เปิดใจพี่สาวเสี่ยแป้ง นาโหนด เชื่อน้องชายไม่ออกมา หากตร.ยังกดดันไม่ยอมถอย

16 พ.ย. 66

เปิดใจพี่สาวเสี่ยแป้ง นาโหนด เชื่อน้องชายไม่ออกมา หากตร.ยังกดดันไม่ยอมถอย ขณะที่ครอบครัวระแวงเบอร์แปลก หวั่นเหมารวมหาว่าช่วยเหลือ 

สำหรับความคืบหน้าการไล่ล่า เสี่ยแป้ง นาโหนด หรือนาย เชาวลิต ทองด้วง ผู้ต้องหาหลบหนีคดี ภายหลังที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปิดล้อมบริเวณเทือกเขาบรรทัด เขตรอยต่อ พัทลุง-ตรัง หมู่บ้านใจกลางหุบเขา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังพบเบาะแสว่า เสี่ยแป้ง นาโหนด กบดานในหมู่บ้าน จนกระทั่งมีการปะทะกัน และยึดอาวุธปืน สงคราม พร้อมเครื่องกระสุนได้บางส่วน 

ล่าสุดวันที่ 16 พ.ย. 66 นางกรอง ทองด้วง พี่สาวคนโตของครอบครัว เสี่ยแป้ง นาโหนด ให้สัมภาษณ์กับ ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ว่า ส่วนตัววันนี้กล้าที่จะออกมาเปิดหน้าเพราะอยากสื่อสารให้สังคม และเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือชุดปฏิบัติการที่มีการตามไล่ล่าน้องชาย โดยที่สังคมเองตั้งข้อสังเกตว่าอยากจะให้ในส่วนของเครือญาติได้ออกมาช่วยไกล่เกลี่ย หรือเจรจาให้ทาง เสี่ยแป้ง นาโหนด ได้เข้ามามอบตัวกับทางตำรวจหากอยู่ในพื้นที่บริเวณเทือกเขาบรรทัด 

ในส่วนนี้ตนในฐานะพี่สาว อันดับแรกตนเองอยากจะขอความปลอดภัยให้กับทางน้องชายว่าหากเขาเองประสงค์จะมอบตัว แล้วจะมีใครสามารถการันตีหรือยืนยันได้ว่าไม่มีการวิสามัญ หรือ ยิงปะทะ 

ตนขอย้อนถามเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการว่า จุดประสงค์ของการล้อมจับจะเป็นการวิสามัญ หรือให้เขาออกมามอบตัว หากประสงค์อยากจะให้เขาออกมามอบตัว ทางครอบครัวก็จะหาช่องทางเพื่อไกล่เกลี่ย หรือหาโอกาสให้ครอบครัวได้มีช่องทางในการติดต่อกับตัวของน้องชาย แต่ก็ต้องการันตีว่าการเข้าไปติดต่อครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือเหมือนครั้งก่อนที่ทางน้องชาย หรือลูกพี่ลูกน้องของ เสี่ยแป้ง นาโหนด โดนตั้งข้อหา ทั้งที่ไม่ทราบเรื่องหรือไม่ได้รู้เห็น ในส่วนของการเข้าไปช่วยเหลือ 

นางกรอง กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาครอบครัวก็อยากจะหาช่องทาง หรือข้อมูลที่จะสามารถสื่อสาร หรือติดต่อกับทางน้องชายได้ แต่หลายคนก็กังวลว่าหากครอบครัวหรือญาติเข้าไปหาช่องทางการติดต่อ หรือสื่อสารไปยังทางน้องชายแล้วจะโดนตั้งข้อหา เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก็มีให้เห็น หลังจากเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปค้นบ้านพร้อมบอกว่าขอความร่วมมือในการให้ข้อมูล แต่สุดท้ายกลับมีการตั้งข้อหา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับในฐานะญาติ รู้สึกหวาดกลัวและกังวลไม่กล้าแม้กระทั่งจะสายโทรศัพท์เบอร์แปลก เพราะวันว่าจะโดนเหมารวม และหาว่าจะเข้าไปช่วยเหลือน้องชาย  

ในใจอยากให้น้องชายออกมาต่อสู้กับคดีที่เกิดขึ้น เพราะน้องของตนเองไม่ใช่นักโทษคดีร้ายแรง ถึงขั้นฆ่าคนตาย อีกทั้งพฤติกรรมของน้องชายตนไม่ใช่ว่าจะเข้าข้าง แต่เขาเองในมุมของผู้ชายมักจะช่วยเหลือคนอื่นตลอด เว้นแต่คนที่มาหาเรื่อง หรือเอาเปรียบเขาก่อน ย้อนถามเหตุการณ์ไล่ล่าน้องชายของตนอยากถามกลับว่าชาวบ้านหวาดผวา ในส่วนนี้หวาดผวาเจ้าหน้าที่หรือหวาดผวาน้องชายของตนกันแน่ หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงกดดันและใช้ยุทธวิธีดังกล่าว เชื่อเขาก็คงไม่ออกมา ยอมถอยและหาคนการันตีความปลอดภัยให้กับเขา เชื่อว่าถ้าเขาแอบซ่อนอยู่ก็คงจะออกมา ไม่ใช่ใช้วิธีการบีบเพื่อหวังให้เกิดการปะทะ นำไปสู่การวิสามัญ ตนอยากให้มีคนออกมาพูดว่าหากทางเจ้าตัวหรือน้องชายตนยอมมอบตัวแล้วจะไม่เกิดเหตุการณ์วิสามัญ ซึ่งหากมีวันนั้นตนเองจะเป็นคนการันตีและพร้อมจะไปบอกกับน้องชายว่าไม่ต้องต่อสู้ 

นางกรอง กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงน้องชาย แม้ว่าเขาเองจะทำผิด แต่ในมุมสายเลือดหรือพี่น้อง คนเป็นพี่ก็อดห่วงเขาไม่ได้ที่โดนตามล่าแบบนี้ ทั้งที่หากมองในมุมของความผิด ถามว่าเขาหนีการคุมขัง ไม่ใช่คดีฆ่าคนตายเป็น 10 ศพ ตนจะไม่ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากน้องของตนไปฆ่าคนมาแล้วหนีคดี ตนพร้อมปล่อยให้ไล่ล่า ทั้งนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นยอมรับว่าครอบครัวย่อมได้รับผลกระทบ แต่ก็เข้าใจในมุมของสังคม ซึ่งไม่ผิดที่หากสังคมจะมีการเชื่อมโยงเข้ามาหาครอบครัว แต่ตนก็อยากจะอธิบายสังคมว่าในมุมของการกระทำความผิด ที่ผ่านมาครอบครัวไม่ได้สนับสนุนหรือเห็นด้วย แต่ในเมื่อเขาทำไปแล้วครอบครัวเองก็ไม่สามารถที่จะห้ามหรือปรามกับสิ่งที่เขาทำไป รู้ว่าผิดแต่คงเชื่อว่าเขาคงมีเหตุผล วันนี้ตนไม่ได้ขอความเอ็นดูให้น้องชาย เพียงแค่อยากมีโอกาสให้ผู้ใหญ่ที่รับรู้ทราบว่าครอบครัวเองมุมนึงก็อยากจะมีการประสาน และติดต่อหากมีช่องทางในการพูดคุย เพื่อให้เขาออกมามอบตัว 

“ในฐานะพี่และญาติ ความรักความผูกพันในสายเลือดย่อมมี ส่วนตัวแม้ว่าน้องจะผิดเราเองก็จะไม่ไปซ้ำเติม สิ่งไหนที่ทางครอบครัวช่วยแก้ไขได้เราก็พร้อมช่วยแก้ไข แต่หากกระทำผิดจริงก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม วอนสังคมอย่าเหมารวมครอบครัวหรือเครือญาติ บางสิ่งบางอย่างที่กระทำเขาผิดจริง แต่ครอบครัวหรือญาติไม่ได้สนับสนุน และส่งเสริมให้เขาทำ”

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส