ตำรวจเปิดตู้เซฟชายไต้หวันที่โดนฆ่ามัดมือเท้าหมกโรงแรม พบแบงก์ปลอมสกุลดอลล่าร์ อุปกรณ์ปลอมแปลงธนบัตร คาดปมสังหารอาจขัดแย้งจากเรื่องดังกล่าว
สำหรับความคืบหน้ากรณีพบศพนายชู เชียง เฉิน อายุ 47 ปี ชายชาวไต้หวัน ถูกฆ่ามัดมือมัดเท้าหมกในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านถนนอุดมสุข เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 20 พ.ย. 66 พ.ต.อ.สุรพงษ์ สุขแย้ม ผู้กำกับ สน.บางนา เชิญญาติของนาย ชู เชียง เฉิน ที่ถูกฆาตกรรมเสียชีวิต สอบปากคำญาติ ซึ่งเป็นพี่สาวและพี่ชายของผู้ตาย พร้อมทั้งทำการเปิดตู้เซฟ จำนวน 2 ตู้ ที่ได้จากห้องพักที่เกิดเหตุ โดยคาดว่ามีทรัพย์สินของผู้ตายอยู่ เนื่องจากมีรอยนิ้วมือเปื้อนเลือดติดอยู่บริเวณตู้เซฟ 1 ตู้ โดยขั้นตอนการเปิดตู้เซฟ ตำรวจได้เรียกช่างจากบริษัทของตู้เซฟมาดำเนินการเปิดต่อหน้าพยานที่ประกอบด้วยตำรวจ และญาติผู้เสียชีวิต
จากการเปิดตู้เซฟตู้ที่ 1 พบธนบัตรคล้ายสกุลเงิน 100 ดอลล่าสหรัฐปลอม (Black money) จำนวนมาก และอุปกรณ์พิมพ์ธนบัตรปลอม เช่น แผ่นอะลูมิเนียมแป้นพิมพ์ธนบัตร กระดาษสีเขียวและสีดำขนาดเท่าธนบัตร เตารีด และอุปกรณ์อื่นๆ อยู่ภายใน ส่วนอีกตู้เซฟอีก 1 ตู้ ไม่พบสิ่งของภายใน
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 และ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางมาสมทบในการเก็บพยานหลักฐานในตู้เซฟเพิ่มเติมด้วย และภายหลังการตรวจสอบตู้เซฟแล้วเสร็จ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า ตรวจสอบตู้เซฟ ได้ทั้ง 2 ตู้ ที่พบหลักฐานซึ่งเป็น black money หรือ ธนบัตรคล้ายดอลล่าสหรัฐ และอุปกรณ์ปลอมแปลงธนบัตร ที่คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับผู้ตาย ซึ่งจากเหตุการณ์ฆาตกรรมขึ้นจะไม่ทิ้งประเด็นว่าเป็นความขัดแย้งกันภายในกลุ่ม และมีความคล้ายคดีในอดีตที่เกี่ยวข้องกับ black money ซึ่งต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ขณะที่การสอบสวนญาติผู้ตายเบื้องต้น ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เพราะผู้ตายไม่เคยเล่าให้ฟัง ซึ่งหลักฐานทั้งหมดนี้ก็จะเก็บไว้เพื่อให้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบขยายผลต่อไป แต่ยังมีทรัพย์สินของผู้ตายที่ยังหาไม่เจอ คือ โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตของผู้ตาย
ส่วนเรื่องคดีหลังจากนี้ต้องรอการติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 2 คนให้ครบก่อน ซึ่งตัวของ น.ส.นภัสรดา ที่เป็นสาวนกต่อ คาดว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย ส่วนชายสัญชาติแคมอรูนหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งญาติผู้ตายได้ฝากให้ตำรวจช่วยติดตามตัวให้มาดำเนินคดีให้ได้ ขณะที่ร่างของผู้ตาย พรุ่งนี้ญาติของจะทำเรื่องขอรับศพ ไปทำการประกอบพิธีฌาปนกิจ ที่วัดบางนานอก ก่อนจะนำกระดูกกลับไปประเทศไต้หวัน ส่วนเรื่องคดีจะให้กงศุลไต้หวันดำเนินการติดตามให้ต่อไป
