"เอ้ ชุติมา" VS "แม่ฟร้อง ศุภกิจ" ผลัดกันแฉสะบัด หลุดปมเลิกเพราะหมดตัว ฟาดไม่ยั้งอย่าตXแหX

3 ก.ค. 66

มหากาพย์ฉะกันนัวกลางรายการ สำหรับคู่ "เอ้ ชุติมา" และอดีตแฟนหนุ่มที่อายุห่างกัน 31 ปี "ฟร้อง ศุภกิจ" ที่มาพร้อมคุณแม่ พร้อมฟาดไม่ยั้ง เชื่อลูกกลั้นแกล้งให่เสียเครดิต อีกฝั่งถาม ใครกันแน่ต้องขอความยุติธรรม

จากกรณี "ฟร้อง ศุภกิจ" เข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อเพจสายไหมต้องรอด เผยถึงอดีตแฟน "เอ้ ชุติมา" ไม่ยอมผ่อนบ้าน-ผ่อนรถ จนฟร้องต้องติดแบล็กลิสต์เสียเครดิตบูโร เชื่อถูกกลั่นแกล้ง 

ล่าสุดวันนี้ 3 ก.ค. 2566 "เอ้ ชุติมา" มาเคลียร์ประเด็นดราม่าในรายการโหนกระแส พร้อมด้วยทนาย และอดีตแฟนหนุ่ม "ฟร้อง ศุภกิจ" ที่มาพร้อมคุณแม่และทนายความ โดยเล่าจุดเริ่มต้นประเด็นดราม่า แต่บทสรุปของดราม่าอยู่ตอนไหน ไปฟังกันคำต่อคำ !

เอ้ ชุติมา : "ตอนคบกันก็อยากให้น้องมีทุกอย่าง น้องอายุน้อยกว่าด้วย เวลาที่ผ่อนจะได้ถูกลง แล้วเราตกลงใช้ชีวิตด้วยกัน เราก็อยากให้น้องมีสมบัติเป็นของตัวเอง"

ฟร้อง ศุภกิจ : "ฟร้องมีรถมาสด้าที่แม่ซื้อให้ ตอนนั้นก็ถามพี่เอ้ว่าเอารถไหม รถยุโรปคันใหม่ จะได้ขับไปเวลาไปถายรายการ ไปกองถ่าย จะได้ดูดีหน่อย ฟร้องก็บอกตลอดว่าฟร้องไม่เอานะรอ่ะ เพราะมีบ้านมีรถอยู่แล้ว สมบัตินี่ไม่เอาอยู่แล้ว แค่ใช้เป็นชื่อฟร้องเท่านั้น ฟร้องบอกพี่เอ้ตลอด ถ้าเลิกกันฟร้องยิมยอมให้เปลี่ยนชื่อเป็นพี่เอ้ได้เลย เป็นรถ BMW ผ่อนเดือนละ 2 หมื่นกว่าบาท"

หนุ่ม กรรชัย : สรุปคุณเอ้มีค่าใช้จ่ายผ่อนบ้านและรถประมาณเดือนละ 4 หมื่นบาท

เอ้ ชุติมา : "ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ ส่งเรียนด้วย ส่งมา 6 ปี ตอนนี้ยังเรียนไม่จ เอ้เป็นคนพูดตรงมาก การที่เอ้อยู่วงการมาได้เกือบ 40 ปี เอ้ไม่เคยโกหกใครค่ะ แล้วนักข่าวเขาดูอยู่เขารู้ค่ะ คนดูทีวีทั้งบ้านท้ังเมืองไทยเขาก็ต้องรู้ค่ะ เอ้ส่งน้องเรียนค่ะ เราให้อนาคตน้อง คือความรักกันเราไม่อยากให้มาสาดใส่กันนะคะ มันเป็นเรื่องของคนสองคน ตอนรักกันอะไรก็ดูดีหมด ตอนจบเราอยากจบให้มันดี แต่ในเมื่อน้องเขาขึ้นมาฟ้องร้องขอความเป็นธรรม วันนี้เอ้ก็มาขอความเป็นธรรมคืนค่ะ"

หนุ่ม กรรชัย : "ทั้งรถ และบ้านเป็นชื่อของคุณ เลิกกันมันเกิดอะไรขึ้น ?"

