เจ้าของร้านโวย มิจฉาชีพหลอกสั่งอาหารนับหมื่น แต่ไม่มากิน

7 พ.ย. 66

มิจฉาชีพ หลอกสั่งอาหาร นับหมื่น แต่ไม่มากิน เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยมีแจ้งความแล้วหลายราย คาด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปรับแผนหลอกลูกค้าโอนเงินซื้อ ไวน์

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ มนู พิมพา ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยไปยังร้านอาหารต่างๆ ว่าให้ระวังภัยกลุ่มมิจฉาชีพ ทำทีโทรมาจองโต๊ะ สั่งอาหาร แต่กลับเบี้ยวไม่มา แถมยังติดต่อไม่ได้ จนทำให้ร้านอาหารร้านหนึ่งในพื้นที่ อ.ไพศาลี ได้รับความเสียหายไปถึงหลักหมื่นบาท อีกทั้ง ยังทราบข้อมูลด้วยว่า มิจฉาชีพกลุ่มเดิม ยังอาละวาดไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับร้านอาหาร และโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ อีกหลายเจ้าด้วย ซึ่งก็มีบางราย นอกจากจะถูกหลอกให้ทำอาหารเสียฟรีแล้ว ยังมีการตุ๋นให้เจ้าของร้าน เสียเงินโอนค่าไวน์ ให้กับกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพที่ทำกันเป็นขบวนการไปอีกหลายพันบาทด้วย

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้ที่โพสต์เฟซบุ๊กทราบว่าเจ้าตัวเป็นเจ้าของร้านอาหาร “ครัวคนป่า” ต.ไพศาลี อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ จึงเดินทางไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น นายมนู พิมพา อายุ 50 ปี เจ้าของร้านได้โชว์รูปภาพอาหารที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพโทรมาหลอกจองโต๊ะและสั่งอาหารในราคาที่แพงสุดของร้านไว้ถึง 3 ชุด ซึ่งก็มีทั้งต้มยำ ปลาทอด รวมถึงอาหารคาวหวานอื่นๆอีกหลายรายการอีกทั้งยังได้โชว์หลักฐานแชตไลน์ที่แก๊งมิจฉาชีพใช้ติดต่อมา ซึ่งก็พบว่ามีการไปนำรูปของหนุ่มเภสัชรายหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้มาใช้หลอกลวง อีกทั้งยังมีการพยายามทำลายหลักฐานด้วยการลบแชตไลน์ทุกข้อความ ซึ่งได้มีการไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.ไพศาลี เอาไว้แล้ว

นายมนู พิมพา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าโดยปกติที่ร้านของตนก็จะมีลูกค้าโทรมาสั่งอาหารแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว และช่วงสายของเมื่อวานก็มีลูกค้า ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นใครโทรมาสั่งจองโต๊ะและสั่งอาหารไว้ 3 ชุด ซึ่งปลายสายเป็นเสียงผู้ชายอ้างตัวว่ามาจากกรุงเทพได้เดินทางมาประชุมสัญจรที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ แต่เจ้านายอยากเดินทางไปทานอาหารมื้อค่ำที่ร้านของตน เพราะเคยได้ยินชื่อเสียงมานาน และด้วยความดีใจที่มีลูกค้าจากต่างถิ่นมากันเป็นหมู่คณะ ตนจึงไม่ได้สงสัยอะไรจึงได้มีการแลกไลน์กับกลุ่มมิจฉาชีพไว้เพื่อให้พวกมันเลือกสั่งอาหาร ซึ่งแต่ละเมนูมีการเลือกสั่งอาหารที่มีราคาหลักร้อยไปจนถึงสองร้อยกว่าบาท จำนวน 7 เมนู 3 ชุด
นายมนู เล่าต่อว่าคนที่โทรสั่งอาหารพยายามจะให้ตนสั่งไวน์ให้ได้ แต่เนื่องจากตนตระเวนหาซื้อแล้วไม่มีขายในพื้นที่ จึงแนะนำให้ลูกค้าซื้อแล้วนำมาเอง เมื่อถึงเวลานัดแล้วกลุ่มลูกค้าที่นัดไว้ก็ไม่มาตนจึงโทรศัพท์ตามก็ไม่รับสาย ประวัติการคุยทางแอพพลิเคชั่นไลน์ก็ถูกลบออกจึงมั่นใจว่าโดนหลอก

ด้าน พ.ต.ท. ชินวัฒน์ ปั้นนาค รอง ผกก.สืยสวน สภ.ไพศาลี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ได้มีเจ้าของร้านอาหาร 3 ร้านในพื้นที่ อ.ไพศาลี เดินทางมาแจ้งความกับตำรวจไว้แล้วซึ่งก็มีข้อมูลว่าในพื้นที่ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ก็มีเจ้าของร้านอาหารอีก 3 แห่ง ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกในลักษณะเดียวกันเดินทางมาแจ้งความกับตำรวจ จึงเชื่อว่าน่าจะยังมีเจ้าของร้านอาหารอีกหลายร้านถูกหลอกเช่นเดียวกันแต่ยังไม่เข้ามาแจ้งความ

ส่วนพฤติการณ์ของแก๊งมิจฉาชีพแก๊งนี้คาดว่าไม่น่าจะข้องเกี่ยวกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ก็ถือว่ามีความแยบยลทำเป็นขบวนการ โดยมุ่งเป้าเหยื่อไปที่ร้านอาหารตามต่างอำเภอ โดยทำทีมาขอจองโต๊ะจัดเลี้ยงและสั่งอาหารชุดใหญ่เอาไว้ก่อนจะเข้าแผนหลักโดยทำทีให้ไลน์อีกอันที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของร้านขายเหล้ากับทางเจ้าของร้านอาหารนั้นไว้ เพื่อให้ติดต่อสั่งไวน์ทิพย์ในราคาแสนแพง ซึ่งจะทำให้ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อเสียทั้งค่าอาหาร แถมยังถูกหลอกให้โอนเงินไปด้วย โดยเรื่องนี้ มีผู้เสียหายรายหนึ่งที่ถูกหลอกให้โอนค่าสั่งซื้อไวน์ทิพย์เป็นจำนวนเงิน 8,730 บาท นำหลักฐานบัญชีธนาคารที่โอนเงินให้กับแก๊งคนร้าย มาให้ตำรวจตรวจสอบและตำรวจได้มีการสั่งอายัดบัญชีดังกล่าวไว้แล้ว ส่วนเบอร์โทรที่มิจฉาชีพใช้ติดต่อกับกลุ่มผู้เสียหายพบว่าเป็นเบอร์โทรของชาวไทยใหญ่รายหนึ่ง ซึ่งจะมีการสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามกลุ่มคนร้ายแก๊งนี้ มาดำเนินคดีต่อไป.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส