"ชาติพัฒนากล้า" พร้อมจับมือ "เพื่อไทย" ประกาศจุดยืนชัดเจน

22 ก.ค. 66

"สุวัจน์" พรรคชาติพัฒนากล้า ยื่น 4 เงื่อนไขหนุน "พรรคเพื่อไทย" ตั้งรัฐบาล พร้อมประกาศจุดยืนถึง "พรรคก้าวไกล"

22 ก.ค.2566 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย,นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค,นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ,นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รักษาการหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า,นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้าและแกนนำพรรคร่วมกันแถลงข่าว ภายหลังการหารือแลกเเปลี่ยนความเห็น เพื่อหาแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล ตามมติ 8 พรรคร่วม ที่มอบภารกิจให้พรรคเพื่อไทยหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติม

ชาติพัฒนากล้า
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้รับมอบหมายภารกิจจากพรรคก้าวไกล ในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และนำแนวทางจาก 8 พรรคร่วม ที่ได้มีมติไว้ในการแสวงหาเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า ขอบคุณพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ 8 พรรคร่วม ที่ให้เกียรติเชิญพรรคชาติพัฒนากล้า มาปรึกษาหารือในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก่อนมาหารือกับพรรคเพื่อไทยนั้น พรรคชาติพัฒนากล้า ได้ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดท่าทีในการเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยได้มีมติว่า ยินดีที่จะให้การสนับสนุน ในการจัดตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดสูญญากาศการบริหารบ้านเมือง เพราะขณะนี้มีวิกฤตเกิดขึ้นหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่พี่น้องประชาชนรอการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ชาติพัฒนากล้า

นายสุวัจน์ กล่าวต่ออีกว่า พรรคชาติพัฒนากล้า มีจุดยืนและแนวนโยบายในทางการเมือง 4 เรื่อง ที่ได้ประกาศต่อพี่น้องประชาชนไปในการหาเสียง และได้มีมติพรรครับรองอันเป็นเงื่อนไขที่สำคัญในการเข้าร่วมรัฐบาล คือ

1.จะสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมาก และไม่ส่งเสริมให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพลุล่วง

2.เรามีแนวทางสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้เสียงอันดับ 1 ในการริเริ่มจัดตั้งรัฐบาล หากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เป็นหน้าที่ของพรรคลำดับรองลงมา เพื่อให้เป็นไปตามเสียงของพี่น้องประชาชน

3. เราอยากให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาวิกฤตต่างๆ เพราะที่ขณะนี้พี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาสินค้าราคาแพง และ

4. พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนและแนวทางที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 และเราได้ประกาศไว้ในเวทีสาธารณะต่างๆ ว่าเราขอคงไว้และไม่มีการแก้ไขแต่อย่างใด

ชาติพัฒนากล้า

“พรรคชาติพัฒนากล้า มีจุดยืนในการรักษาแนวนโยบาย และคำมั่นสัญญาที่พรรคการเมืองให้ไว้กับประชาชน เพื่อเป็นบรรทัดฐานว่าพรรคการเมืองพูดอะไรไว้ก็ทำในสิ่งนั้น หลังการประชุมรัฐสภาไปแล้ว 2 ครั้ง ก็ไม่สามารถนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลได้ แล้วได้เปลี่ยนพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

ดังนั้นภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย เราก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถนำไปสู่การบริหารประเทศ เว้นแต่เรื่อง การแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งพรรคก้าวไกลที่มีแนวนโยบายในการแก้ไข ซึ่งไม่ตรงกับแนวนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ดังนั้นเราจึงพร้อมเข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

สำหรับนโยบายการแก้ไข มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ถ้ายังคงอยู่ก็อาจจะไม่สอดคล้องกับแนวทางของพรรคชาติพัฒนากล้า ก็อาจไม่สามารถเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะไม่ตรงตามมติพรรคและไม่ตรงกับคำมั่นสัญญาที่ได้ประกาศไว้กับพี่น้องประชาชน” 

ชาติพัฒนากล้า

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม