คนเราขอ "อโหสิกรรม" กันไปทำไม หากขอแล้วอีกฝ่ายไม่ให้จะเกิดอะไรขึ้น

สะท้อนปม สาวป่วย HIV ขอ "อโหสิกรรม" ชายที่เธอร่วมหลับนอนด้วย เปิดความหมายและแก่นแท้ของการขอ "อโหสิกรรม" คืออะไร หากขอ "อโหสิกรรม" แล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ให้จะเกิดอะไรขึ้น

กำลังเป็นข่าวดังกระฉ่อนสะเทือนสังคม กรณี นักศึกษาสาว ม.ดัง แถบภาคอีสาน เผยเรื่องราวสุดช็อก แพร่เชื้อ HIV ชายไม่ซ้ำหน้านานกว่า 7เดือน

โดยเธอเล่าว่า เธอป่วย HIV แต่กำเนิด ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เธออกหักช้ำรัก จึงออกท่องราตรีเพื่อคลายเหงาและมักจะจบลงที่ One Night Stand กับผู้ชายมาแล้วกว่า 7 เดือน ตอนนี้รู้สึกผิดมาก เป็นห่วง อยากให้ทุกคนไปตรวจ พร้อมเธอบอกให้ "อโหสิกรรม" ให้เธอด้วย ขณะที่ส่องคอมเมนต์ชาวเน็ตใน X ถามสวน เรื่องแบบนี้ "อโหสิ" แล้วแยกย้ายหายกันหรอ?

สืบเนื่องจากประเด็นดังกล่าว ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีออนไลน์ จึงได้รวบรวมข้อมูล เปิดความหมายและแก่นแท้ของการขอ "อโหสิกรรม"และเคยสงสัยกันไหมว่า หากขออโหสิกรรมแล้วแต่อีกฝ่ายไม่ให้ จะเป็นยังไงต่อ?

การขอ "อโหสิกรรม" คืออะไร

"อโหสิ" แปลว่า ยกโทษให้ ส่วนคำว่า "กรรม หมายถึง การกระทำ ดังนั้น การขออโหสิกรรม จึงหมายถึง การขอให้ยกโทษให้ในผลของกรรมไม่ดีที่ได้กระทำลงไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยทางกาย วาจา หรือใจ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา ทั้งที่ระลึกได้และระลึกไม่ได้ หากผู้ถูกกระทำยกโทษให้ หรือ "อโหสิ" ให้ เป็นอันกรรมนั้นหลุดพ้น เลิกแล้วต่อกัน

หากขอ "อโหสิกรรม" แล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ให้จะเกิดอะไรขึ้น

หากเราเป็นฝ่ายยกโทษให้หมดอย่างไม่มีเงื่อนไข ให้อภัยจากใจบริสุทธิ์แล้ว แต่หากอีกฝ่ายยังมีจิตพยาบาท คิดอาฆาตต่อก็จะเหมือนกับเขาจองเวรกับความว่างเปล่า เพราะขั้วที่จะทำให้วงจรจองเวรขาดไป

การอโหสิกรรม ทำไปเพื่ออะไร

การอโหสิกรรมก็เพื่อรักษาจิตใจของเราไว้ ไม่ให้เกิดความผูกโกรธและความผูกพันกับคนที่มาเบียดเบียนเรา เพราะว่าความผูกพันมีทั้งทางฝ่ายรักและฝ่ายชัง ถ้าเราชังใครมากรักใครมากมันก็เป็นการสร้างความผูกพัน แล้วโอกาสที่ต้องเจอคนนั้นในอนาคตก็จะมีเพิ่มมากขึ้น เพราะมีความผูกพันด้วยความอาฆาตพยาบาท ดังนั้นการที่เรา อโหสิกรรม ก็เพื่อดูแลจิตใจตัวเองมากกว่า

การขอ