เทียบ 2 เมนูเด็ด "กาแฟส้ม" กับ "มินต์ช็อก" เลือกดื่มแก้วไหนดีกว่ากันระหว่างรสชาติขมอมเปรี้ยว หรือ หวานปนขม ที่คล้ายแต่ก็ต่างกัน
เช้าที่สดใสของวัยทำงานจะสดชื่นมากขึ้นถ้าได้เครื่องดื่มที่ถูกใจสักแก้ว แต่จะเป็นกาแฟที่มีคาเฟอีนรสขมให้ตื่นตัวกะปรี้กะเปร่า หรือ จะเป็นช็อกโกแลตรสหวานอมขมนิดๆ ให้มีพลังงานพร้อมลุย อย่าง 2 เมนูที่กำลังฮิตอยู่ในตอนนี้คือ กาแฟส้ม กับ มินต์ช็อก แต่ก่อนที่จะไปเลือกดื่มมาทำความรู้จักที่มาที่ไปของทั้ง 2 เมนูเครื่องดื่มต่างรสชาตินี้ก่อนดีกว่าว่า รสชาติไหนจะเหมาะกับคุณ
ถือกำเนิด กาแฟส้ม เมนูฮิตจากแอปฯดัง
TikTok แพลตฟอร์มน้องใหม่ ที่สร้างกระแสมากมายบนโลกออนไลน์ และเป็นที่ให้กำเนิด "กาแฟส้ม" หลังจากที่กลุ่มผู้ใช้ระดับซุปตาร์และคนดัง นำ เอสเพรสโซ่มาผสมกับ น้ำส้ม ทั้งแบบคั้นสด หรือที่ผลิตขายตามร้านต่างๆ จนทำให้กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว จนเกิดเป็นกระแส "ค๊อฟเทล" (Cofftail) หรือการนำกาแฟมาผสมกับน้ำผลไม้ให้ได้รสชาติที่แปลกใหม่
กาแฟส้ม กลายเป็นที่ฮอตฮิตใน TikTok ถึงขั้นที่เว็บไซต์อาหารชั้นนำระดับโลกยังได้เขียนถึงเครื่องดื่มนี้ว่า นี่คือ...เครื่องดื่มกาแฟสุดฮิต "ตัวใหม่" ล่าสุดของโลกโซเชียลมีเดีย เช่นเดียวกับ ดัลโกน่า ค๊อฟฟี่ (Dalgona coffee) กาแฟครีมสไตล์เกาหลีที่เคยติดเทรนด์ฮิตมาก่อนในปี 2020 แถมยังมีคอมเมนต์จากชาวเน็ตว่า เมนูนี้น้ำส้มกับกาแฟเมื่อเอามาผสมกันมีรสชาติดีอย่างไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ตาม มีความคิดเห็นจากบลอกเกอร์ที่ออกมาบอกว่า "กาแฟส้ม" ไม่ใช่เมนูใหม่ แต่มีมานานแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 เป็นเทรนด์ในปี 2014 ต่างหาก จนเจ้าของงานเขียนต้องออกมาบอกว่าเขาไม่ได้หมายความว่า "กาแฟส้ม" เป็นเมนูใหม่ เพียงจะสื่อว่า มันเป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มนี้เท่านั้น
ประโยชน์ของ กาแฟส้ม
เครื่องดื่มคาเฟอีนรสขมอมเปรี้ยว เกิดจากการผสมผสานสองสิ่งที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่นกะปรี้กะเปร่าอย่าง กาแฟ กับ น้ำส้ม ไม่เพียงแค่ช่วยให้รู้สึกตื่นตัว
น้ำส้ม มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมาย ที่ช่วยชะลอวัย สร้างคอลลาเจน บำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก เพราะส้มมีวิตามินซี ป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยในการขับถ่าย เพราะส้มมีกากใยสูง
กาแฟ ช่วยกระตุ้นร่างกายให้รู้สึกตื่นตัวเนื่องจากมีคาเฟอีน ช่วยในการเผาผลาญอาหาร สลายไขมันได้ กระตุ้นการทำงานของเมตาโบลิซึม ช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ มะเร็งในช่องปาก ฯลฯ ลดอาการปวดหัว และไมเกรนช่วยขยายหลอดเลือด แต่ควรรับประทานกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ
กาแฟส้มดื่มมากไปก็เสี่ยง!
เนื่องจาก กาแฟส้ม มีความหวานจากน้ำตาลในน้ำสม หากดื่มมากเกินไป หรือเติมความหวานจนเกินเหตุจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในผู้ที่เป็นเบาหวานหรือผู้ที่มีไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง จึงไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 แก้ว ในปริมาณความหวานที่พอเหมาะ
นอกจากนี้ กาแฟ มีคาเฟอีนที่ผลต่อการนอน ดังนั้นหากจะดื่ม กาแฟส้ม ให้เว้นห่างจากเวลานอนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกาแฟส้ม
กาแฟส้มทำลายเคลือบฟันมากกว่าปกติ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ทั้งกาแฟและน้ำส้ม มีความเป็นกรดอ่อน ๆ เหมือนกัน ซึ่งสามารถทำลายเคลือบฟันอย่างช้า ๆ ได้เท่า ๆ กัน การดื่มกาแฟหรือน้ำส้มมากเกินไปก็อาจทำลายเคลือบฟันได้ โดยเฉพาะถ้าแปรงฟันทันทีหลังดื่มกาแฟหรือน้ำส้ม แต่การดื่มกาแฟส้มไม่ได้มีผลว่ามันจะทำลายเคลือบฟันมากกว่าปกติ ดังนั้นดื่มได้
กาแฟส้มทำให้ปวดท้อง ไม่เป็นความจริง แต่ในทางกลับกัน หากปวดท้องหลังจากดื่มกาแฟส้ม คุณอาจต้องการเปลี่ยนไปดื่มยี่ห้อที่มีกรดต่ำ หรือไม่ก็หาอะไรรองท้องก่อนที่จะดื่มกาแฟส้ม
ทำความรู้จักช็อกมินต์ หรือ ช็อกโกแลตมินต์
ยาสีฟัน! สิ่งแรกที่แว๊บเข้ามาในหัวหลังลิ้มรสชาติของ มินต์ช็อก แต่รู้หรีอไม่ว่าเมนูที่ถูกบูลลี่นี้ถือกำเนิดขึ้นมาก่อน ยาสีฟัน สะอีก ย้อนกลับไปในยุคของ อารยธรรมโบราณของชาวแอซเท็กและมายัน ที่ได้นำใบมินต์มาผสมกับเครื่องดื่มโกโก้ให้มีรสชาติสดชื่น จนกระทั่งในศตวรรษที่ 18 ก็ได้ถือกำเนิด มินต์ช็อก ในรูปแบบของช็อกโกแลตบาร์ขึ้นมาและทำให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น
ประโยชน์ของ มินต์ช็อก
ชาวกรีกและชาวจีนโบราณใช้ประโยชน์จากมินท์มานานกว่าสองพันปี แน่นอนว่า มินต์ มีคุณสมบัติที่ทำให้รู้สึกสดชื่น ช่วยบรรเทาอาการเกี่ยวกับทางเดินอาหารเช่น ช่วยขับลมแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ลดอาการระคายคอ และลดผื่นคัน นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย คลายเครียดได้
ส่วนช็อกโกแลตนั้น มีสารต้านอนุมูลอิสระส่งผลดีต่อสุขภาพของหัวใจ ช่วยในเรื่องการไหลเวียนของโลหิต ป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน คาเฟอีนในช็อกโกแลตช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งคาร์โบไฮเดรตไขมัน วิตามินเอ ดี เค และธาตุเหล็ก
ดื่มมินต์ช็อกต้องระวังอะไร
สำหรับเมนู มินต์ช็อก มีส่วนประกอบหลักคือ ไซรัปมินต์ นมข้นหวาน ผงโกโก้ นมสด นมข้นจืด ซึ่งสิ่งที่ควรระวังเนื่องจากมีน้ำตาลสูงถึง 12 ช้อนชา และมีไขมันอิ่มตัวจากนมสด และนมข้นจืด พลังงานต่อแก้วจะเทียบเท่ากับการกินข้าว 3 ทัพพี หรือ 240 กิโลแคลอรี
หากกินบ่อย ๆ ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ทั้งจากเครื่องดื่ม และคาร์โบไฮเดรตที่ดูดซึมได้ง่ายจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงเร็วก่อนถึงมื้อหลัก เนื่องจากอินซูลินจะหลั่งออกมามากเพื่อจัดการน้ำตาลที่เพิ่มสูงเร็ว ทำให้กินจุบจิบก่อนมื้ออาหารหลัก
สำหรับผู้ที่เป็น “โรคเบาหวาน” หากดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว การกินน้ำตาลที่มากเกินไปเสี่ยงต่อการเกิดไขมันพอกตับ ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง และไขมันอิ่มตัวที่อยู่ในนมสดและนมข้นจืดอาจส่งผลให้ระดับไขมัน LDL เพิ่มสูงขึ้นได้ ซึ่งไขมันในเลือดที่สูงนี้ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเป็นกรดไหลย้อน การกินมินต์ในปริมาณมาก อาจจะทำให้ไปส่งเสริมให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้
ดังนั้น ผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน ควรสังเกตอาการตนเองเมื่อกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีมินต์เป็นส่วนประกอบ หากพบว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้กระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อน ควรที่จะหลีกเลี่ยง
มินต์ กับ สาระแหน่ ต้องบอกเลยว่า ถึงจะมีความคล้าย แต่ก็ไม่ใช่ต้นเดียวกันนะ เพราะว่าพืชสองชนิดนี้เพียงแค่อยู่ในวงเดียวกัน แต่อยู่คนละสกุล โดย “มินต์” เป็นพืชในสกุล “Mentha” ส่วน “สะระแหน่” อยู่ในสกุล “Melissa” นั่นเอง
เครื่องดื่ม กาแฟส้ม - มินต์ช็อก กับการเมืองไทย
เลือกไม่ถูกเลยว่าต้องดื่มเมนูไหนดีระหว่าง กาแฟส้ม กับ มินต์ช็อก สองเมนูฮิตที่ถูกปลุกกระแสจากคนดังทางการเมืองอย่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กับ แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ที่ได้นำทั้งสองเครื่องดื่มมาเป็นซิกเนเจอร์เมื่อใครมาเยือนก็ต้องได้ลองชิมสักครั้ง แต่ถ้าหากคุณเป็นคอคาเฟอีนอยู่แล้ว หรือเป็นสายหวานขมสดชื่น ก็คงจะเลือกดื่มได้ไม่ยากเลย
