นายจ้างเล่าเหตุสลด สาวเมียนมาเข้าห้างฯ พารากอน ไปฝากเงินให้พอแม่ ก่อนถูกยิงเสียชีวิต ยันแจ้งความให้ครอบครัว และจะจ่ายเงินเหมือนลูกจ้างยังมีชีวิตอยู่
วันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามที่มีรายงานข่าวว่า เด็กชายวัย 14 พกอาวุธปืนเข้าไปในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ก่อนใช้ก่อเหตุกราดยิงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยจากรายงานพบว่ามีแรงงานชาวเมียนมาถูกพบเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
เบื้องต้น ญาติของผู้เสียชีวิตให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นน้องสาวของตนและได้มาทำงานที่สยามพารากอนเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ช่วงประมาณเกือบ 6 โมงเย็นของวันเกิดเหตุนายจ้างโทรมาบอกกับตนว่าน้องสาวโดนยิงเสียชีวิต ตนรู้สึกคาใจว่าทำไมถึงปล่อยให้มีคนถือปืนเข้ามายิงชาวบ้านในห้างฯกลางเมืองได้
ทางด้านของ นายจ้างของสาวเมียนมา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด เมื่อตอนเย็นน้องบอกจะไปฝากเงินที่ห้าง พอตนได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุ ก็พยายามติดต่อผู้เสียชีวิต แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ตอนนั้นยอมรับว่า ใจไม่ดี จากนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งโทรศัพท์มาแจ้งว่า เจ้าของเบอร์นี้ถูกยิง ตนจึงได้ถามกลับว่าอาการเป็นอย่างไร แต่ไม่ได้รับคำตอบ โดยแจ้งเพียงว่า ให้รีบเดินทางมาพร้อมญาติ ซึ่งก็ทำให้พอจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ตนจึงรีบเดินทางมาที่ สน.ปทุมวัน
เมื่อถามว่า มองว่าทางห้างหละหลวม เรื่องของความปลอดภัยหรือไม่ นายจ้าง บอกว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องของความหละหลวม น่าจะเป็นเด็กลักลอกเข้ามามากกว่า ตนยังไม่รู้ความจริงอะไรเลย
สำหรับการช่วยเหลือตนตั้งใจไว้อยู่แล้วว่า จะแจ้งความกับบุคคลที่ก่อเหตุยิง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายให้กับผู้เสียชีวิต แต่ส่วนตัวก็จะจ่ายให้พ่อแม่ของน้อง เดือนละ 10,000 บาท ตามพี่น้องเคยทำมา ให้เสมือนน้องเขามีชีวิตอยู่
นายจ้าง กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาน้องผู้เสียชีวิตเป็นคนดี ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เป็นเด็กน่ารัก มีความสามารถพูดได้หลายภาษา ดังนั้นผู้ที่ทำให้เขาเสียชีวิตต้องรับผิดชอบ แต่ยังไม่ได้คิดว่าเขาจะต้องรับผิดชอบอย่างไร ตอนนี้อยากทราบว่ายิงเพราะอะไร แต่มั่นใจว่าไม่ใช่เรื่องของการโกรธแค้นแน่นอน เขาเป็นเด็กไม่มีเรื่องกับใครช่วยเหลือคนมาตลอด
“ตอนนี้ยังไม่กล้าบอกแม่เขาเลย ตอนเห็นคลิปผู้ก่อเหตุบอกปลอดภัยแล้ว อยากย้อนถามว่าใครปลอดภัย น้องคนยิงปลอดภัย อาจจะปลอดภัย เพราะน้องของพี่ยังไม่ได้ปลอดภัยเลย ถ้าไม่ได้เงินจากตรงนี้ จะมาแจ้งให้สื่อมวลชนทราบ ไม่สนใจว่าจะเป็นเด็กหรือไม่เด็ก” นายจ้าง กล่าว
