เทคนิคการดูแล “เท้าและเรียวขา” ให้เนียนนุ่มอย่างสุขภาพดี !!

31 ต.ค. 66

'ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะเทคนิคการดูแลเท้าและเรียวขาให้เนียนนุ่มอย่างสุขภาพดี

“เท้าและเรียวขา” นอกจากเป็นอวัยวะที่สำคัญส่วนหนึ่งของร่างกายแล้ว หากใครมีเท้าและเรียวขาที่สวยเรียบเนียนด้วยแล้ว ยิ่งเป็นสิ่งการันตีความโดดเด่นและเพิ่มเสน่ห์ให้กับสาวๆ ได้อีกด้วย  แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงอณัฏฐ์ชา อัศดามงคล แนะเทคนิค “ดูแลเท้าและเรียวขาให้เนียนนุ่มอย่างสุขภาพดี” กับผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิว อาทิ ‘บอดี้ บัตเตอร์’, ‘อโรมาติก วู๊ด อโรมาเธอราปี ซอลท์ สครับ’ และ ‘บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์’ โดยมีเหล่าเซเลบริตี้สาวสวยมาร่วมเผยวิธีดูแลสุขภาพเท้าและขาให้ดูดีตามแบบฉบับตนเอง อาทิ แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา, กมลพร วงศ์รักมิตร และ ณภศศิ สุรวรรณ

แพทย์หญิงอณัฏฐ์ชา อัศดามงคล แนะเทคนิคดูแลสุขภาพเท้าและเรียวขาให้เนียนกระชับอย่างสุขภาพดีว่า “เท้าและขาเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญกับร่างกายอย่างมาก นอกจากทำหน้าที่รับน้ำหนักของร่างกาย รองรับการเคลื่อนไหวและสะท้อนการทำงานของอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย และทำหน้าที่พยุงกระดูกเชิงกรานและกระดูกสันหลังให้ร่างกายมีสมดุล หากเท้าเกิดผิดปกติหรือรูปร่างเท้าเปลี่ยนไป อวัยวะอื่นๆ ก็จะรวนและผิดปกติไปด้วย ดังนั้นสุขภาพเท้าและขาจึงเป็นตัวบ่งชี้ถึงสุขภาพโดยรวมทั้งหมดของร่างกาย

อย่างช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน สภาพอากาศแปรปรวนและฝนตกบ่อย ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมขัง การเดินลุยน้ำสกปรก ทำให้เกิดความอับชื้น เป็นแหล่งสะสมเชื้อราและแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับเท้าตามมา อาทิ เท้าเปื่อย, น้ำกัดเท้า, เชื้อรา, โรคผิวหนัง และโรคฉี่หนู การดูแลสุขภาพเท้าจึงเป็นสิ่งที่ต้องเอาใจใส่อยากถูกวิธีและไม่ควรละเลย ซึ่งสามารถทำได้โดย

  • แช่เท้าในน้ำอุ่นพร้อมกับนวดหรือถูด้วยสบู่ประมาณ 10 นาทีทุกๆ วัน นอกจากจะช่วยป้องกันโรคผิวหนังและลดอาการเท้าเหม็นแล้ว ยังช่วยให้เกิดความผ่อนคลายอีกด้วย
  • ขัดผิวเท้าเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณส้นเท้า เพื่อขจัดผิวเซลล์เก่าที่ตายแล้วออกไป ช่วยลดอาการเท้าแห้งด้าน และเท้าแตกได้
  • ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เน้นความชุ่มชื้นที่บริเวณขา หลังเท้า ฝ่าเท้า สันเท้า และเล็บเท้า โดยหลีกเลี่ยงการทาบริเวณซอกนิ้วเท้า เพราะจะทำให้เกิดการอับชื้นได้ง่ายโดยเฉพาะผู้ที่มีชอกนิ้วเท้าเบียดกัน
  • ก่อนสวมถุงเท้าหรือรองเท้า ควรเช็คก่อนว่าเท้าของเราแห้งหรือไม่ หากเท้าเปียกแล้วสวมถุงเท้าหรือรองเท้าอาจทำให้เท้าเกิดโรคผิวหนัง และเป็นสาเหตุของอาการเท้าเหม็นได้
  • การสวมถุงเท้า เพื่อคงความชุ่มชื้นของผิวหนังและลดการเสียดสี โดยเลือกใช้ถุงเท้าที่ไม่มีตะเข็บ ไม่รัดแน่นจนเกินไป และควรเปลี่ยนคู่ใหม่ทุกวัน
  • ควรตัดเล็บเท้าให้สั้นพอประมาณตามแนวขอบเล็บ โดยไม่ตัดเล็บลึกถึงจมูกเล็บและตัดเล็บเท้าด้วยความระมัดระวังอย่างถูกวิธี
  • หากมีหนังแข็ง ด้าน หูดหรือตาปลา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา ไม่ควรตัดหนังด้านแข็ง หูด หรือตาปลาด้วยตนเอง

นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังมีปัจจัยที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพเท้าและเรียวขาได้โดยที่เราไม่รู้ตัวจากการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน อาทิ

  • การยืนเป็นระยะเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อขาเกร็ง และเกิดอาการล้า ส่งผลให้มีอาการปวดขา เส้นขาตึง
  • การเดินระยะไกล เป็นการใช้งานกล้ามเนื้อขาซ้ำๆ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดความอ่อนล้า และเกิดอาการปวดขาตามมา
  • การออกกำลังกาย เช่น การวิ่ง การสคอวช เป็นการใช้งานมัดกล้ามเนื้อขาโดยตรง โดยเฉพาะในผู้ที่วิ่งเป็นประจำ อาจมีอาการ ITBs หรือ IT band ซึ่งเป็นอาการปวดต้นขาด้านนอก ไล่ลงไปถึงหัวเข่าด้านนอก
  • การนั่งอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อก้นถูกกดทับ เกิดเป็นภาวะกล้ามเนื้อก้นหนีบเส้นประสาท (Piriformis) จะมีอาการปวดก้น ปวดต้นขาด้านหลัง ข้อพับเข่า และอาจมีอาการปวดน่องร่วมด้วย
  • การนั่งไขว่ห้างเป็นประจำ จะทำให้น้ำหนักกดทับไปที่ก้น 2 ข้างไม่เท่ากัน เสี่ยงต่อการเกิดกระดูกสันหลังคด และกระดูกข้อเข่าถูกบิดให้ผิดรูป โดยเข่าข้างที่ไขว้ทับด้านบนบ่อยๆ จะเริ่มมีอาการปวด
  • การใช้กล้ามเนื้อน่องมากเกินไป หรือการนั่งห้อยขาทั้งวันจนกล้ามเนื้อไม่ถูกใช้งาน อาจก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณน่อง หรือตะคริว
  • การใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ ทำให้น้ำหนักตัวเทไปด้านหน้าบริเวณปลายเท้า ทำให้กระดูกสันหลังเกิดอาการเกร็ง และข้อเข่าถูกกดทับตลอดเวลา หากจำเป็นต้องใส่รองเท้าส้นสูงควรหมั่นพักเท้าทุกๆ 1 ชั่วโมง

การนวดเท้าและขาถือเป็นวิธีคลายความปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ ลดอาการบวม และกระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย โดยสามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์เพื่อความผ่อนคลายได้  

  • การนวดเท้า โดยใช้มือบีบนวดบริเวณเท้า แล้วค่อยๆ กดหัวแม่มือลงน้ำหนักเล็กน้อย และนวดคลึงเป็นวงกลม บริเวณมีอาการปวดตึง หรือใช้ข้อศอกช่วยในการนวดเท้าได้
  • การนวดน่อง โดยวางเท้าบนที่พักเท้าหรือเก้าอี้ ใช้มือคลึงและบีบกล้ามเนื้อน่องขึ้นลง จะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตึง จากนั้นวางเท้าข้างซ้ายลงบนเข่าด้านขวา แล้วกำปั้นทุบเบาๆ ให้ทั่วบริเวณน่อง ตามด้วยการจับข้อเท้าและหมุนประมาณ 10 ครั้ง โดยทำสลับกันทั้งสองข้าง
  • การนวดต้นขา โดยวางมือรอบๆ ต้นขา ให้หัวแม่มืออยู่ที่หน้าขา ค่อยๆ บีบนวดขึ้นลงประมาณ 10 ครั้ง แล้วใช้กำปั้นทุบเบาๆ ให้ทั่วต้นขา อย่างเป็นจังหวะ
  • การนวดหน้าแข้ง โดยกดนวดบริเวณข้างกระดูกหน้าแข้งไปจนถึงปลายเท้า 5-10 รอบ แล้วกดคลึงเบาๆ หากมีอาการปวดมากให้กดคลึงค้างไว้ 5-10 วินาทีแล้วค่อยปล่อย เพื่อเป็นการคลายกล้ามเนื้อ”
620084
แพทย์หญิงอณัฏฐ์ชา อัศดามงคล
115372
ณภศศิ สุรวรรณ

‘ธัญ’ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลก และเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา THANN มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France), Skinnova Lab Co.,Ltd. และ Dermscan Asia อาทิ Dermatological test, Irritation test และ Efficacy test เพื่อยืนยันในคุณภาพและประสิทธิภาพ เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ขอแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวโดยเฉพาะ อุดมด้วยคุณประโยชน์ของ สารสกัดธรรมชาติจาก ‘น้ำมันรำข้าว’ (Rice Bran Oil) และสารสกัดจาก ‘ชิโซะ’ (Shiso) ที่มีจำหน่ายในร้านและเคาน์เตอร์ ‘ธัญ’ (THANN) กว่า 100 สาขาในทวีปเอเชีย อเมริกา และยุโรป

‘น้ำมันรำข้าว’ (Rice Bran Oil) สิ่งมหัศจรรย์ใกล้ตัวที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งด้าน โภชนเภสัช อาหาร หรืออุตสาหกรรมความงาม อุดมด้วยวิตามินอีในกลุ่มโทโคไตรอีนอล (Tocotreienol) และโทโคฟีรอล (Tocopherol) รวมถึงสารแกมม่า-ออริซานอล (Gamma-Oryzanol) ซึ่งพบเฉพาะในน้ำมันรำข้าวเท่านั้น มีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ ออกซิแดนท์ได้ดีกว่าวิตามินอีทั่วไปถึง 6 เท่า รวมถึงปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกแสงแดดทำลาย ช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น ซึมซาบสู่ผิว ได้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่อุดตันรูขุมขน

‘ชิโซะ’ (Shiso) พืชที่อุดมด้วยสารสำคัญอันมีประโยชน์ อาทิ เช่น  โรสแมรินิค แอซิด (Rosemarinic Acid), แอล-เพอริลลาดีไฮด์ (L-Perilladehyde) และฟีนอล คอมพาวด์  (Phenol Compound) โดดเด่นในการให้ความชุ่มชื้น ปกป้องและฟื้นฟู เซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและการเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ทรงประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดอาการ ระคายเคือง ด้วยสัดส่วนของวิตามิน A (มากกว่าผลกีวีถึง 300 เท่า),วิตามิน C (มากกว่าผลเลมอนถึง 160 เท่า) และวิตามิน E สูง พร้อมวิตามิน B1, B2, B6, K, แร่ธาตุและโปรตีนหลากชนิด สารสกัดจากชิโซะยังมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitor) ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) และด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของสารสกัดจากชิโซะนำมาผ่าน กระบวนการสกัดด้วย “นาโนเทคโนโลยี” ปราศจากการใช้สารเคมีจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้อนุภาคขนาดนาโนเมตร (10-9) ทำให้ได้อนุภาคขนาดเล็กสามารถซึมเข้าสู่ชั้นหนังแท้ (Dermis) เกิดประสิทธิภาพการบำรุงอย่างล้ำลึก

โดยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับการดูแลสุขภาพเรียวขาและเท้าให้เนียนนุ่มอย่างมีสุขภาพดี ได้แก่ ‘บอดี้ บัตเตอร์’ (Body Butter) ขนาด 350 มล. ราคา 1,700 บาท ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายสูตรเสริมประสิทธิภาพที่ให้มากกว่าความชุ่มชื้น คืนความเรียบเนียนสู่ผิว ผิวเรียบเนียนขึ้น 19%*, ความชุ่มชื้นของผิวเพิ่มขึ้น 22.9%** แม้เวลาผ่านไป 6 ชั่วโมง รวมถึง 90% ของผู้ทดสอบผิวมีความกระจ่างใสขึ้น*** ด้วยส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด อาทิ สารสกัดจากใบชิโซะ (Platinum colloid shiso extract), ออแกนิค เชียบัตเตอร์ (Organic shea butter), น้ำมันโจโจ้บาออแกนิค (Organic jojoba oil), สารสกัดจากบุทเชอร์ส บรูม (Butcher’s broom extract) และสารสกัดจากมิลค์ ทิสเซิล (Milk thistle extract) พืชธรรมชาติที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด พร้อมลดอาการระคายเคือง, สารสกัดหญ้าหางม้า (Horsetail extract) ลดอาการผิวลาย และช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับเรียบเนียน, สาหร่ายแบล็ดเดอร์แร็ค (Bladderwrack extract) และสาหร่ายเคลป์ (Kelp extract) ช่วยกระตุ้นการย่อยสลายไตรกลีเซอไรด์ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของไขมัน และสารสกัดจากใบไอวี่ (Ivy extract) อุดมด้วยสารซาโพนูไซด์ (Saponoside) และ ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ลดอาการบวมน้ำของผิว และลดการซึมผ่านของไขมันเข้าสู่เส้นเลือด แนะนำให้ใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายจะช่วยให้ผิวกระชับและเรียบเนียนน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น

(* ทดสอบโดยสถาบันผิวหนัง Dermscan Asia กับผู้หญิงเอเชีย อายุ 37 – 58 ปี จำนวน 21 คน โดยใช้ผลิตภัณฑ์ 4 สัปดาห์, ** ทดสอบด้วยวิธี Corneometry โดย Spincontrol Asia Co., Ltd (France) กับผู้หญิงเอเชีย 22 คน โดยใช้ผลิตภัณฑ์เป็นระยะเวลา 6 ชั่วโมง, *** ทดสอบด้วยวิธี Chromametry โดย Spincontrol Asia Co., Ltd (France) กับผู้หญิงเอเชีย 22 คน โดยใช้ผลิตภัณฑ์วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์)

‘อโรมาติก วู๊ด อโรมาเธอราปี ซอลท์ สครับ’ (Aromatic Wood Aromatherapy Salt Scrub) ขนาด 230 มล. ราคา 1,050 บาท สครับสูตร Gel base ที่อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว ด้วยเม็ดเกลือขนาดเล็กพิเศษ สามารถขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อเจลจะเปลี่ยนเป็นครีมน้ำนมบำรุงผิวด้วยคุณค่าสารสกัดธรรมชาติ อาทิ น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil), น้ำมันโจโจ้บา (Jojoba Oil) พร้อมกลิ่นหอมสดชื่นมีชีวิตชีวาด้วยน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติจาก จากส้ม (Orange), แทงเจอรีน (Tangerine), จันทน์เทศ (Nutmeg) และ ไม้จันทร์หอม (Sandalwood)

‘บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์’ (Bath & Massage Oil) ขนาด 295 มล. ราคา 990 บาท เติมเต็มความชุ่มชื้น คืนชีวิตชีวาสู่ผิว ด้วยคุณค่าการบำรุงของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ อาทิ น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil), น้ำมันอโวคาโดออแกนิค (Organic Avocado oil), น้ำมันดาวอินคาออแกนิค (Organic Inca Inchi oil) และน้ำมันมะกอก (Olive oil) มอบความชุ่มชื้นสู่ผิวได้ยาวนาน พร้อมมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงประสิทธิภาพ สูตรบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่อุดตันรูขมุขน พร้อมกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ มีให้เลือก 5 กลิ่น ได้แก่ กลิ่นอโรมาติก วู๊ด (Aromatic Wood), กลิ่นโอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence), กลิ่นอีเดน บรีซ (Eden Breeze), กลิ่นอีสเทิร์น ออร์เชิร์ด (Eastern Orchard) และกลิ่นลาเวนเดอร์โรสแมรี่ (Lavender & Rosemary) 

thann-(2)-(1)

