อดีต สจ.เมืองสามอ่าว ขับปาเจโร่ไปหาหมอ วูบหลับระหว่างทางชนแบริเออร์ดับ

14 ก.ย. 66

ภรรยาเล่านาทีสลด อดีต สจ.เมืองสามอ่าว ขับปาเจโร่กำลังไปหาหมอเพื่อรักษาภาวะไตเสื่อม เกิดวูบหลับชนแบริเออร์พลิกคว่ำเสียชีวิต 

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 14 ก.ย. พ.ต.ท.บุญช่วย ร่วมสมัคร สว.(สอบสวน) สน.บางมด รับแจ้งเหตุรถชนแบริเออร์พลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนพระราม 2 ขาเข้า ช่องทางด่วนหน้าปากซอย 32 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน พบรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สปอร์ต สีดำ ทะเบียน กท 7539 ประจวบคีรีขันธ์ สภาพหน้ารถฝั่งซ้ายเฉี่ยวชนกับแบริเออร์คอนกรีตข้างทาง จนรถพลิกคว่ำล้อทั้ง 4 ข้างชี้ฟ้าขวางถนน 2 เลนด้านขวา เบื้องต้นพบร่างผู้เสียชีวิตคาเบาะคนขับ 1 ราย ชื่อ นายประกิตติ อาจพันธ์ อายุ 55 ปี อดีต สจ.ประจวบคีรีขันธ์ และ อดีต นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สภาพสวมเสื้อลายสก๊อตแขนสั้น นุ่งกางเกงสแล็คขายาวสีดำ ที่หน้าผากมีบาดแผลฉกรรจ์จากแรงกระแทก 1 แห่ง เบื้องต้นจึงมอบร่างให้แพทย์นิติเวช ไปดำเนินการผ่าชันสูตรหาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง

สอบสวน นางสุนันทา เกิดพอ อายุ 52 ปี ภรรยา ซึ่งนั่งรถมาข้างๆ กัน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย กำลังจะเดินทางไปพบแพทย์ตามนัดที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อรักษาภาวะไตเสื่อม โดยขับรถพาตนมาจากทางจังหวัดสมุทรสาคร กำลังจะมุ่งหน้าไปขึ้นด่วนพระราม 2 ซึ่งระหว่างนั้นตนได้นอนหลับแต่ยังคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ ส่วนผู้ตายปกติแล้วก็เป็นคนขับรถคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเช่นกัน กระทั่งจู่ๆ ต้องตกใจตื่น เมื่อรู้สึกว่ารถกระแทกจากทางด้านซ้ายอย่างแรงจนไถลและพลิกคว่ำ ตอนนั้น พอตนรวบรวมสติได้ก็พบว่า นายประกิตติ หมดสติไปแล้ว จนมีอาสาสมัครกู้ภัยมาช่วยนำตนและร่างสามีของจากตัวรถ โดยตนเชื่อว่าเจ้าตัวน่าจะเกิดอาการอ่อนเพลียจากการขับรถทางไกลแล้วจะวูบหลับ

ด้านพนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนถนนพระราม 2 ขาเข้า พบภาพรถผู้ตายเปิดไฟผ่าหมาก ขับส่ายไปมาคล้ายกำลังหลับใน จากนั้นรถได้แถเข้าช่องทางด้านซ้ายเสยกับแบริเออร์คอนกรีตจนรถพลิกคว่ำ เคราะห์ดีที่รถชาวบ้านคันอื่นๆ เบรคหยุดรถได้ทัน จึงไม่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ซึ่งหลังจากนี้จะนำรถยกมาลากยานพาหนะของผู้ตายไปเก็บรักษาที่โรงพัก โดยหลังจากแพทย์ชันสูตรพลิกศพเรียบร้อยแล้วก็จะให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส