“กิตติพงษ์” แรงงานไทยถึงบ้านแล้ว! ซด แกงอ่อมเนื้อวัว ฝีมือแม่อร่อยจับใจ

13 ต.ค. 66

 

“กิตติพงษ์” แรงงานไทยถึงบ้านแล้ว! อาหารมื้อแรก แกงอ่อมเนื้อวัว ฝีมือแม่ เปิดใจ 1 ปี 2 เดือน ได้กำไรคือ รอดชีวิต เช้านี้ญาติพี่น้องแห่ผูกแขนรับขวัญ 

วันที่ 13 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมาน ไชยโก ผู้เป็นพ่อได้พา นายกิตติพงษ์ ไชยโก หรือ โบ้ 1 ใน แรงงานไทยชุดแรก จาก 15 คน ที่รัฐบาลนำเดินทางกลับมาประเทศไทยชุดแรก ได้เดินทางกลับมาถึงบ้านพักส่วนตัว บ้านเลขที่ 147 หมู่ที่ 7 บ้านดอนนาดี ต.บ้านขาม อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เมื่อเวลา 23.30 น. เมื่อคืนวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา 

เมื่อถึงบ้าน นางหนูพันธุ์ ไชยโก ผู้เป็นแม่ ซึ่งรอรับอยู่ที่บ้าน ได้ทำ แกงอ่อมเนื้อวัว ซึ่งเป็นอาหารที่ลูกชายชอบไว้รอ เมื่อลูกชายมาถึงก็ได้ร้องไห้กอดกัน และรับประทานอาหารเสร็จแล้วก็ได้เข้านอนทันที เนื่องจากเห็นว่าเป็นเวลาดึกแล้ว 

ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 13 ต.ค. 66 พ่อแม่ญาติพี่น้องภายในหมู่บ้านต่างทยอยเดินทางมาร่วมให้กำลังใจ พร้อมทั้งผูกข้อมือเรียกขวัญให้กับ นายกิตติพงษ์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น ก่อนที่จะร่วมรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน มีอาหารพื้นบ้านอีสาน ทั้ง ลาบ ก้อย แกงหน่อไม้ 

โดยนายกิตติพงษ์ เล่าว่า ในช่วงที่หลบภัยอยู่ในหลุมหลบภัย ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังอยู่ตลอดเวลา นอนจับมือกันกับเพื่อน 3 คน คิดว่าตัวเองไม่รอดแล้ว ส่วนพระที่ห้อยคอตลอดเวลา คือหลวงปู่เจริญ วัดหนองวัวซอ จ.อุดรธานี กับตีนซิ่นของแม่ เวลาจะเข้าห้องน้ำแต่ละครั้งก็ต้องหมอบไปตลอด แต่ก็ยังดีที่หลุมหลบภัยที่ตัวเองอยู่นั้นมีทหารอิสราเอลอยู่ด้านหน้า ส่วนเพื่อนคนงานไทยอีก 6 คน อยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตร ซึ่งตรงนั้นอาจจะไม่มีทหารอิสราเอล ทำให้กลุ่มฮามาสเข้ามายิงเพื่อนตนจนเสียชีวิต 

นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า ชีวิตที่ผ่านมาไปขายแรงงานในต่างประเทศมาตลอด เพราะอยู่บ้านทำงานก็พอแค่ได้กิน ไม่ได้เงินก้อนเหมือนการไปทำงานที่ต่างประเทศ ซึ่งไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลได้ 1 ปี 2 เดือน ด้วยทุนตนเอง แต่สิ่งที่ไปในครั้งนี้ทุนก็พอได้ จาก 1 ปี ที่ทำงาน ส่วนกำไรคือกำไรชีวิตที่เอาชีวิตรอดมาได้ และดีใจมากที่ได้กลับมาบ้านที่เมืองไทย และคิดว่าคงจะไม่กลับไปแล้วที่อิสราเอล 

ส่วนเรื่องที่สัญญาทำไว้กับ กรมจัดหางานที่ยังไม่ครบกำหนด 5 ปีนั้น ทราบว่าทางรัฐบาลกำลังปรึกษากับทางหน่วยงานของกรมจัดหางานให้อยู่ แต่ก่อนกลับมานายจ้างที่ อิสราเอลก็บอกว่าหากสถานการณ์สงบจะติดต่อกลับมาให้ไปทำงานอีกอยู่ 

ด้านนายสมาน ผู้เป็นพ่อ บอกว่า รู้สึกดีใจสุดๆ ที่ลูกชายกลับมาด้วยความปลอดภัย คุณพระรักษา หัวอกของพ่อแม่ทุกคนรักลูก ดีใจมากที่ลูกได้กลับมาบ้าน พอลูกลงจากเครื่องบินก็ได้สวมกอดจนน้ำตาไหล และผูกข้อมือให้กับลูกเป็นการรับขวัญแล้วที่สนามบิน ซึ่งปกติตัวพ่อเองก็เป็นนักรบแรงงานอีกคนหนึ่ง ที่เกือบตลอดชีวิตก็ไปทำงานต่างประเทศมาตลอด ตั้งแต่ปี 2528 แต่สำหรับ อิสาราเอลก็คงจะไม่ให้ไปอีกแล้ว แต่สำหรับประเทศใหม่ก็แล้วแต่เขา

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส