ทร. ยอมรับ ชายคลุ้มคลั่งบนท้องถนนที่กระบี่ เป็นพลทหาร ป่วยจิตเวช ไม่ได้เสพยาในค่ายจนหลอน หน่วยต้นสังกัดเตรียมพิจารณาปลด
วันที่ 25 พ.ย. 66 พล.ร.ต.วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่มีภาพข่าวปรากฏในสื่อว่ามีชายแต่งกายในชุดพรางทหารเรือ ท่าทางคล้ายกับคนเมายา ก่อความวุ่นวาย บนท้องถนนในพื้นที่ จ.กระบี่ จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นพลทหารสังกัดฐานทัพเรือพังงา โดยก่อนหน้าที่จะก่อเหตุ มีอาการป่วยทางจิต มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายข้าราชการในกองร้อย จึงได้นำเข้าสู่กระบวนรักษา โดยทางครอบครัวได้ติดต่อหน่วยต้นสังกัด เพื่อขอนำไปรักษาตัวต่อเนื่อง
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า พลทหารคนดังกล่าวประจำการที่กองรักษาความปลอดภัย ฐานทัพเรือพังงา หน่วยต้นสังกัดได้ตรวจพบว่า มีอาการผิดปกติ จึงได้นำส่งโรงพยาบาลฐานทัพเรือพังงา และวินิจฉัยว่าผู้ป่วยมีอาการทางจิตเวช แต่เนื่องจากโรงพยาบาลของหน่วยไม่มีขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยทางจิตเวชจึงจะส่งโรงพยาบาลของกองทัพเรือในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือ พื้นที่สัตหีบ ทำการรักษาต่อไป แต่ผู้ปกครองได้ติดต่อต้นสังกัดแจ้งว่า ลูกชายเคยเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดก่อนเข้าประจำการ จึงขอรับไปรักษาต่อเนื่องที่ สถานพยาบาลในภูมิลำเนา โดยหน่วยต้นสังกัดอนุญาตให้ทำการมาเยี่ยมภูมิลำเนาได้ตามชุดพัก
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเป็นข่าวและมีการเผยแพร่กันนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ป่วยได้มารับใบลาที่หน่วย และเดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมกับผู้ปกครอง ในระหว่างการเดินทางกลับได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งในรถส่วนตัว หลังจากนั้นได้ออกจากรถมาก่อเหตุสร้างความวุ่นวายบนท้องถนน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาระงับเหตุ และนำไปสงบสติอารมณ์ที่สถานีตำรวจเป็นเวลา1 คืน จึงได้รับการปล่อยตัว และทางผู้ปกครองได้นำตัวได้นำตัวไปรักษาและบำบัดยาเสพติด ที่ศูนย์มูลนิธิบำบัดยาเสพติด อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป
โดยล่าสุดในส่วนของกองรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือพังงา ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดได้ประสานกับบิดามารดาของผู้ป่วย เพื่อที่จะไปเยี่ยมอาการและให้ความช่วยเหลือครอบครัวตามที่หน่วยจะสามารถให้การช่วยเหลือได้ อีกทั้งจะได้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณา และขอความเห็นชอบจาก แพทย์ที่ทำการรักษา ตามระเบียบ เพื่อพิจารณาปลดกำลังพลผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตเวช เพื่อที่จะสามารถให้การรักษาได้อย่างเต็มที่ต่อไป
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า จากการที่มีสื่อมวลชนบางสำนักนำเสนอข่าวว่าผู้ก่อเหตุมีการเสพยาเสพติดในค่ายทหารจนออกมาก่อเหตุ และสร้างความวุ่นวายแก่ประชาชนนั้น เป็นข้อความที่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้กองทัพเรือมีมาตรการในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภายในหน่วยทหารอย่างเข้มงวด โดยผู้บัญชาการทหารเรือได้มีการกวดขันและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานของกองทัพเรือดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมถึงการให้การดูแลเอาใจใส่ทหารกองประจำการซึ่งถือว่าเป็นน้องเล็กคนสุดท้องของกองทัพเรือให้เหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
