ชูวิทย์ เฮ! ศาลเพชรบุรียกฟ้อง กรณี ภูมิใจไทย ร้องปมแจกกระเป๋าซื้อเสียง

6 พ.ย. 66

 

ศาลจังหวัดเพชรบุรี พิพากษายกฟ้อง กรณี พรรคภูมิใจไทย ฟ้อง ชูวิทย์ ปมช่วย อลงกรณ์ ปชป. หาเสียง พร้อมแจกกระเป๋า ชี้ไม่ใช่การซื้อเสียง 

วันที่ 6 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดเพชรบุรี มีคำพิพากษายกฟ้องชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดีหมายเลขดำที่ อ842/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อ1770/2566 ระหว่าง พรรคภูมิใจไทยเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นจำเลย เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 66 เรื่องความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.   

ทั้งนี้พรรคภูมิใจไทย ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 66 มีพระบรมราชโองการประกาศ พ.ร.ฎ.ยุบสภา พ.ศ. 2566 ต่อมาวันที่ 21 มี.ค. 66 คณะกรรมการการเลือกตั้งออกประกาศ เรื่องกำหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัครเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง วันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อและสถานที่ที่พรรคการเมืองจะส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครทั้งสองแบบ พรรคภูมิใจไทยส่งผู้รับสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.แบ่งเขต 387 คน โดยในส่วนเขต 1 จ.เพชรบุรี และผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อ 98 คน 

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 66 เวลากลางวันขณะที่นายองลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัคร สส.เพชรบุรี เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ จัดขบวนรถเพื่อปราศรัยหาเสียง ณ ตลาดเทศบาลเมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ซึ่งขณะนั้นมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังปราศรัยหาเสียงประมาณ 100 คน โดยจำเลย คือนาย ชูวิทย์ ได้ขึ้นรถที่มีไว้เพื่อปราศรัยหาเสียง และกล่าวถ้อยคำโจมตีพรรคภูมิใจไทย สนับสนุนอลงกรณ์ พลบุตร แล้วจำเลยจัดให้ ให้ เสนอให้สัญญาวาจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แต่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็น สส.โดยจำเลยลงมาแจกกระเป๋า ซึ่งเป็นทรัพย์สินอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ โดยมีหมายเลขของนายอลงกรณ์อยู่ด้านหลังให้แก่ประชาชนทั่วไปในบริเวณนั้น และประชาชนที่เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในแต่ละเขต  โดนมีเจตนาเพื่อจูงใจให้ประชาชนเลือกนายอลงกรณ์ 

ทั้งนี้นาย ชูวิทย์เป็นผู้ที่มีชื่อเสียง มีอิทธิพลทางความคิด สามารถโน้มน้าวชี้นำสังคม และประชาชนให้เชื่อตามได้ เคยเป็นนักการเมือง เคยรับเลือกตั้ง สส. และเคยเป็น สส.มาก่อน กลับไม่เคารพกฎหมาย 

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้ว ข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวนมูลฟ้องรับฟังได้ว่าแม้จะมีการแจกกระเป๋า แต่ก็ไม่ปรากฎว่าจำเลยได้มีการพูดกล่าวจูงใจให้ประชาชนรับสิ่งของจากจำเลยให้เลือกนายอลงกรณ์แต่อย่างใด ทั้งพยานโจทก์ก็ตอบคำถามค้านไม่ได้ว่า สิ่งของที่จำเลยมอบให้ประชาชนนั้นเป็นกระเป๋าลักษณะใด และมีมูลค่ามากน้อยเพียงใด การที่จะมอบทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดที่จะจูงใจประชาชนให้เลือกตั้งผู้สมัครรายใดได้นั้น ตามวิญญูชนโดยทั่วไปต้องเป็นทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อันมีมูลค่ามากพอสมควรถึงขนาดทำให้ประชาชนยอมเลือกบุคคลใดบุคคลหนึ่งตามที่ผู้ให้ร้องขอได้ แต่ก็หาได้ปรากฎข้อเท็จจริงเช่นนั้นไม่ จำเลยเคยเป็นนักการเมือง หากต้องการให้สิ่งของที่สามารถจูใจประชาชนให้เลือกนายอลงกรณ์ได้ จำเลยคงให้ในที่ลับ ไม่ใช่กระทำในที่แจ้งที่สื่อมวลชนสามารถบันทึกภาพได้ ซึ่งผิดวิสัยของผู้ที่จะกระทำการทุจริตซื้อเสียงการเลือกตั้ง พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังไม่มีมูลที่จะประทับรับฟังโจทก์ไว้พิจารณา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม