สว.สมชาย ชี้ ไม่จำเป็นต้องแก้ มาตรา 272 ขอให้เลิกเล่นเป็นเด็ก

4 ส.ค. 66

 

สว.สมชาย ชี้ ไม่จำเป็นต้องแก้ มาตรา 272 ลั่นไม่ใช่เรื่องสนุก ขอให้เลิกเล่นเป็นเด็ก ย้ำ ประเทศต้องมีนายกฯไม่ควรยื้อเวลา  

วันที่ 4 ส.ค. 66 ที่รัฐสภา นาย สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เปิดเผยถึงการยื่นแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ว่า ตนคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไข เพราะจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการแก้กฎหมาย หากวันที่ 16 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดว่าการเสนอชื่อนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นญัตติหรือไม่ และสมมติว่าศาลไม่รับ ก็สามารถเดินหน้าเลือกนายกรัฐมนตรีได้ต่อ 

แต่หาก มาตรา 272 สามารถแก้ผ่าน จะต้องมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญว่าสภาทำมิชอบ  เพราะกฎหมายมาตรานี้ทำประชามติมา ซึ่งก็ต้องหยุดการโหวตนายกฯ มิเช่นนั้น จะเกิดปัญหาเดียวกับที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องไปก่อนหน้านี้ 

นายสมชาย กล่าวว่า การยื่นแก้ไขกฎหมายนี้ เป็นการเล่นการเมืองที่ไม่ถูกต้อง ตนสนับสนุนให้มีการเลือกนายกฯให้เสร็จ หากเลือกเสร็จแล้ว กฎหมายนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว เพราะอีก 10 เดือนก็หมดอายุตามสภาพกฎหมายในวันที่ 11 พ.ค. 67 โดยส่วนตัวไม่มีปัญหาที่จะเข้าไปอธิบายหรือชี้แจง เพราะเป็นเรื่องธรรมดามา ที่ผ่านมามีความพยายามยื่นแก้ไขกฎหมายนี้มากว่า 6 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 ซึ่งมีแนวโน้มได้เสียง สว. ลดน้อยลงเรื่อยๆ 

นายสมชาย กล่าวต่อว่า กฎหมายนี้ไม่มีความจำเป็นต้องไปแก้ หรือยกเลิก เว้นแต่จะมีการแสร้งไม่เข้าใจ และเล่นแต่การเมือง เป็นปัญหาที่ทำให้คนไทยเบื่อการเมือง เพราะนักการเมืองเล่นการเมืองอยู่แบบนี้ หวังตีหัวเข้าบ้าน และไปด่า สว. รวมทั้งดิสเครดิต สว. เพื่อหวังผลระยะยาวให้มีสภาเดียว จึงเป็นการเล่นการเมืองที่ไม่ตรงไปตรงมา ยืนยันว่าถ้ากฎหมายนี้เข้ามาพิจารณาตนไม่เห็นด้วย จะไม่โหวตให้ผ่าน แต่ถ้าผ่านตนจะไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามหน้าที่ 

“การยื่นแก้ไขกฎหมายนี้ ไม่ใช่ของสนุกที่จะเล่นไปได้เรื่อยๆ เลิกเล่นเป็นเด็ก ซึ่งตอนนี้ สว. พร้อมเลือกนายกฯ แล้ว การเล่นเกมส์แบบนี้ไม่เหมาะสม โดยส่วนตัวมองว่าประธานสภาฯควรสั่งงดการประชุม เหมือนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินสั่งงด ซึ่งในวันนั้นก็มี 2 วาระ เช่นเดียวกับวันนี้” นายสมชาย กล่าว 

เมื่อถามว่า การประชุมรัฐสภาวันนี้ สว. เข้าร่วมประชุมน้อย นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ สว. แต่ สส. ก็ไม่เข้าร่วม ไม่แน่ใจว่าองค์ประชุมจะครบหรือไม่ ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณากฎหมาย ทำให้เปลืองเวลาสภา เปลืองงบประมาณ ไม่เข้าใจว่าจะประวิงเวลาไว้ทำไม เพื่อรอเวลา 10 เดือน ซึ่งตอนนี้ประเทศจำเป็นที่จะต้องมีนายกฯ แล้ว ที่ผ่านมา สว. ไม่เคยปฏิเสธที่จะเลือกนายกฯ เพียงแต่ต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ หากไม่พร้อมก็ต้องยอมรับ ซึ่งพิจารณาทั้งตัวบุคคล และนโยบาย หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหา สว. ก็ให้ความเห็นชอบอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมา “คุณไม่เคยสำรวจตัวคุณเองเลย เที่ยวโทษคนอื่นตลอดเวลา” 

ส่วนวาระการโหวตนายกฯ ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง มองอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า ถือเป็นปกติตามรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 88 และมาตรา 89 ได้กำหนดชัดอยู่แล้วว่าแต่ละพรรคส่งชื่อแคนดิเดตนายกฯ ได้ไม่เกิน 3 คน หากคนแรกไม่ได้ ก็ต้องให้ลำดับถัดไปในบัญชีแคนดิเดตมีตั้งหลายคน จะให้เราเลือกคนเดียวเหรอ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม