‘อัยการปรเมศวร์’ ฟันธง เก้าอี้ทุกหน่วยร้อนแล้ว นั่งไม่ติด ไม่ต้องคิดโยกย้าย คดีใหญ่ การเสียชีวิตครั้งนี้จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง เปิดโปงทุกหน่วยงานที่ฮั้วเกี่ยวข้อง อยากให้ตำรวจ โยก คดีเข้า ศาลปราบปรามทุจริต รับประกันดิ้นไม่หลุด
ทีมข่าวอมรินทร์ได้พูดคุยกับนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสฝ่ายสืบสวนสอบสวนและการศึกษา สำนักงานอัยการสูงสุด และในฐานะประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ได้เล่าว่า คดีกำนันนก ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว นำตัวผู้ต้องหาไปขังแล้ว และหน่องเองลูกน้อง กำนันนก ที่ถูกยิงไป ก็ไม่ได้มีมูลเหตุจูงใจ อีกทั้ง ผู้ต้องหาทั้ง 2 ยิงเสร็จแล้วนั้น ก็หนีไปพร้อมกัน ทำให้ชี้ชัดได้แล้วว่า กำนันนกคือผู้บงการในการสั่งปลิดชีพ สารวัตรแบงค์
ถ้าหากว่า กำนันนก จะไม่รู้เห็นเป็นใจ อธิเช่น นั่งเฉย ๆ หรือพาคน เจ็บไปส่งโรงพยาบาล แบบเช่นนั้นกำนันอาจจะหลุดคดีได้ แต่ถ้า ตัวช่วยกำนัน มีคนเดียว คือ หน่อง ถ้าหน่องอยู่ แล้วอ้างว่าทำไปเพราะ ลูกพี่โกรธโมโห โมโหแค้นแทน แบบนี้กำนันก็หลุด
ตนเองมองว่าประเด็นเพิ่มเติมที่ กำนันยอมให้เจ้าหน้าที่พาหลบหนี ให้เจ้าหน้าที่ถอดเซิฟเวอร์และ ลบล้างพยานหลักฐาน โดยเป็นวิธีการขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนั้น ถือว่ายินยอมให้เจ้าหน้าที่สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ พาผู้ต้องหาหนี โดนแน่ ๆ 5 ปี ทำลายหลักฐาน 2 ปี และ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อีก 5 - 10 ปี ซึ่งกำนัน เป็นเจ้าหน้าที่โดยตรงแต่สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานโดยมิชอบนั้น ถือว่าทุจริต
ในความคิดเห็นส่วนตัวตนเองมองว่าคดีนี้อยากจะให้โยกย้ายมาอยู่ในศาลปราบปรามทุจริต เหมือนคดีเช่น ผกก.โจ้ เมื่อวานตนเองได้ พูดคุยกับ รองโจ๊ก บอกสั้น ๆ อย่าลืมรายงาน ปปช. ภายใน 30 วัน // ตนเชื่อว่า คดีนี้ไม่เกิน 87 วัน นับจากวันเกิดเหตุ ได้ฟ้องแน่นอน
คดีนี้สำคัญมาก กระทบกระเทือนสถาบันตำรวจ ควรโอนคดีจาก ภาค 7 จากนครปฐม กลับมา ที่ กรุงเทพมหานคร อยากให้นำมาเข้าศาลปราบปรามทุจริตกลาง
ฝากบอกถึงญาติพี่น้องของตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ อยากให้บอกเขาด้วยว่า “ตำรวจที่เป็นพยาน บอกให้หมด ตอบให้หมด พูดให้ชัด “ ถ้าคดีนี้ถูกดำเนินคดีในศาลปราบปรามทุจริต ทนายมีโอกาสที่จะได้ถามซักค้านนั้นน้อยมาก เพราะระบบศาลปราบปรามทุจริตคือระบบไต่สวน ศาลอัยการจะเป็นคนถามพยานเอง ส่วนทนายจำเลย อยากจะซักถามอะไรก็ต้องเขียนคำถามให้ศาลก่อน เพราะคดีในศาลปราบปรามทุจริตจะไม่เหมือน คดีอาญาปกติแน่นอน โอกาสทุกคนจะได้ผลประโยชน์ พยานทั้งหมด ต้องไปให้การตามความเป็นจริงทั้งหมด และโอกาสที่ศาลจะปรานีก็จะต้องพอมีบ้าง
ส่วนเรื่องของความหนักเบาระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกมายอมรับสารภาพและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังรอภาพกล้องวงจรปิด และอาจจะรับสารภาพในภายหลังนั้น ตนเองยืนยันว่าโทษจะต้องต่างกันอย่างแน่นอน เพราะผู้ที่ออกมายอมรับสารภาพก่อนคือผู้ที่ยอมรับสารภาพโดยสมัครใจแต่หากผู้ใดรอภาพกล้องวงจรปิดและจะออกมารับสารภาพในภายหลังนั้นเรียกว่าเป็นการยอมจำนวนต่อหลักฐาน และโอกาสที่ศาลจะลดโทษนั้นน้อยลง
ตัวเองอยากให้สังคมจับตาดูให้ดีเพราะจากที่ตนเองตรวจสอบนั้นตัวเลขของธุรกิจดังกล่าวถือว่าเป็นการฮั้วประมูล ขอเตือนเอาไว้เลยว่าไม่ใช่เพียงแค่บริษัทที่ฮั้วประมูลที่จะเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จัดซื้อจัดจ้าง / หน่วยงานราชการในพื้นที่ / หน่วยงานอบจ. / หน่วยงานอบต. / นักการเมืองท้องถิ่น / ระวังตัวเอาไว้ ยืนยันว่าคดีนี้ใหญ่มากไม่ได้มีเพียงแค่กำนันและตำรวจเท่านั้น ทุกภาคส่วน เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันหมด ยืนยัน คดีนี้ใหญ่กว่า แอมไซยาไนด์
ในส่วนประเด็นที่ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่งรับสายโทรศัพท์ข่มขู่นักข่าว ที่เป็นกระแสที่เกิดขึ้นนั้น ก็จะมี ผกก ท่านนั้นที่พูดไป ยิ่งพูดอะไรออกมาก็ยิ่งแย่ และอีกตำรวจหลายท่านที่ตัดวิบากกรรมตัวเขาเองไปนั้น เพราะกระแสกดดันความเครียด ต่างๆ ตนเชื่อว่า ยิ่งขุดต่อไปเรื่อยจะเจออะไรอีกเรื่อยๆแน่นอน
ตัวเองเชื่อว่าคดีนี้ที่สารวัตรแบงค์ เสียชีวิตไปนั้น ยืนยันว่าท่านจะไม่เสียชีวิตตายเปล่า จะสามารถล้างบางเมืองนครปฐมได้ วงการตำรวจ สะเทือนทั้งประเทศ การฮั้วประมูล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องเกี่ยวข้องแน่นอน ที่รับผิดชอบเรื่องการสร้างอาคาร ถนน หรืออะไรก็แล้วแต่ ตนเองฟันธง ทุกหน่วยโดนหมด เตรียมตัวได้เลย ย้ายวันนี้ ไม่ทันแล้ว ไม่ต้องย้ายหรอก นั่งนิ่ง ๆ อยู่เฉย ๆ เก้าอี้ร้อนเป็นไฟนั่งไม่ติดแน่ ๆ ต่อให้ไปตามขอสัมภาษณ์ ใครก็ตาม อบต. อบจ. ของนครปฐม ไม่มีใครเปิดประตูต้อนรับพูดด้วยแน่นอน เตือนอย่าคิดว่าตามเส้นทางการเงินไม่เจอ ปปง. เขาเริ่มตามแล้ว