พ่อป่วยติดเตียงตายตอนเช้า ลูกชายเครียดผูกคอลาโลกตาม ญาติเครียดศาลาวัดไม่ว่างให้ทำพิธี

18 ก.ค. 66

พ่อวัย 96 ป่วยติดเตียงแล้วตายตอนเช้า ลูกชายวัย 70 เครียดผูกคอตายตามตอนเย็น ขณะวัดใกล้บ้านศาลาไม่ว่าง ติดงานรอจัดงานศพ ต้องย้ายมาตั้งโลงทำพิธีที่บ้าน

เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 17 กรกฎาคม 2566 ร.ต.อ.เลิศศักดิ์ รัตนพิทักษ์ ร้อยเวร สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนผูกคอตายที่บ้านสวนใน ม.9 ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด แต่ศพญาติได้นำมาส่งโรงพยาบาลตราดแล้ว หลังรับแจ้งจึงเดินทางมาตรวจศพที่โรงพยาบาล หลังตรวจศพที่ห้องฉุกเฉินเสร็จแล้วจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่บ้านเกิดเหตุ ทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายประวัติ เรืองศิลป์ อายุ 70 ปี

1689637390865

ต่อมา ร.ต.อ.เลิศศักดิ์ รัตนพิทักษ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่านายประวัติผูกคอเสียชีวิตใต้ต้นทุเรียนหลังบ้านในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืน จากการสอบถามญาติของนายประวัติผู้เสียชีวิตทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายทวี เรืองศิลป์ อายุ 96 ปี บิดาของนายประวัติเสียชีวิตที่โรงพยาบาลตราดเมื่อช่วงเช้าจากการป่วยติดเตียงมานานถึง 2 ปี ซึ่งญาติๆ เตรียมนำศพของนายทวีมาจัดงานบำเพ็ญกุศลศพที่ศาลาการเปรียญวัดสวนในช่วงบ่าย แต่ไม่สามารถนำศพมาจัดงานบำเพ็ญกุศลศพได้ เพราะทางจังหวัดตราดโดยนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผวจ.ตราด จะจัดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ให้บริการประชาชน และต้องใช้ศาลาการเปรียญของวัดสวนในการจัดโครงการดังกล่าว ขณะเดียวกันก็มีศพรอคิวจัดงานศพอยู่ล่วงหน้าแล้ว 1 ราย ญาติๆ จึงมาร่วมพูดคุยปรึกษาหารือกันเรื่องสถานที่จัดงานศพให้นายทวี เรืองศิลป์ ผู้เป็นบิดาแต่ยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดได้ว่าจะนำศพนายทวีมาจัดพิธีที่วัดสวนในหรือไปจัดที่บ้านแทน

1689637462580

หลังจากนั้นนายประวัติซึ่งเป็นพี่ชายคนโตก็กลับไปบ้านหายเงียบไป หลานๆ จึงออกตามหาและพบว่านายประวัติผูกคอตัวเองจึงได้ช่วยกันนำร่างนายประวัติส่งโรงพยาบาลตราดให้แพทย์ช่วยรักษาแต่ไม่ทัน นายประวัติเสียชีวิตในที่สุด นายประสาร เรืองศิลป์ น้องชายคนรองจากนายประวัติเล่าให้ฟังว่า นายประวัติเป็นคนมีโรคประจำตัวคือ ตับแข็ง เจ็บป่วยบ่อยประกอบกับบิดาคือนายทวีเสียชีวิตในช่วงเช้า คาดว่านายประวัติอาจจะเครียดทั้งปัญหาสุขภาพตนเองและปัญหาสถานที่จัดงานศพให้บิดา และเสียใจกับการเสียชีวิตของบิดาจึงตัดสินใจผูกคอตายตามบิดาในที่สุด นายประสารบอกว่าตอนพูดคุยปรึกษาเรื่องการจัดงานศพให้บิดา นายประวัติยังมีอาการปกติ ไม่คิดว่าจะกลับมาผูกคอยตาย ส่วนศพทั้งบิดาและพี่ชายจะนำไปจัดพิธีที่บ้านเพื่อแก้ปัญหาศาลาการเปรียญของวัดไม่ว่าง อีกอย่างจะได้นำทั้งศพบิดาและพี่ชายตั้งไว้คู่กันและจะตั้งสวดพระอภิธรรม 5 คืนด้วยกัน ก่อนทำพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 23 ก.ค.นี้ต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส