แม่ร้องไห้แทบขาดใจ ไม่เชื่อว่าลูกชายตายในอิสราเอล

15 ต.ค. 66

แม่เฒ่า 63 ปี ยังไม่เชื่อว่าลูกชายตายใน อิสราเอล เรียกชื่อในหม้อนึ่งข้าวร้องไห้ใจจะขาด หวังให้ลูกกลับมาบ้าน

วันที่ 15 ตุลาคม 2566 เวลา15.00 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 6 ตำบลท่าลี อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายพิรุฬห์ ทานนพิมพ์ หรือบอม อายุ 34 ปี แรงงาน ไทยชาวอุดรธานี ที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล โดยเมื่อวานนี้ทางฝ่ายปกครองได้มาแจ้งข่าวว่านายบอมได้ชีวิตแล้ว

พบนางนิภารัตน์ ทานนพิมพ์ อายุ 63 ปี แม่ และนายแปลง ทานนพิมพ์ อายุ 69 ปี พ่อของนายบอม พร้อมญาติๆ ซึ่งวันนี้ได้มีเครือข่ายแรงงานจังหวัดอุดรธานีได้มาบอกสิทธิประโยชน์ที่พึงจะได้รับมีอะไรบ้าง

ทางครอบครัวได้พิธีเรียกขวัญ แต่งขันธ์ 5 เอามาหม้อนึ่งข้าวมาประกอบพิธีเพื่อทำการเรียกชื่อลูกชายให้กลับมาบ้าน หากมีชีวิตอยู่แต่หากชีวิตไปแล้วก็ให้วิญญาณกลับมาบ้านไม่ให้ไปร่อนเร่อยู่ที่นั่น

ขณะทำพิธีอยู่นั้นนางนิภารัตน์ ทานนพิมพ์ แม่ของนายบอม ทำการร้องเรียกชื่อลูกชายในหม้อนึ่งข้าว ได้ร้องไห้แทบใจจะขาด อยากให้ลูกชายยังมีชีวิตอยู่ เพราะตอนนี้ยังไม่เชื่อว่าลูกชายเสียไปแล้ว ถึงแม้ว่านายเจริญจิต สืบสาววงศ์ นายอำเภอกุมภวาปีจะมาบอกก็ตาม เพราะยังไม่เห็นศพของลูกชายในการยืนยัน

นางนิภารัตน์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนแชตเฟซบุ๊กถามลูกชายกินข้าวอร่อยไหม ทำไมไม่รับสายแม่ ไม่นานลูกชายก็วิดีโอคอลกลัมมาหาภรรยา แล้วตนก็ได้คุยกับลูกชาย ถามแม่ว่ากินข้าวหรือยัง ให้แม่กินข้าวเยอะๆ ถ้ากลับมาบ้านจะได้ไปกอดแม่ให้หายคิดถึง หลังจากนั้นก็ติดต่อลูกชายไม่ได้เลย

โดยลูกชายได้ไปทำงานประเทศอิสราเอลที่ฟาร์มโคนม เงินตอนนี้เกือบ 1 แสนบาท ส่งมาให้ทางบ้านเดือนละ 5 หมื่นบาท โดยได้กู้เงินจำนวน 1 แสน 2 หมื่นบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ลูกชายไปทำงานต่างประเทศ หลังจากลูกชายไปทำงานประเทศอิสราเอลทำให้ครอบครัวทางบ้านดีขึ้น หนี้ที่กู้ไปใช้หมดแล้ว ก่อนหน้านี้ลูกเป็นพนักงานขับส่งของอยู่ที่กรุงเทพ ลูกชายตัดสินใจไปทำงานประเทศอิสราเอลเนื่องจากรายได้ดี จึงได้ตัดสินใจไป ความฝันของลูกชายต้องการหาเงินมาสร้างบ้านใหม่ มีรถยนต์สักคันและมีฟาร์มเลี้ยงวัวเป็นของตนเอง

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส