แฉเพจทนายคลายทุกข์เบี้ยวค่าเช่าบ้าน เข้าใจผิดเป็นทนายเดชาสุดท้ายคนละคน

10 ต.ค. 66

เจ้าของบ้านเช่าแฉ! เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ เบี้ยวค่าเช่าบ้าน 1 ปี แต่ต้องขอโทษที่ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็น ทนายเดชา เพราะที่จริงแล้วเป็นคนละคนกัน

จากกรณีนางกนิษฐา เวียงชัยภูมิ เจ้าของบ้านเช่า เล่าว่าช่วงต้นปี 2563 สามีได้ปล่อยเช่าบ้านพักภายในซอยรามอินทรา 58 โดยมีหญิงสาวติดต่อขอเช่าบ้านเพื่อทำสำนักทนายความ  เธอจำได้ว่าผู้เช่าเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กทนายคลายทุกข์ โดยทำสัญญาเช่าเป็นรายปี ส่วนค่าน้ำจ่ายเป็นราย 6 เดือน เนื่องจากมีการตัดบัญชีของเธอ ช่วงปีแรกผู้เช่ารายนี้จ่ายตรง และเริ่มมีปัญหาค้างค่าเช่าช่วงปี 2564 โดยทนายความรายนี้อ้างว่าป่วย เธอก็เห็นใจ อะลุ่มอล่วยให้

กระทั่งค้างค่าบ้านสะสมนานนับปี ค่าน้ำอีก 2 ปี เธอพยายามติดต่อทนายความรายนี้ทุกช่องทางกลับเงียบหายขาดการติดต่อ จึงเข้าไปที่บ้านพักเพื่อขอให้ย้ายออก ก็เจอแต่แม่บ้านไม่เจอตัวทนายความ และไม่ยอมย้ายออก

เธอรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกคนที่รู้กฎหมายมาเอาเปรียบ เพราะไปร้องเรียนที่สภาทนายความ ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า จึงตัดสินใจมาร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด และให้สื่อมวชนช่วยติดตามทนายความรายนี้

ทั้งนี้เมื่อมีการพูดถึงเพจ“ทนายคลายทุกข์” ประชาชนก็พุ่งเป้าไปที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ โดยผู้สื่อข่าวถามว่าผู้เช่าคือทนายเดชา หรือไม่ นางกนิษฐายืนยันว่าเป็นคนละคนกันไม่ใช่ทนายเดชา พร้อมขอโทษที่ทำให้สังคมเข้าใจผิด และสร้างผลกระทบให้ทนายเดชาเสียชื่อเสียง

และเมื่อไปดูชื่อจริงๆ ปรากฎว่า คู่กรณีใช้ชื่อเพจว่า “ทนาย...คลายทุกข์” ทีมข่าวพยายามติดต่อไปยังทนายผู้เช่าบ้าน แต่ไม่สามารถติดต่อได้

ทางด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์  ยืนยันว่า สำนักงานทนายความและบ้านพักไม่ได้เช่า แต่ซื้อทั้งหมด ซึ่งทนายคู่กรณีของผู้เสียหาย มีการใช้ชื่อเพจที่มีชื่อคล้ายกัน จึงทำให้คนเข้าใจผิด ซึ่งเพจของตนมีผู้ติดตาม 2-3 ล้านคน โดยส่วนนี้อาจพิจารณาฟ้องร้องทนายคนดังกล่าว ที่นำชื่อไปใช้ละเมิดสิทธิการใช้นามบุคคลตามมาตรา 18

ทนายเดชา ยังบอกอีกว่า การฟ้องร้อง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา รวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อเอาผิดทนายคนดังกล่าว เพราะมีการนำเครื่องหมายการค้าบุคคลอื่นไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมฝากถึงคนที่ทำอาชีพทนายความ อยากให้มีเกียรติ มีศีลธรรม เมื่อค้างค่าเช่าก็ควรจ่าย หากไม่จ่ายก็ให้ย้ายออกไป ไม่ควรใช้อาชีพทนายความเอาเปรียบผู้อื่น

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส