คนร้ายปลอมแอคเคาท์เป็นครูในแอพพิเคชั่นดังบังคับ ด.ญ. อายุ 12 ถ่ายภาพโป๊เปลือย อ้างขอตรวจร่างการกาย ก่อนนำภาพไปโพสลงโซเชียล
เพจเรื่องจริงนครนายก ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ปกครอง ของเด็กหญิงรายหนึ่งซึ่งเป็นลูกสาว วัย 12 ปี นักเรียน ชั้น ป.6 ถูกคนร้ายปลอมตัวเป็นคุณครูในโรงเรียน ใช้แอพพิเคชั่นไลน์คุย บังคับให้ถ่ายภาพโป๊เปลือย อ้างขอตรวจร่างกาย เด็กหลงเชื่อถ่ายส่งให้ ก่อนภาพดังกล่าวจะถูกแชร์ในสื่อโซเชี่ยล
โดยเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 66 มี ดญ.แอน (นามสมมุติ) เพื่อนของลูกสาวทักมาหา น้องบี (นามสมมุติ) ลูกสาว ว่าครูเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นครูผู้หญิงในโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอแก่งคอยจังหวัดสระบุรี จะขอคุยด้วย ให้แอดไลน์ไปหาครู ซึ่งตอนแรก ดญ.แอน ได้บอกครูไปว่าน้องบีไม่เล่นไลน์ แต่ครูเอก็ขู่น้องแอนว่าทำยังไงก็ได้ให้น้องบีแอดมา ไม่งั้นจะเดือดร้อนทั้งคู่ จน ดญ.แอนต้องมาบอกน้องบีให้แอดไลน์ ครูเอ โดยสอนให้น้องบีโหลดแอพพลิเคชั่นไลน์ จนสามารถ ทักไลน์ไปหาคนร้ายที่อ้างว่าเป็นครูเอ จนสำเร็จ ซึ่งรูปโปรไฟล์ไลน์ที่ได้ทักไปหานั้นเป็นรูปหน้าของครูเอ ซึ่งเป็นครูผู้หญิงในโรงเรียนจริง น้องบีจึงปักใจเชื่อว่าเป็นครูจริง ๆ เนื่องจากน้องบีก็ไม่เคยเล่นไลน์ และอายุเพียง 12 ปี ซึ่งไม่ทราบว่าจะมีคนร้ายปลอมเป็นครูได้ ต่อมาเมื่อได้พูดคุยกับคนร้าย ก็ได้บอกให้น้องบี รายงานตัว ชื่อ - นามสกุล อายุเท่าไหร่ มีแฟนหรือไม่ อยู่กับใคร นอนกับใคร ซึ่งลักษณะเหมือนเป็นการให้ยืนยันตัวตนว่า น้องบีคือเป้าหมายตัวจริง ที่ทางคนร้ายต้องการจะคุยด้วย
จากนั้นคนร้ายได้สั่งให้น้องบีถ่ายภาพเปลือยด้านบน แล้วส่งให้ดู โดยอ้างว่าเป็นการตรวจร่างกาย ถ้าไม่ยอมถ่ายให้ จะไล่ออกจากโรงเรียน เด็กเห็นว่าเป็นครูเป็นผู้หญิงเลยเกิดความกลัวจึงได้ถ่ายภาพเปลือยด้านบนส่งไปให้ จากนั้นคนร้ายก็เงียบหายไป เด็กก็ยังไม่รู้ตัวว่าถูกหลอก ผ่านไป 2 วัน วันที่ 6 ส.ค. 66 คนร้ายที่อ้างว่าเป็นครูเอนั้น ก็ได้ทักน้องบีอีกและบังคับให้ถ่ายรูปและส่งให้ครูอีก ขณะที่น้องบีกำลังจะถอดเสื้อเพื่อถ่ายรูป คุณแม่เดินเข้ามาเห็นพอดี จึงได้ห้ามไว้และมีการสอบถาม ถึงสาเหตุว่าทำไมคุณครูถึงต้องบังคับให้ลูกสาวของตนส่งภาพแบบนี้ไปให้ เพื่ออะไร จากนั้นแม่ได้ดูโทรศัพท์ของลูกสาวพบว่ามีข้อความการสนทนาทางไลน์ ในลักษณะข่มขู่สารพัด และยังมีคำพูดหยาบคาย นอกจากนี้ยังเห็นภาพของลูกสาวอยู่ในกลุ่มไลน์ที่ถูกแชร์ออกมาจากผู้ก่อเหตุ ด้วยความเป็นแม่รู้สึกสงสารลูก เพราะสภาพจิตใจของลูกบอบช้ำมาก เพราะถูกเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนล้อและดูถูกว่าเป็นเด็กขายบริการ ตนจึงนำหลักฐานต่าง ๆ เข้ามาพบผู้อำนวยการของโรงเรียนดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงคุณครูผู้หญิงคนนี้ว่ามีตัวตนจริงมั้ย ปรากฏว่ามีจริง จึงได้สอบถามครูเอว่าได้ทำสิ่งนี้หรือไม่ ครูเอบอกว่าไม่เคยทักไลน์ไปคุยกับน้องบีเลย แต่รูปที่ปรากฎหน้าโปรไฟล์เป็นรูปของตนเองจริง จึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.แก่งคอย สระบุรี
จากนั้นเรื่องกลับเงียบหายไป ไม่มีคืบหน้าอะไร จนลูกสาวไปโรงเรียนก็ต้องเจอกับเพื่อนและรุ่นพี่ล้อเรียนด้วยคำหยาบคาย จนลูกสาวไม่อยากไปโรงเรียนเพราะรับสภาพไม่ไหว นอกจากนั้นยังมีพี่สาวที่หน้าตาคล้ายกัน เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันก็ถูกผลกระทบไปด้วย เนื่องจากหน้าเหมือนกันมาก จนตนเองจึงตัดสินใจแจ้งขอความช่วยเหลือมายังเพจเรื่องจริงนครนายก และทางเพจได้ประสานไปยัง ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผผู้ดี ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี ว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะนี้สภาพจิตใจของน้องย่ำแย่มาก ดร.บุ๋ม จึงได้มีการโฟนอินเข้ามาพูดคุยกับผู้ปกครอง โดยให้กำลังใจและจะช่วยติดตามผู้ก่อเหตุดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้ โดย ดร.บุ๋ม ได้ประสานไปยัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติปภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำชับ เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ที่รับผิดชอบให้เร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาให้ได้ เบื้องต้นจนท.ตร. คาดว่ามีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 คน จากการที่เช็คข้อมูลพบว่าเป็นเด็กนักเรียนรุ่นพี่ ของน้องคนดังกล่าว แต่ทั้ง 7 คน ยังคงให้การปฎิเสธ ตอนนี้ จนท.ตร.ยังคงสืบหากลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่เนื่องจากกรณีนี้เป็นเด็กและเยาวชนการทำหน้าที่จึงต้องรัดกุม เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อเด็ก
