ผบ.ตร.ยัน เสี่ยแป้ง ติดต่อมอบตัวจริง เป็นคนร้ายไม่มีสิทธิ์ต่อรอง

24 พ.ย. 66

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ยัน เสี่ยแป้ง ติดต่อ มอบตัว จริง เป็นคนร้ายไม่มีสิทธิ์ต่อรอง ยืนยันความปลอดภัยว่าจะไม่วิสามัญ

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการติดตามตัว นายชวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด ที่อยู่ระหว่างหลบหนี ว่า การติดตามตัวเสี่ยแป้งมีปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับพื้นที่ สภาพอากาศ ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักในพื้นที่ ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายที่หลบหนี อย่ามองว่า ตำรวจจับไม่ได้จริงๆ แล้วตำรวจไม่ใช่จำเลยของสังคม ตำรวจทำตามหน้าที่ที่ต้องตามจับคนร้ายให้ได้เพราะเป็นอันตรายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์หรือไม่ เป็นหน้าที่หลักของตำรวจ

จะไปบอกว่าใช้งบประมาณเท่าไหร่ ชีวิตคนเทียบเป็นเงินไม่ได้ เพื่อตามจับคนร้ายคดีอุกฉกรรจ์ ส่วนวิธีการว่าทำไปถึงไหนแล้ว หากบอกไป คนร้ายก็รู้หมด ยืนยันว่าทำเต็มที่ คนร้ายไม่มอบตัวตำรวจก็ติดตามตัวคนร้ายให้ได้ ตำรวจยังมั่นใจว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ หน้าที่ของตำรวจคือการจับกุมตัวคนร้ายให้ได้

ส่วนกระแสข่าวติดต่อเข้ามอบตัว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่าจริงๆ มีการติดต่อมา แต่ไม่ได้ติดต่อมาที่ตนเองโดยตรง ซึ่งผ่านอีกคนมา จึงบอกไปว่าไม่มีเงื่อนไข คนร้ายจะมาขอเงื่อนไขไม่ได้ ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย คนร้ายจะมามีเงื่อนไขไม่ได้ ให้มามอบตัวเท่านั้น ยืนยันความปลอดภัยว่าจะไม่วิสามัญฆาตกรรม แต่ไม่ยืนยันหากยังให้ตำรวจไล่ติดตามอยู่อย่างนี้แล้วยังมีการต่อสู้ ตำรวจจะต้องกระทำตามกฎหมาย หากญาติมั่นใจว่าจะพาเข้ามอบตัว ขอยืนยันในเรื่องความปลอดภัยให้นัดหมายสถานที่แล้วไปกับเจ้าหน้าที่และญาติ ตำรวจพร้อมจะรับมอบตัวอยู่แล้ว

ตำรวจจะต้องปลอดภัย เพราะไม่ใช่พื้นที่ของเรา หากเกิดการสูญเสียจะคุ้มกันหรือไม่ ขอให้อย่าบีบการทำงานของตำรวจ เพราะทุกชีวิตมีค่าทุกคน เมื่อเกิดการสูญเสียตำรวจก็จะตกเป็นจำเลยของสังคม ตำรวจไม่ใช่จำเลย ตำรวจกระทำหน้าที่จับคนร้ายที่หนีการควบคุมมา อย่ากดดัน หน้าที่ของตำรวจคือติดตามจับกุมเท่านั้น ตำรวจทำงานตามหน้าที่ และพร้อมรับมอบตัว คุณจะหนีไปทั้งชีวิตหรือ

หากมีอะไรที่ยืนยันด้วยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ทุกอย่างที่จะบ่งชี้ว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่ หรือหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว ขอให้รอการพิสูจน์ทราบว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งจะต้องยืนยันทั้งนิติวิทยาศาสตร์ พยานวัตถุที่เขาทิ้งไว้ และประจักษ์พยาน หากยืนยันได้แล้วว่าไม่อยู่ในพื้นที่ก็จะถอนกำลัง จากนั้นก็ต้องไปไล่ตรวจสอบกันใหม่ หากไม่อยู่ในพื้นที่แล้วจะหลบหนีไปที่ใด เป้าหมายของตำรวจคือจะต้องนำตัวคนร้ายกลับมาให้ได้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส