กลุ่มฮามาส รับปาก อิหร่าน ปล่อยตัวประกันไทย-ฟิลิปปินส์ แต่ อิสราเอลต้องหยุดโจมตีก่อน  

20 ต.ค. 66

 

ทูตอิหร่าน เผย ประธานาธิบดีกลุ่มฮามาส รับปาก ประธานาธิบดีอิหร่าน ปล่อยตัวประกัน ไทย-ฟิลิปปินส์แน่ แต่ อิสราเอล ต้องหยุดโจมตีก่อน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 ต.ค. 66 ที่โรงแรมอัลมี รอซ กรุงเทพฯ นายซัยยิด เรซา โนบัดตี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทย ให้สัมษณ์ถึงสถานการณ์การสู้รบ อิสราเอลกับ กลุ่มฮามาส รวมถึงชะตากรรม ตัวประกันที่เป็น คนไทยว่า ประธานาธิบดีของอิหร่านได้พบกับประธานาธิบดีของ กลุ่มฮามาส ที่ประเทศกาตาร์ โดยขอร้องให้ปล่อยตัวประกัน ซึ่งท่านก็รับปาก โดยเฉพาะตัวประกัน คนไทยและฟิลิปปินส์ แต่ขณะนี้ อิสราเอลยังโจมตีฉนวนกาซาอยู่ ยังมีอันตราย มีผู้คนล้มตายเสียชีวิตจากการทิ้งระเบิด ดังนั้นตอนนี้ยังมีความเสี่ยงและอันตราย โดยเฉพาะการปล่อยตัวประกันออกมาในสภาวะอย่างนี้ ถ้าไม่มีการหยุดยิง คงเป็นไปด้วยความยากลำบาก 

“อิสราเอลยังไม่พร้อมเจรจา ถ้ายังไม่มีการเจรจา ความสงบสุขหรือการสร้างสันติภาพก็ยังคงเป็นไปได้ยาก แต่หลายๆ ชาติก็จะพยายามทำให้เกิดสันติภาพและการเจรจาขึ้นในที่สุด” 

นายซัยยิด กล่าวต่อว่า สำหรับตัวประกันที่จับไป มีประมาณ 200 กว่าคน สถานภาพตัวประกันชาวไทย และฟิลิปปินส์ตอนนี้นั้น จากการโจมตีของ อิสราเอลทำให้มีตัวประกันเสียชีวิต ซึ่งยังระบุชัดเจนไม่ได้ว่าเป็นคนไทย คนฟิลิปปินส์ หรือใครเสียชีวิตไป 9 คน แต่ กลุ่มฮามาสพยายามเคลื่อนย้ายตัวประกันเหล่านั้นไปอยู่ที่ปลอดภัยที่สุด เพราะฉะนั้นสถานการณ์ยังค่อนข้างยากลำบาก ตราบใดที่ อิสราเอลยังโจมตีฉนวนกาซาอยู่ โดยเฉพาะการทิ้งระเบิด 

ทั้งนี้เรื่องตัวประกันไม่ใช่ภารกิจต้นๆ ของอิสราเอล แต่ภารกิจของเขาคือยึดฉนวนกาซา และทำลายปาเลสไตน์ รวมถึงทำลายกลุ่มฮามาส เดิมปาเลสไตน์มีชนชาติ มีประเทศอาศัย พื้นที่ที่อยู่ก็ไม่ใช่พื้นที่ว่างเปล่า มีวัฒนธรรม มีการดำเนินการเพาะปลูก ด้านการเกษตร มีอุตสาหกรรม และมีหลักฐานเป็นเหรียญต่างๆมากมาย แต่มติสหประชาชาติ ปี ค.ศ.1948 ก็โยกย้ายคนยิวที่อยู่ในยุโรปตะวันออกมาอยู่ที่ปาเลสไตน์แทน มีการลุกไล่เข่นฆ่าและยึดครองด้วยกำลังมาโดยตลอด ชาวปาเลสไตน์ทุกวันนี้ก็ถูกจับขัง จับฆ่าโดยไม่มีข้อกล่าวหาอะไรเลย และติดคุก ขณะเดียวกันฉนวนกาซา เปรียบเสมือนเป็นคุกเปิด เพราะมีพื้นที่ 365 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชากรอยู่ 2.3 ล้านคน ถือว่าเป็นจำนวนมาก ทำให้มีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากจากการโจมตีพื้นที่ฉนวนกาซา 

นายซัยยิด กล่าวอีกว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ที่ตามข่าวทั่วไปบอกว่าได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านนั้น ความจริงกลุ่มฮิซบุลลอฮ์มีกำลังความสามารถที่จะบุกไปถึงกรุงเทลอาวีฟได้ เพราะมีเครื่องมือพร้อม แต่ว่าเวลานี้พยายามจำกัดบทบาทแค่ป้องปรามไม่ให้อิสราเอลบุกเข้ามาในดินแดนของเลบานอน โดยมีการใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้ แต่ถ้าอิสราเอลยังคงบุกรุกและเข่นฆ่าชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ทางกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ก็อาจจะมีการดำเนินมาตรการที่เข้มข้นมากกว่านั้น แต่ถ้าแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ทางอิหร่าน และกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ก็พร้อมตอบสนอง ส่วนที่มีข่าวว่าจะรุมสกรัม อิสราเอลนั้น ตอนนี้ยังไม่ปรากฎ 

ส่วนการขยายตัวของสงครามนั้น ตราบใดที่อิสราเอลยังโจมตีฉนวนกาซาอยู่ โอกาสสงครามขยายตัวก็มีมาก หวังว่าจะหยุดการเข่นฆ่าและเริ่มเจรจา ประเด็นแรกต้องหยุดยิง และเจรจาแลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอิสราเอลที่กลุ่มฮามาสจับตัวไป ขั้นต้นอาจจะแลกเปลี่ยนกับเชลยศึกหรือนักโทษที่ติดคุกอยู่

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส