"สันธนะ"มอง"บิ๊กโจ๊ก"ทำคดีกำนันนกเป็นการทำผลงานแข่งชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.

26 ก.ย. 66

"สันธนะ"มอง"บิ๊กโจ๊ก"ทำคดีกำนันนกชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.ส่วนจะเอี่ยวเส้นเงินเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ให้ว่าไปตามหลักฐาน เชื่อสาวไม่ถึงแม้พฤติการณ์ใช่ ยันไม่รู้จัก"มินนี่"


วันนี้ (26ก.ต.66) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้พูดคุยกับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เปิดเผยถึงกรณีตำรวจ PCT เข้าตรวจค้นการขยายผลผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ว่า เรื่องของพยานหลักฐานที่นำไปสู่การออกหมายจับ และนำไปสู่หมายค้นมองว่าศาลคงเห็นความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีมูลเหตุ

และแม้ว่าทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักผาล รอง ผบ.ตร. ได้ให้คำชี้แจงว่าเส้นทางการเงินดังกล่าวอาจจะเป็นของลูกน้องที่มีความไปเกี่ยวข้องโดยการเล่นเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งถ้าจะพูดแบบนี้ก็หมายความว่ามีความบกพร่องอย่างมาก เพราะทำงานเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนและปราบปรามการกระทำความผิดพนันออนไลน์เองอยู่แล้ว จะไม่รู้พฤติกรรมของลูกน้องตัวเองเลยหรือไม่ เมื่อหลักฐานปรากฏก็ต้องว่าไปตามหลักฐาน คุณจะไม่สงสัยเลยหรอว่าใครโอนเงินให้คุณเป็นจำนวนมากหลายๆครั้งทุกๆเดือน

ส่วนพฤติการณ์ที่มีการนำชุดกำลังพลของคอมมานโดเข้าไปตรวจค้น แม้ตำรวจระดับสูงจะอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นบ้านของรองผบ.ตร.จึงตั้งข้อสงสัยว่ามีความเป็นไปได้จริงหรือไม่ที่จะไม่รู้เลย ตามหลักแล้วหากผู้กระทำความผิดเป็นข้าราชการตำรวจ ยังปฎิบัติหน้าที่ก็ควรจะเข้าสู่กระบวนการการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หรือมีการเรียกพบพูดคุยก่อนหรือไม่ โดยเฉพาะชุดการทำงาน PCT ก็เป็นในระดับรอง ผบ.ตร.เหมือนกัน ควรจะมีการนำเสนอเรื่องดังกล่าวไปยังนายกรัฐมนตรีหรือทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ และหน่วยงานต้นสังกัดผู้ที่สั่งปฏิบัติงานก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเคลื่อนไหวรับผิดชอบอะไร

โดยกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยช่วงวันเวลาของการตรวจค้น ใกล้วันที่จะมีการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ก็อดคิดไม่ได้ว่านี่จะเป็นเกมการแย่งชิงเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พอเกิดเหตุลักษณะแบบนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจแย่ลงและไม่สามารถกอบกู้กลับมาได้ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน เนื่องจากตนเองก็เคยพบเจอลักษณะการถูกตรวจค้นแบบนี้ ซึ่งยอมรับได้เพราะอยู่ในบริบทของประชาชน แต่กรณีดังกล่าวเป็นตำรวจระดับสูงและเป็นข้าราชการทั้งนั้น

ประเด็นเรื่องของการพนันออนไลน์ ต้องถามกันว่า มีการปราบปรามกันจริงจังหรือไม่ เนื่องจากขบวนการดังกล่าว สืบทอดมาจากแก๊งส์บอสตาล ที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการพนัน โดยมีการต่อยอดและส่งต่อฐานลูกค้าผ่าน มินนี่ อาจจะมีการแบ่งผลประโยชน์กัน ขณะที่มีตำรวจระดับสูงเข้ามาอยู่เบื้องหลัง มีทั้งในส่วนของหวังผลประโยชน์เป็นเม็ดเงิน และเข้ามาเกี่ยวข้องในเชิงความสัมพันธ์ ดูแลกัน ไม่เก็บเงิน และช่วยเหลือกัน เหมือนกับภาพของตำรวจท่านหนึ่งที่ปรากฏในสื่อถ่ายกับมินนี่ ผู้ต้องหา ซึ่งได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีคนยกหูโทรศัพท์พูดคุยไกล่เกลี่ยกันก่อนหน้านี้ด้วยการกระจายผลประโยชน์

ขณะที่มีข้อมูลรายงานว่ามินนี่ เป็นหุ้นส่วนกับผับเบบี้เฟส ซึ่งเป็นกรณีที่นายสันธนะ มีการประกันตัวเดวิดซึ่งเป็นเจ้าของผับนั้น นายสันธนะ ยืนยันว่าไม่ได้มีความสนิทสนมหรือรู้จักกับมินนี่เป็นการส่วนตัว ตนเองรู้จักแค่นายเดวิด เท่านั้น นายเดวิดจะไปมีความสนิทสนมหรือรู้จักกับใครอื่น ตนไม่สามารถทราบได้

ส่วนคดีกำนันนก ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักผาล รอง ผบ.ตร.เข้ามาทำคดี มองว่าในส่วนแรกอาจจะเป็นเพราะด้วยตำแหน่งหน้าที่สืบสวนสอบสวน หรืออาจจะได้รับมอบหมายจากผู้ประสานการตำรวจแห่งชาติ แต่สังเกตได้ว่าภายหลังที่มีการเลื่อนการประชุมการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ยิ่งทำให้แต่ละคนช่วงชิงผลงานกัน แต่ในคดีมีเรื่องของส่วยเข้ามาเกี่ยวข้องเลยต้องให้กองปราบเป็นผู้ดำเนินการแทนทั้งที่มีอำนาจในการทำตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ส่วนตัวมองว่าสถานการณ์ตอนนี้ตัดขาดจนไม่สามารถกลับมาทำงานร่วมกันได้อีกแล้ว เพราะต่างฝ่ายต่างเคยมีเรื่องผิดใจกัน จนมีการถอดยศ และกลับเข้ามามีตำแหน่งอีกครั้ง ซึ่งถ้าปล่อยให้มีความขัดแย้งเป็นแบบนี้ อีกหน่อยตำรวจคงต้องพกปืนมาประชุมกันทุกวัน เพราะขนาดกำนันยิงตำรวจได้ ถ้าตำรวจแก้แค้นกันเองมันก็ยิงกันได้

ในวันพรุ่งนี้ตนเองจะมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติและผลงานหน้าที่ความเหมาะสมของแคนดิเดตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้ง 4 คน มอบให้กับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นประกอบการตัดสินใจให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นประธานในการประชุมในวันที่ 27 กันยายนนี้ด้วย โดยเชื่อว่าหากกระจายอำนาจให้ถูกคนถูกจุด ก็จะทำให้ภาพลักษณ์และปัญหาความขัดแย้งของตำรวจสิ้นสุดได้.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส