ผู้ใช้แรงงาน-แม่ค้าทุกข์ใจกระเป๋าแฟบ หวังเงินหมื่นต่อลมหายใจ

30 ต.ค. 66

 

สยามเทคโนโพล เผย คนไทยรายได้แย่ลง ผู้ใช้แรงงาน-แม่ค้าทุกข์ใจกระเป๋าแฟบ โอดเงินฝืดไม่พอใช้ อนาคตมืดแปดด้าน หวังเงินหมื่น ดิจิทัล วอลเล็ตต่อลมหายใจ 

วันที่ 30 ต.ค. 66 สำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เสนอผลสำรวจ เรื่อง “ตัวชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภค” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,035 ระหว่างวันที่ 20 - 28 ต.ค. 66 

พบว่า ฐานะทางการเงินของผู้ตอบแบบสอบถามและครอบครัวเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ร้อยละ 38.41 แย่ลง ร้อยละ 36.74 เหมือนเดิม และร้อยละ 24.85 ดีขึ้น เมื่อถามถึงภาพรวมการทำธุรกิจในประเทศไทยกับฐานะการเงินของประชาชนในอีก 12 เดือนข้างหน้า พบว่า ร้อยละ 42.72 ดีขึ้น ร้อยละ 38.16 เหมือนเดิม และร้อยละ 19.12 แย่ลง 

เมื่อถามว่า ประเทศไทยในอีก 5 ปีข้างหน้า จะเป็นห้วงเวลาที่ดีต่อเนื่องต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงาน พบว่า ร้อยละ 59.14 จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ร้อยละ 40.86 จะเกิดการว่างงานและเศรษฐกิจตกต่ำอีกแต่เมื่อถามถึงความสุขของประชาชนวันนี้ เมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตัวเอง เมื่อคะแนนความสุขเต็ม 10 คะแนน ผลสำรวจพบค่าเฉลี่ยความสุขของประชาชนโดยรวมอยู่ที่ 5.55 คะแนนคือความสุขของประชาชนอยู่ในระดับทรงๆ เกินกึ่งหนึ่งมาแบบเฉียดฉิว ความหมายคือแค่พอเอาตัวรอดได้ไปวันๆ หนึ่งเท่านั้น 

นายสมควร แผลงฤทธิ์ รับจ้างใช้แรงงานทั่วไป กล่าวว่า เงินไม่พอใช้ ซื้อข้าวกล่องมาก็แบ่งกันกินกับคนในครอบครัวไม่เคยอิ่มท้องเอา แค่ชีวิตรอดไปวันๆ บางทีเห็นข่าวคนไม่ทำงาน พวกเร่ร่อนมีกินมากกว่าคนทำงานอย่างพวกตน ขอให้คนมีเงินหันมาช่วยคนทำงาน หวังเงินรัฐบาลที่จะแจกเป็นก้อนเป็นหมื่นนี้แหละ แต่ได้มาก็จะหมดไปเร็วแต่ก็เอาไว้ก่อน ได้มาก็เอามากินเอามาใช้ จะให้ไปลงทุนอะไรไม่รู้จะไปทำอะไร นอกจากจะเอามากินเอามาใช้ 

ด้าน น.ส.โฉมลดา ชินมโนพันธ์ นักธุรกิจด้านการท่องเที่ยวบริษัท พราวด์พาทัวร์ กล่าวว่า หลังเปิดประเทศมาธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้น มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะเดินหน้าสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวเชิงพื้นที่ท้องถิ่นของประชาชนกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนขึ้นมามากกว่ากระตุ้นภาพใหญ่ เพราะทุกครั้งที่พานักท่องเที่ยวลงไปในชุมชนได้เห็นรอยยิ้ม และการต้อนรับที่อบอุ่นจากชาวบ้าน เพราะไปทำให้ชาวบ้านมีความสุขมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี น่าจะสอดคล้องกับผลสำรวจคาดหวังว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าธุรกิจท่องเที่ยวไทย และการจ้างงานจะดีขึ้นต่อเนื่อง ขออย่าให้มีขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ และขบวนการมิจฉาชีพใดมาทำลายบรรยากาศท่องเที่ยวไทย 

นางจุไรรัตน์ คงเสมา แม่ค้าขายของชำ กล่าวว่า วันนี้แค่พออยู่ได้ไปวันๆ จริงๆ แทบจะมองไม่เห็นความหวังว่าจะค้าขายดีขึ้น แต่ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร ก็หวังก็รอเงินแจกจากรัฐบาลที่จะให้ประชาชนมีเงินมาจับจ่ายใช้สอย แต่ก็คงไม่นาน อะไรก็จะแย่ลงไปอีก เลยไม่รู้ว่าจะทำไงขอเอาตัวให้รอดแค่มีกินมีใช้ไปวันๆ อยากได้รัฐบาลที่เก่งจริงๆ ไม่ทำให้ประชาชนผิดหวังซ้ำซากอีก  

ทั้งนี้รายงานของ สำนักวิจัย สยามเทคโน โพล ระบุว่า อาชีพที่รัฐบาลควรใส่ใจมากสุดคือ อาชีพรับจ้างใช้แรงงาน เพราะคนไทยจำนวนมากมีอาชีพรับจ้างใช้แรงงานที่ขาดความมั่นคง ทั้งด้านการเงิน ทั้งด้านการงาน การจ้างงานขาดระบบ ขาดสวัสดิการ ไม่มีอำนาจต่อรอง ไม่มีทางเลือกและบางคนไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการของรัฐอย่างเพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ว่าจ้างบางกิจการ หันไปใช้เครื่องจักร หุ่นยนต์ เทคโนโลยีในการทำงานแทนคน อาทิ ร้านอาหาร งานด้านการเกษตร ด้านประมง ด้านการก่อสร้าง งานด้านโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งการจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ให้ค่าแรงต่ำกว่าการจ้างงานคนไทย เป็นต้น 

คนไทยจำนวนมากจึงเป็นทุกข์เมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าของตัวเอง ดังนั้นภาครัฐ หรือภาคเอกชน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจริงจังมีมาตรการช่วยเหลือแก้ปัญหาประชาชนในมิตินี้ โดยการบูรณาการความร่วมมือ เช่น สำรวจความต้องการของผู้รับจ้าง พร้อมขึ้นทะเบียนแยกแยะ เป็นความต้องการ ความถนัด ทักษะ และภูมิลำเนา ของผู้รับจ้างนั้นๆ และรับเข้าทำงานในด้านที่มีความถนัด มีทักษะ ตามภูมิลำเนา พร้อมจัดสวัสดิการและค้าจ้างที่เหมาะสม เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ให้แก่แรงงานไทย และเศรษฐกิจของประเทศ ผลที่ตามมาคือ ตัวชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคน่าจะดีขึ้น

 สำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เสนอผลสำรวจ เรื่อง “ตัวชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภค”
 สำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เสนอผลสำรวจ เรื่อง “ตัวชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภค”

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม