ครอบครัวเด็ก 10 ขวบ เตือนยาบ้าหาง่าย ดูแลลูกหลานให้ดี

ครอบครัวเด็ก 10 ขวบ เตือนใจทุกวันนี้ยาบ้ามันหาง่าย ฝากครอบครัวดูแลเด็กกันให้ดี

จากกรณีแม่ร้อง "ปวีณา" ลูกชาย 10 ขวบ คลั่งจะปาดคอฆ่าแมว แม่พาหาหมอพบสาเหตุลูกถูกชายข้างบ้านหลอกให้เสพยา บังคับหาเงินรายวัน  และเมื่อวานนี้ทางนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.จะนะ จ.สงขลา ได้รับรายงานว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา นายสิงห์ มียาเสพติดไว้ในครอบครอง (เฮโรอีน ยาบ้า ไอซ์) และเสพยาเสพติด อยู่ระหว่างทำการสอบสวน ซึ่งนางปวีณา ได้นัดหมายกับ ผกก.สภ.จะนะ เพื่อให้ผู้เสียหายไปพบ เพื่อสอบปากคำ ก่อนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายสิงห์ และจะคุมตัวฝากขังศาลในวันที่ 18 ส.ค.66 พร้อมคัดค้านการประกันตัวด้วย

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ บ้านน้องที่เกิดเหตุ พบกับตา ของน้องวัย 10 ขวบ พาไปดูในบ้านเห็นสภาพความเสียหายของข้าวของ เช่น พัดลม กระถางต้นไม้ สังกะสี ประตูห้องน้ำ มีร่องรอยการถูกทุกทำลายจนพัง โดยเฉพาะประตูห้องน้ำที่พังจนเป็นรู ต้องเอาถุงพลาสติก มาปิดไว้ ส่วนที่ถูกทำร้ายยังอยู่ปกติดี ส่วนบ้านเพื่อนบ้านที่ยู่ติดกัน ที่ถูกจับนั้นจะอยู่ด้านหน้าของบ้านน้องวัย 10 ขวบ ซึ่งผู้สื่อข่าวและพูดคุยกับ แม่ของน้องเปิดเผยว่า น้องมีพฤติกรรมก้าวร้าวหลังเสพยาไป มีการปาข้าวของ ทำลายพัดลม ทำลายประตูห้องน้ำ และก็ทำกับแมว อาการของน้องคือไม่ฟังใคร แล้วก็ พยายามจะทำลายข้าวของอย่างเดียว แล้ววันที่พาน้องไปรักษา คือน้องได้ทำกับแมว แล้วเขาก็เกร็ง ขากรรไกรเกร็ง ลิ้นจุกปาก แม่เลยพาไปโรงพยาบาล ตรวจตามพื้นฐานและโรงพยาบาลแจ้งว่าน้องมีสารยาบ้าในร่างกายเยอะมาก ทางครอบครัวก็ไม่เชื่อ ไม่คิดว่าน้องจะมียาบ้าเพราะน้องอายุแค่ 10 ขวบ โดยแม่พยายามสอบถามน้องแต่ไม่ยอมบอก จนต้องใช้นักจิตวิทยาจากโรงพยาบาล คุยกับน้อง จึงบอกว่าเอามาจากใคร และให้วันละ 2 - 3 เม็ด ไม่ได้เสพแต่กิน กินแบบเคี้ยว ๆ แล้ว ก็ดื่มน้ำตามหลัง วันละ 2-3 เม็ด โดยทางบ้านไม่อยากเอาเรื่องคนที่เอายาให้น้อง เพราะไม่เคยมีปัญหากัน และไม่คิดว่าเจาจะทำ ที่ผ่านมาเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาโดยตลอด แต่หลังจากนั้นเขาพยายามข่มขู่เด็ก และมีขี่มอเตอร์ไซค์เฉี่ยวเด็ก แต่หลบได้ทัน น้องสาวของตนเองเห็น ก็ทะเลาะกัน วันนั้นจึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความ และเริ่มดำเนินคดี โดยหลังจากที่ตำรวจมาจับเขาไปก็ไม่ได้พบกันอีก

แม่ยังบอกอีกว่าอยากฝากสังคมทุกวันนี้ว่ามันน่ากลัว ยิ่งถ้าเรามีลูกแล้ว เราไม่มีเวลาที่จะดูลูก มันก็เป็นสิ่งที่จะมาทำร้ายเราได้ เพราะหนึ่งเวลาเราก็ไม่ได้มีให้ลูก มัวแต่ทำงานคนที่จะเป็นหูเป็นตาให้เราก็ไม่มี และสังคมสมัยนี้ยามันหาซื้อง่าย

ส่วนอาการของน้องตอนนี้ดีขึ้น 90% ทางผู้อำนวยการโรงเรียน ก็คือว่า เขาโตเมาว่าจะพาน้องกลับไป และอยากจะฝากว่า ท่านปวีณาได้ลงมาช่วยเรื่องนี้เราก็อุ่นใจ ท่านเป็นคนดีมากๆท่านปวีณาหงตระกูล มีอะไร เราพึ่งท่านได้ เพราะท่านดูแลเด็กและสตรีอยู่แล้ว ท่านก็บอกว่าท่านจะดูแลเรื่องนี้ให้เป็นอย่างดี

ด้านยายของน้องว่า น้องกลับมา 2 เดือน เพราะปิดเทอมใหญ่ กลับมาถึงอาการก็แปลก ๆ แต่ไม่รู้ว่าน้องเป็นอะไรมา อาการอาละวาด แล้วกระโดดน้ำคลอง ทำร้ายสิ่งที่ไม่เคย และเมื่อครูจะมาเยี่ยมบ้าน วันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พอครูมาเห็นก็ว่าอาการน้องแปลก ตีพัดลมตีห้องน้ำ ทำลายข้าวของขณะที่ครูมาเยี่ยม ครูก็ไม่กล้าเข้าใกล้ บอกว่าให้รักษาก่อนก่อนให้กลับโรงเรียน เมื่อพาไปโรงพยาบาล ก็มีอาการคลุ่มคลั่ง จนพยาบาลวิ่งออกมาบอกว่ามาส่งน้องด่วนเลย น้องมีสารยาบ้าบ้านเกินมาตรฐาน เลยไปที่สงขลาโดยนำลูกกุญแจมือมัดไว้ เพราะว่าน้องคลั่งมาก มีการหวีดร้อง ทางโรงพยาบาลยำปัสสาวะน้องไปตรวจ และฉีดยาให้สงบสติอารมณ์ ซึ่งหลังจากกลับมาหมอก็นัดเรื่อย ๆ แล้วก็ให้กินยาที่หมอให้มา แต่พอน้องกินไปประมาณ 20 นาที ก็เกิดอาการลิ้นจุกปาก ปากเบี้ยว เลยพากลับไปที่โรงพยาบาลจะนะ ทางโรงพยาบาลเลยบอกว่าให้หยุดที่กินยา ซึ่งอาการตอนนี้น้องดีขึ้น แต่ยังไม่หายเป็นปกติ และหลังจากที่ตำรวจมาจับเพื่อนบ้านก็ยังไม่ได้คุยกับเพื่อนบ้านเลย ซึ่งยายอยากฝากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าพ่อแม่ทุกคน ให้ดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าให้คนแบบนี้มาทำกับเยาวชน เพราะว่า เป็นสิ่งที่ไม่ดี อยากให้หน่วย ที่ดูแลเด็กและเยาวชนทุกหมู่บ้าน ช่วยกันดูแล