สุทิน พร้อมแจง สภาฯ ปมจม เรือดำน้ำ เชื่อเปลี่ยนเป็น เรือฟริเกต ทางออกดีที่สุด ยันต้องชั่งน้ำหนัก หากเดินหน้าต่อ เจอคำถามมากกว่านี้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ต.ค. 66 ที่พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระลานพระราชวังดุสิต นาย สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร จ่อเรียกชี้แจง เรื่องการเปลี่ยนการจัดหา เรือฟริเกต แทน เรือดำน้ำว่า ก็ไปได้ พร้อมชี้แจงทุกที่ ซึ่งทราบว่า กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ก็จะมาพบตนด้วย และยินดี เพราะจะได้ทำความเข้าใจกัน
เมื่อถามว่า การเปลี่ยนเป็น เรือฟริเกต จะทำให้เสียงบประมาณที่ดำเนินโครงการไปก่อนหน้านี้หรือไม่ เช่น การส่งบุคลากรไปอบรม และเตรียมสถานที่จอดเรือดำน้ำ นายสุทิน กล่าวว่า มันต้องชั่งน้ำหนักกัน ระหว่างการเดินหน้าต่อเอาเครื่องยนต์จากจีน และการต้องเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ก็มีได้มีเสียเหมือนกัน ยืนยันว่าเราคิดรอบคอบในทุกมิติแล้ว คิดว่านี่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด หากเดินหน้าต่อคิดว่าจะต้องเจอคำถามมากกว่านี้
เมื่อถามว่า เสียงผู้ใต้บังคับบัญชาของเหล่าทัพว่าอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า ทุกคนเข้าใจดี เพราะก่อนจะตัดสินใจเรื่องนี้ก็ได้หารือกันอย่างละเอียด ไม่ได้ตัดสินใจโดยพลการ ใช้อำนาจของรัฐมนตรีหรือรัฐบาลไปชี้เลยนั้นไม่ใช่ แต่ประชุมหารือในทุกแง่ทุกมุม
ส่วนไทยจะเสียเปรียบหรือไม่ ที่จะต้องเสียเงินเพิ่มอีกพันล้านบาท นายสุทิน ยืนยันว่าไม่เสียเปรียบ เพราะต้องดูมูลค่าของแต่ละอย่างด้วย หากเรือถูกแล้วเขามาบวกแพง อันนั้นเสียเปรียบ ทุกอย่างเป็นราคาที่รับรู้กันทั่วโลก และเป็นราคามาตรฐาน ทั้งนี้ไม่ได้มองว่าจีนผิดสัญญา แต่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงมากกว่า เพราะเป็นเรื่องของจีทูจี ประเทศไทยมีมิติของความเป็นมิตรประเทศ ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ ที่จะต้องมาพิจารณาประกอบกัน ไม่ใช่ดำเนินการซื้อขายอย่างเดียว
เมื่อถามว่า จะใช้กลไกของรัฐบาลในการเจรจาหรือไม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ใช้กลไกของกระทรวงก่อน ซึ่งที่ผ่านมาคือกลไกของรัฐบาล ส่วนรายละเอียดต่อจากนี้ก็เป็นกลไกของกระทรวงที่จะต้องไปคุย
เมื่อถามอีกว่า กังวลกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า คิดว่าอธิบายได้ เพราะมองว่ากระแสก็คงมี เนื่องจากออกทางไหน คนไทยก็วิพากษ์วิจารณ์แต่เชื่อว่าเราอธิบายได้