ด้านเซเลบริตี้ต่างก็ได้ร่วมเผยวิธีดูแลสุขภาพเท้าและเรียวขาให้สุขภาพดี เริ่มที่สาวสังคม แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา เผยว่า “ปัญหาเกี่ยวกับเท้าและขาที่มายด์พบมากที่สุดในชีวิตประจำวัน คือ อาการปวดเมื่อยขาและน่องจากการใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ทำให้มีอาการปวดเมื่อยตั้งแต่บริเวณฝ่าเท้าไปจนถึงบริเวณน่อง เนื่องจากการใส่รองเท้าส้นสูงเหมือนกับการที่เราต้องยืนเขย่งตลอดเวลา หากเป็นรองเท้าที่ทรงด้านหน้าแคบและแหลม ยิ่งทำให้เกิดการบีบหน้าเท้าและทำให้เจ็บเท้ามากยิ่งขึ้น มายด์จึงหาเวลาไปนวดเท้าอยู่บ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง เพื่อคลายอาการตึงตัวของกล้ามเนื้อ แต่หากไม่มีเวลาไปนวด มายด์ก็จะแช่เท้าในน้ำอุ่นที่ผสม บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ กลิ่นอโรมาติกวู๊ด เพื่อคลายความเมื่อยล้าของฝ่าเท้า และมายด์จะค่อยๆ นวดเท้าไล่ไปถึงบริเวณน่อง ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยคลายความตึงของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเน้นการดูแลสุขภาพผิวบริเวณเรียวขาให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นด้วย บอดี้ บัตเตอร์ เป็นประจำร่วมกับการออกกำลังกาย เพราะช่วยให้เรียวขาเฟิร์มกระชับปราศจากผิวเปลือกส้ม และระหว่างสัปดาห์ก็จะ สครับผิวบริเวณส้นเท้าด้วย อโรมาติก วู๊ด อโรมาเธอราปี ซอลท์ สครับ เพื่อกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และลดการเกิดส้นเท้าแห้งและด้านได้อีกด้วย”

ถัดมาที่สาวยิ้มสวย กมลพร วงศ์รักมิตร เผยว่าปัญหาที่หมิวค่อนข้างกังวัลใจเกี่ยวกับช่วงขา คือ ผิวเปลือกส้ม หรือเซลลูไลท์ที่หลงเหลืออยู่ช่วงที่น้ำหนักตัวขึ้นเยอะๆ ทำให้เวลาที่เจออากาศร้อนๆ จะเป็นผื่น คัน และมีรอยแดงได้ง่าย และยังทำให้ผิวเราไม่เรียบเนียน แต่หมิวก็ไม่เป็นกังวลเพราะมีตัวช่วยอย่าง บอดี้ บัตเตอร์ ที่ใช้เป็นประจำ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียนกระชับ และในระหว่างสัปดาห์ก็จะสครับผิวด้วย อโรมาติกวู๊ด อโรมาเธอราปี ซอลท์ สครับ เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ พร้อมเผยเซลล์ผิวใหม่ที่แลดูกระจ่างใส อีกหนึ่งปัญหาที่มักพบบ่อยบริเวณเท้า คือ ฝ่าเท้าแห้ง และตาปลา เรารับมือด้วยการทาครีมบำรุงอย่าง บอดี้ บัตเตอร์ บริเวณฝ่าเท้าและสวมถุงเท้าเวลานอน เพื่อให้ผิวบริเวณเท้ายังคงความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ส่วนปัญหาตาปลานั้นก็แก้ไขด้วยการแช่เท้าในน้ำอุ่น เพื่อให้ตาปลานิ่มลง จากนั้นใช้หินขัดเท้าหรือแปรงขัดเท้าถูเบาๆ บริเวณตาปลาระหว่างอาบน้ำ ผิวก็จะเนียนนุ่มและยังคงสุขภาพดี

ปิดท้ายที่สาวนักกิจกรรม ณภศศิ สุรวรรณ เล่าว่าเนื่องจากมายด์ชอบออกรอบตีกอล์ฟเป็นประจำ ในแต่ละวันก็จะต้องเดินและยืนเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณเท้าและเรียวขา นอกจากนี้ท่าทางในการตีกอล์ฟก็ส่งผลให้เท้าเราบิดและผิดท่าได้ เลยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณฝ่าเท้า ข้อเท้า เกิดการตึงตัวและอักเสบได้ง่าย การยืดกล้ามเนื้อก่อนการเล่นกีฬาจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก นอกจากนี้มายด์ยังใช้วิธีการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วย บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ บริเวณฝ่าเท้าโดยไล่ขึ้นไปถึงบริเวณน่อง ส่วนบริเวณขาก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นอย่าง บอดี้ บัตเตอร์ โดยจะทาหลังอาบน้ำ นอกจากจะทำให้ผิวเราเนียนนุ่มชุ่มชื้นแล้วยังช่วยลดผิวเปลือกส้มได้อีกด้วย ซึ่งเราก็มีเทคนิคง่ายๆ เพียงใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำ เพียงเท่านี้เราก็สามารถมีเรียวขาที่สวยเนียนนุ่มอย่างมีสุขภาพดีแล้ว”

441855
ณภศศิ สุรวรรณ, กมลพร วงศ์รักมิตร, แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม