“พิธา” ลั่น จะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม ย้ำ “ชัยธวัช” คือผู้นำตัวจริง

24 ก.ย. 66

‘พิธา’ ลั่นจากกันไม่ตลอดไปเพราะจะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม  ย้ำ “ชัยธวัช” ไม่ใช่ผู้นำขัดตาทัพแต่คือผู้นำตัวจริงเสียงจริงของก้าวไกล อ้อน “รักพิธาแบบไหนให้รักชัยธวัชแบบนั้น” พร้อมพังทลายทุกปราการเชื่อเลือกตั้งครั้งหน้า 300 เสียงเป็นรัฐบาลแน่นอน  4 ปีจากนี้ลุยสู้ทุกสนามเลือกตั้ง ขยายสมาชิกให้มากสุดในประวัติศาสตร์

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 66 ในช่วงเย็น ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง นายนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล  กล่าวในเวที “ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” ตอนหนึ่งว่า  ถึงแม้ว่าเราจะลาจากกัน แต่ขอบอกกับทุกท่านว่าจากกันไม่ตลอดไป เพราะจะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม ตลอด 3 ปี กับ 185 วันเป็นการเดินทางของพวกเรา ที่ตนจะไม่มีวันลืม ตนภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำร่วมกันมาทุก ๆ วัน ที่เราทำร่วมกันมันคือการจุดไฟกลางสายลม การจุดไฟกลางสายลมนั้นอาจเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่เราทำร่วมกันสำเร็จแล้วอย่าปล่อยให้มันดับโดยเด็ดขาด ไม่ว่าท่านจะหวัง สมหวัง หรือผิดหวัง  แต่ในเมื่อไฟที่จุดติดกลางสายลมแล้วอย่าให้มันดับโดยเด็ดขาด รอตนเพียงชั่วคราว กลับมาเมื่อไรจุดไฟนั้นต่อแน่นอน  บอกกับพี่น้องแล้วว่าจากกันไม่ตลอดไป กลับมาอีกครั้ง ก้าวต่อไปก้าวไกลทั้งแผ่นดิน

นายพิธา กล่าวว่า พี่น้องอย่าเข้าใจผิดโดยเด็ดขาดอย่าไปฟังนักวิชาการ อย่าไปฟังกูรูการเมืองที่บอกว่าถึงแม้ผู้นำชุดใหม่จะเป็นผู้นำชั่วคราว เขาไม่ใช่ผู้นำขัดตาทัพแต่อย่างใด เขาคือผู้นำตัวจริงเสียงของของพรรคก้าวไกล  เพราะว่าพรรคก้าวไกล ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล พวกเราคือผู้คน และการเดินทาง ถึงแม้บุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่อยู่ ต้องลาออก ต้องโดนตัดสิทธิ์ ย้ายพรรค แต่แกนและหัวใจสำคัญนั้นยังอยู่ นั่นก็คืออำนาจสูงสุดต้องเป็นของประชาชน เราคือสายธารแห่งความหวัง เราคือสายธารแห่งความเป็นไปได้ เราคือสายธารของศรัทธา เพราะฉะนั้นใครที่เข้าใจผิดว่าหัวหน้าพรรคเป็นแค่หัวหน้าพรรคขัดตาทัพ เขาเข้าใจผิดมหันต์ เพราะผู้นำชุดนี้คือตัวจริงเสียงจริงของฝ่ายประชาธิปไตย ท่านรักพิธาอย่างไร ท่านต้องรักชัยธวัชอย่างนั้น

นายพิธา กล่าวต่อว่า  มันไม่มีหรอกที่ฝนตกขึ้นฟ้า ฝนตกต้องตกลงดิน แต่เมื่อไรที่สายน้ำถูกบีบบังคับ เมื่อไรก็ตามที่มากดดันกันมาก ๆ สายน้ำนั้นก็พร้อมที่จะพังทลายทุกปราการเหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมา 14 พ.ค. จงเป็นสายน้ำ จงเป็นสายธาร ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหน ไม่ว่าจะอยู่ในภาชนะแบบไหนก็ยังเป็นน้ำอยู่ดี สามารถที่จะปรับตัวได้ จะเป็นน้ำแข็งหรือไอน้ำก็ได้ตราบใดที่อุดมการณ์ยังเหมือนเดิม ตราบใดที่หลักการและเนื้อหาของพวกเรายังเหมือนเดิม ตราบใดที่เรายังมีความฝันและเป้าหมายเดียวกัน เป้าหมายของเราในการทำงานทางการเมืองที่ถึงแม้จะเป็นฝ่ายค้านก็คือฝ่ายค้านเชิงรุก เมื่อวานนักข่าวต่างประเทศถามว่าแล้วพรรคก้าวไกลจะเอาอย่างไรต่อ ชนะแล้วปกครองไม่ได้ ชนะแล้วบริหารไม่ได้ ตนตอบว่าก็ชนะให้มันมากขึ้น ไม่รู้จะตั้งเป้ากันอย่างไร เพราะลงเลือกตั้งครั้งแรกได้มา 80 ที่นั่ง โดนยุบพรรคโดนบดขยี้ไปเหลืออยู่ 50 ที่นั่ง ตนนำเลือกตั้งในนามพรรคก้าวไกลครั้งแรกได้มา 151 ที่นั่ง เทียบบัญญัติไตรยางค์แล้วเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเป็นเท่าไร เมื่อความฝันมันมีเป้าหมายชนะเลือกตั้งขนาดนั้นไม่ได้ปกครองให้มันรู้ไป ตนขออนุมานว่าพี่น้องเห็นด้วยกับเป้าหมายและความฝันในการทำงานทางการเมืองของพวกเรา ดังนั้น  300 เสียงไปเลย 

นายพิธา กล่าวต่อว่า แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป เราจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านที่อยู่ข้างประชาชน พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านที่จะสะสมชัยชนะไปเรื่อยๆ จนเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดของคนไทย  โดยมีองค์ประกอบ คือขยับและขยาย  หนึ่งเราพร้อมจะแข่งทุกสนามเลือกตั้ง 4 ปี 4 สนามใหญ่เจอก้าวไกลทั่วประเทศแน่นอน ปีที่ 1  อบจ.ปีที่ 2 เทศบาล ปีที่ 3 ผู้ว่า กทม. ปีที่ 4 เลือกตั้งใหญ่เดี๋ยวเจอกัน  แข่งเสร็จไม่พอเราต้องขยับด้วย ตอนนี้เรามีทั้ง สส.เขต สส.บัญชีรายชื่อ ท้องถิ่น มีส้มจี๊ด มีศูนย์นโยบายเพื่ออนาคตพรรคก้าวไกล เวลาขยับมันไม่ขยับคนเดียวแต่ขยับเป็นองคาพยพ ไม่สะเทือนให้มันรู้ไป  เมื่อเราแข่งจนชนะเลือกตั้ง และขยับทุกองคาพยพให้ขยายไป สุดท้ายเราต้องขยายฐานสมาชิกที่ตอนนี้มีอยู่ 8 หมื่นกว่าคน เพิ่มขึ้นเดือนละหมื่น ๆ  ปีใหม่นี้เผลอ ๆ พรรคก้าวไกลจะขยายฐานสมาชิกเยอะเป็นอันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย  อย่าลืมสิ่งที่พวกเราได้ทำร่วมกันมาเราชนะในกติกาที่เขาเขียน เราชนะในช่วงที่ไม่คิดว่าจะชนะได้ เปลี่ยนความผิดหวังเป็นพลัง และต้องผลักดันต่อไปจนถึงเส้นชัยร่วมกัน ก้าวให้ไกลต้องก้าวด้วยกันเพื่อที่จะก้าวต่อไปก้าวไกลทั้งแผ่นดิน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส