิดใจยืนยันไม่ได้ยิงก่อน แต่ เสี่ยแป้ง นาโหนด เปิดฉากสาดกระสุนใส่ ตร.3 นายตกหน้าผาสูง 5 เมตร ปัดใช้ M79 ย้ำไม่ได้ไปเพื่อวิสามัญ
วันที่ 30 พ.ย. 66 พ.ต.อ.พรหมพัฒน สนิทศรี รองผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 รักษาราชการแทนผู้กำกับการ ปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยหลังนาย เชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาคนสำคัญที่หลบหนี ออกมาเปิดเผยว่าไม่ได้ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปะทะ เพราะเข้าใจดีว่าเขามีครอบครัวต้องดูแลนั้นว่า
วันดังกล่าวตนนำตำรวจชุดแดนไทย 54 จำนวน 12 นายเดินทางขึ้นไปบนเทือกเขาบรรทัด เพื่อพิสูจน์ทราบจุดซ่อนตัวของ เสี่ยแป้ง นาโหนด ตามที่ได้รับแจ้งจากสายข่าว โดยตำรวจทุกนายเดินป่ามาแล้ว 4 วัน และหลายนายได้รับบาดเจ็บเท้าอักเสบ จึงสั่งพัก จากนั้นก็ส่งชุดลาดตระเวนล่วงหน้าไปดูเป้าหมาย กระท่ังใกล้ถึงพื้นที่เป้าหมายประมาณ 50 เมตร ตำรวจกำลังจะปีนหน้าผา ก็มีสุนัขตัวหนึ่งวิ่งมาหา ทำให้ตำรวจต้องกระโดดลงความสูง ประมาณ 5 เมตรก่อนหลบซ่อนตัวหลังต้นไม้ใหญ่และก้อนหิน
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ เสี่ยแป้ง นาโหนด ซึ่งตั้งแคมป์อยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ จุดที่ยุทธภูมิดีกว่าตำรวจ เพราะเป็นจุดสูงข่ม หันไปเห็นสุนัขวิ่งลงไปหาตำรวจก็ใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจก่อนทันที ทำให้ตำรวจยิงตอบโต้ โดยใช้อาวุธปืนกลสั้นลำกล้องสั้นที่พกพาสะดวก และปืนลูกซอง แต่ไม่มีการใช้อาวุธปืนเครื่องยิงลูกระเบิดM79 ตามที่ เสี่ยแป้ง นาโหนดกล่าวหา อีกทั้งจุดดังกล่าวเป็นป่าดงดิบทัศนวิศัยการมองเห็นได้เพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น ซึ่งตลอดเวลาปฏิบัติการคนนำทางเห็น เสี่ยแป้ง นาโหนดคนเดียวเท่านั้น
พ.ต.อ.พรหมพัฒน กล่าวต่อว่า ปฏิบัติการครั้งนี้แดนไทย54 ยืนยันว่าไม่ได้ไปเพื่อวิสามัญ เพราะหลังยิงตอบโต้ และไล่ล่าติดตาม เสี่ยแป้ง นาโหนดที่วิ่งหนีก็ตะโกนบอกให้หยุด ตำรวจล้อมไว้หมดแล้ว แต่ก็ไม่หยุด พร้อมยิงปืนเป็นชุดใส่ตำรวจต่อเนื่องก่อนสะดุดก้อนหินล้ม อาวุธปืนเอ็ม16 กระแทกต้นไม้เสียหาย และรองเท้าก็หลุด1ข้างโดยตำรวจพิิสูจน์หลักฐานเก็บไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว และยืนยันว่าตรงกับดีเอ็นเอของ เสี่ยแป้ง นาโหนด
ขณะที่สุนัขตัวต้นเหตุที่วิ่งมาหาตำรวจก่อนปะทะนั้น ตำรวจชุดแดนไทย54 นำกลับไปดูแลที่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 9 จ.ยะลา โดยมีการตั้งชื่อว่าเจ้าหมี และขณะนี้ก็ตามติดตน โดยมีท่าทีร่าเริงและเล่นกับทุกคน
_2.jpg)
.jpg)
