‘บิ๊กทิน’ ขอพร ‘บิ๊กจิ๋ว’ ขอเชื่อมั่นในตนเองโวนายพลนับร้อยเสนอตัวช่วย

7 ก.ย. 66

“สุทิน” ขอพร “บิ๊กจิ๋ว” เชื่อมั่นคุมกลาโหม โวนายพลนับร้อยเสนอตัวขอช่วยงาน เล็งผลักดันเทคโนโลยีกองทัพ มั่นปัญหาเรือดำน้ำแก้ได้ กองทัพไม่เสียโอกาสประเทศชาติก็จะไม่เสียประโยชน์  พันธมิตร “จีน” ก็จะไม่เสียใจ

7 ก.ย. 66 นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการเข้าพบพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า คิดว่าจะไม่ค่อยพูดเพราะจริง ๆ ธรรมชาติทหารคือพูดน้อย ๆ ทำงานมาก ๆ เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีก็จะต้องพูดน้อยต่อไป โดยนายสุทินระบุว่าวันนี้เจตนามาเพื่อขอพรพลเอกชวลิต และถือโอกาสมาเยี่ยมเพราะตั้งใจจะมานานแล้ว ซึ่งพลเอกชวลิตได้ให้กำลังใจพร้อมบอกว่าดีใจที่ได้เห็นตนเองมาอยู่นี่ และมั่นใจว่าสามารถทำงานได้ และท่านยังได้ให้พรที่สำคัญคือให้เชื่อมั่นตัวเอง เมื่อได้ยินอย่างนั้นตนเองก็รู้สึกมีกำลังใจเยอะ

เมื่อถามว่ามีการพูดคุยถึงแนวคิดการใช้ทหารพรานทดแทนทหารเกณฑ์หากมีการยกเลิกหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่ายังไม่มีการพูดถึง แต่คิดว่าวันหลังหากมีเวลาตนเองค่อยแอบมาคุยกับพลเอกชวลิตอีกครั้ง

เมื่อถามว่าการเข้าไปปฎิบัติงานที่กระทรวงกลาโหมในวันแรกหากเป็นไปได้จะเชิญพลเอกชวลิตเข้าไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีเพื่อถือเป็นฤกษ์   นายสุทิน ระบุว่าพลเอกชวลิต ขำแล้วบอกว่าไปไม่ได้เพราะติดเรื่องสุขภาพและคงไม่สะดวก ส่วนสาเหตุที่ตนเองต้องการให้พลเอกชวลิตไปนั่งเก้าอี้ในวันแรกที่เข้ากระทรวงนั้นก็เพราะว่า พลเอกชวลิต เป็นทหารรุ่นเก่าเพียงไม่กี่คนที่เหลือและเก่งทั้งเป็นทหารอาชีพ พอมาเป็นนักการเมืองก็เก่งด้วยเช่นกัน ท่านจึงน่าจะเป็นปูชนียะบุคคลและเป็นสิริมงคล ซึ่งตนเองเคยพูดกับพลเอกชวลิตในสมัยรัฐบาลไทยรักไทยและพลเอกชวลิตได้มีการชวนไปเล่นกอล์ฟด้วย

นายสุทิน ระบุถึงภารกิจแรกในการเข้าไปบริหารงานในกระทรวงกลาโหม ว่า ต้องทำหลายส่วนแต่นโยบายที่สนใจคือ เรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ โดยอยากเชิญทหารเก่ง ๆ สมัยใหม่ เชื่อมโยงกับนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีด้วยตนเองจัดตั้งขึ้นมาเป็นคณะกรรมการทำเทคโนโลยีของกองทัพให้เป็นกองทัพที่สมัยใหม่จริง ๆ

พร้อมย้ำด้วยว่าการ ทำงานร่วมกับรองนายกมนตรีอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทยว่าไม่เป็นปัญหาเพราะทำงานภายใต้นายกรัฐมนตรีคนเดียวกัน 

ส่วนเรื่องบทบาทหน้าที่ของกองทัพกับต่างประเทศนั้นตนเองได้มีการวางคณะกรรมการไว้เพื่อศึกษาและพูดคุยซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งเรื่องประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาและภาคใต้ นอกจากนี้ยังมีคณะทำงานอื่น ๆ เช่น คณะนโยบายด้านทหารเกณฑ์ การปรับกำลังพล แก้ปัญหายาเสพติด และเทคโนโลยี เป็นต้น ซึ่งขณะนี้มีทหารจำนวนมากที่เสนอตัวมาช่วยงานมียศพลเอกเกือบร้อยคน และยังมียสพลโท พลตรีด้วย

นายสุทิน ระบุว่าเริ่มปรับตัวและคุ้นชินสำหรับบทบาทหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่ยังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการเรียนรู้ 

ส่วนหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เข้ามาดูแลตนเองนั้นจะปรับลงให้น้อยที่สุด พร้อมชี้แจงว่าภาพชุดรักษาความปลอดภัยที่ได้เผยแพร่ออกมาตามสื่อนั้น เป็นภาพวันแรกที่เจ้าหน้าที่มารายงานตัว วันนั้นทางศรภ. ส่งคณะไปรายงานตัว แต่วันจริงเปลี่ยนผลัดมาวันละ 3-4 คนเท่านั้น

ทั้งนี้วันนี้นายสุทินได้นั่งรถประจำตำแหน่งเบนซ์สีดำกันกระสุน ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง นายสุทินระบุว่าลองดูว่ารถตู้กับรถเบนซ์เป็นอย่างไร และส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีกระสุนมาหา

เมื่อถามถึงแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องเรือดำน้ำนายสุทินระบุว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาซึ่งนายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีแนวทางที่ดีถึงเวลา ตัดสินใจเชื่อว่าสังคมจะไม่ผิดหวัง

ส่วน นายกรัฐมนตรีจะนำเรื่องดังกล่าวไปพูดคุยในเวทีการสหประชาชาติที่จะมีการประชุมในวันที่ 19 กันยายนนี้ หรือไม่ นายสุทินระบุว่าเป็นไปได้

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะไปเจรจากับเยอรมันให้ขายเครื่องยนต์ให้กับประเทศไทย นายสุทินระบุว่าเป็นไปได้ มีโอกาสได้ทั้งนั้น ถ้าผู้ใหญ่ในประเทศคุย โดยย้ำว่าการแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องไม่กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งจีน ทั้งเยอรมัน ทั้งไทย จะพอใจ เชื่อว่ากองทัพไม่เสียโอกาสประเทศชาติก็จะไม่เสียประโยชน์  พันธมิตรก็จะไม่เสียใจ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม