“ผู้การเเต้ม” เผย โอนคดีมากองปราบเป็นเรื่องดี ส่วนกลางดูแลไม่มีเเทรกเเซง สังคมอย่ามองบิ๊กโจ๊กถูกลดอำนาจ คดีนี้ไม่ใช่ตัวชี้วัดตำแหน่ง ผบ.ตร. ส่วนการย้าย 6 ตำรวจเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพก็ทำถูกเเล้ว
ทีมข่าวอมริทร์มีโอกาสพูดคุยกับผู้การเเต้ม พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยผู้การเเต้มกล่าวว่า เห็นด้วยกับการโอนย้ายคดีกำนันนกจากนครปฐม เข้ามาที่กองปราบ คดีนี้เป็นคดีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คดีสำคัญกระทบจิตใจของประชาชน เเละตำรวจ ที่สำคัญเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล เเล้วจะต้องมีการสืบสวนขยายผลอีกมากที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา ทั้งเรื่องฟอกเงิน เรื่องอาวุธปืน เรื่องการฮั้วประมูล การพนันออนไลน์
ดังนั้นการโอนคดีมากองปราบถือเป็นเรื่องที่ดีเเล้ว การสอบสวนจะได้เป็นกลุ่มเดียว เเนวทางเดียวกัน ถ้าเเยกกัน การสอบสวนไปคนละทาง หลักฐานไม่ถึง อาจทำให้ผู้ต้องหาหลุดคดี ส่วนเรื่องการเเทรกเเซงคดีก็จะน้อยลง ต้องยอมรับว่า ในต่างจังหวัดมีการเเทรกเเซงกระบวนการยุติธรรมมีมาก เเละมีผลต่อรูปคดี ดังนั้นคดีที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ หรือ ผู้มีอิทธิพลควรจะให้สอบสวนกลางทำคดีถูกเเล้ว
ส่วนบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่อยากให้สังคมมองว่า เขาถูกลดอำนาจ ตอนนี้ก็ยังมีหน้าที่หลัก หน้างานอยู่เเล้วในการคุมสืบสวนสอบสวน โดยยังไงก็ตามกองปราบก็ต้องรายงานให้ท่านทราบอยู่ดี เพราะเป็นรอง ผบ.ตร.ที่คุมเรื่องนี้ ส่วนคดีที่รองโจ๊กทำไว้ก็เป็นหลักที่กองปราบต้องมาทำต่อ ประชาชนอาจจะเคลือบเเคลงใจว่ามีลับลมคมใน มีปัญหาอะไร บิ๊กโจ๊กเจอตอหรือเปล่า เเถลงเยอะเกิน จนทำให้ภาพลักษณ์ตำรวจเสียหาย เลยถูกลดอำนาจหรือเปล่า ตนขอตอบในฐานะตำรวจว่า ในการทำคดีสอบสวน การเอาเนื่อสำนวนมาเผยเเพร่ ก็ไม่ถูกต้อง ผิดระเบียบ ข้อบังคับเเละอาจผิดกฎหมายด้วย เพราะเอาความลับทางสำนวน คำให้การมาเปิดเผย เเต่ถ้าออกมาพูดในเเนวทางการสอบสวนสืบสวน เเบบนี้ไม่ผิด
เรื่องที่ 2 ประเด็น กองปราบขอย้าย 6 ตำรวจจาก เรือนจำกลางสมุทรสงครามไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เรื่องนี้ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะ ตำรวจเกี่ยวข้องกับคดีฆ่า มีการช่วยเหลือผู้ต้องหาพาหนี 6 คนนี้จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา จะต้องมีการสอบสวนเเละเอาตัวผู้ต้องหามาควบคุมที่ส่วนกลาง ซึ่งเป็นเรือนจำเดียวกับกำนันนก เเต่คนละเเดน ไม่เจอกัน นอกจากตอนจะไปขึ้นศาล
ซึ่งต้องยอมรับว่า 6 คนนี้เป็นตำรวจมานานเเล้ว พรรคพวกเพื่อนฝูงมี ส่วนกลุ่มกำนันนกก็เป็นผู้กว้างขวาง มีบารมี มีอิทธิพล ซึ่งต่างจากผู้ทรงอิทธิพล ที่ไม่ต้องทำอะไรก็มีคนเกรงใจ อันที่จริง คดีนี้ไม่มีอะไรน่ากังวล
เรื่องที่ 3 ประเด็นที่คนกังวลกันว่าคดีนี้อาจเป็นตัวชี้วัด ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนใหม่ ตนมองว่าไม่เกี่ยวข้องเลย คดีความอาญาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เฉพาะคดีนี้ ยังไงก็ต้องรับผิดชอบ สอบสวน ปราบปราม จะต้องรับผิดชอบกันหมด ใครทำคดีใหญ่ ทำคดีมากกว่าจะได้ขึ้น ผบ.ตร. ไม่อยากให้มองแบบนั้น คดีนี้รองโจ๊ก สอบสวน รองต่อ ปราบปราม มันเป็นหน้าที่อยู่เเล้ว
คนที่จะขึ้นตำแหน่ง ผบ.ตร.จะต้องเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ ซึ่งรองทุกคนมีความรู้ความสามารถทั้งนั้น ต้องเก่งทุกด้าน คนที่จะเเต่งตั้งตำแหน่ง ผบ.ตร. คือ นายกรัฐมนตรี คุณเศรษฐา ทวีสิน ว่าจะเลือกใครเข้ามาช่วยให้รัฐบาลมั่นคง