ฟร้อง ศุภกิจ : "พี่เอ้เอารถไปแต่ไม่ยอมผ่อน ส่วนบ้าน หลังเลิกกันพี่เอ้ก็ยังอยู่3-4 เดือน แต่ไม่ผ่อน ก็เลยถามว่าจะเอาไหม เขาบอกไม่เอา เลยบอกงั้นให้พี่ออกไปเลยดีกว่า จะได้คืนแบงก์ไป เพราะฟร้องเสียเครดิต"

เอ้ ชุติมา : "เอาความจริง (ยิ้ม) เอ้อยู่ในบ้านนั้น เอ้เป็นคนผ่อนบ้าน ดาวน์บ้านทุกอย่าง แล้วเอ้เป็นคนออกจากบ้านหลังนี้เพราะทนพฤติกรรมเขาไม่ไหว เอ้เลยขอเลิกแล้วออกจากบ้านเลย 3 เดือน เอ้ไม่ได้กลับไปบ้านหลังนั้นเลย ให้เขาอยู่ในบ้านหลังนั้นที่เราซื้อด้วยกันแต่เป็นเงินเอ้นะคะ เอ้ออกมา แต่ให้น้องยังอยู่บ้านหลังนั้น แต่เอ้ยังเป็นคนจ่ายค่าน้ำค่าไฟ"

ด้าน "แม่ฟร้อง" พูดขึ้นมาว่า "ผิดแล้วค่ะคุณ คุณเป็นคนเขียนมาวันนั้นเอง ช่วยกรุณาเอาลูกกลับบ้านด้วย ฉันไม่เอาแล้ว แล้วคุณจะมาพูดได้ยังไงว่าฟร้องอยู่บ้านนั้น 3 เดือน คุณไล่วันนั้นเลยจ้า"

เอ้ ชุติมา : "ไม่ได้ไล่ค่ะ"
แม่ฟร้อง : "อย่า คุณอย่าสตอเอ้ จริงๆ คุณสตอนะเนี้ย"
เอ้ ชุติมา : "เอ้พูดว่า น้องอยู่ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ทุกวันอยู่ตลอดไหม เพราะเอ้ไม่ได้เข้าไปดู แต่เอ้ยังคงจ่ายค่าน้ำค่าไฟ"
แม่ฟร้อง : (ปรบมือ พร้อมยกนิ้ว) "เยี่ยม เขานักแสดง เขาทำได้ทุกอย่าง"
เอ้ ชุติมา : "คือบางอย่างชีวิตจริงก็ไม่ใช่ละครนะคะ ไม่จำเป็นต้องแสดงตลอด มันคือความจริงค่ะ"

ฟร้อง ศุภกิจ : "ฟร้องแค่อยากถามว่าทำไมแกล้งฟร้อง ทำไมไม่ยอมผ่อน แต่เอารถไป ฟร้องก็เสีย แค่นั้นเลยที่ฟร้องมาคือ ทำไมไม่ยอม นั่นแหละ"

ด้าน "เอ้" เล่าต่อว่า "เอ้กลับไปบ้าน ไม่เอาบ้าน และบอกไม่ผ่อนต่อแล้ว เอ้ขอเวลา 60 วัน คนเราจะออกจากบ้านอ่ะค่ะ มันต้องใช้เวลาในการหาบ้านใหม่ ในการย้ายของ แล้วช่วงนั้นเอ้เล่นละครด้วย มีงานเยอะ ไม่มีเวลามานั่งเก็บของ มันไม่มีเวลาจริงๆ ค่ะ เลยขอเวลาเขา ทางนี้ก็บอกว่าให้เวลาแค่ 30 วัน ต้องย้ายออกให้หมด วันดีคืนดี คุณเขาก็งัดบ้านเข้ามาเพื่อจะตรวจสิ่งของ ซึ่งเราอยู่กับลูกสาวบุญธรรม 2 คน เราก็จะผวามากว่าทำไมเข้ามาได้ เขาบอกคุณต้องย้ายภายใน 30 วัน แล้วของที่ย้ายได้คือแค่เสื้อผ้าเอ้เท่านั้น"

ถามว่าจริงไหม คุณแม่ฟร้อง บอก "จริงค่ะ แม่เป็นคนบอกเอง เพราะว่าเขาไม่ผ่อนเลย ตอนเลิกกันเขาผ่อนต่ออีกแค่เดือนเดียว นอกนั้น 3- 4 เดือนเขาไม่ผ่อ่นเลย เราก็คิดว่า ถ้าคุณอยู่บนความทุกข์ของลูกเราคุณจะอยู่เพื่ออะไร จัดการให้แบงก์ยึดบ้านไปเลย เราอยากจบ"

ทนายฝั่งเอ้ กล่าวว่า "ทรัพย์สินตรงนี้มันเป็นอสังหาริมทรัพย์ มันสามารถเคลื่อนทีได้ บ้านที่ถูกยึดเขายึดแค่ตัวบ้านกับที่ดินครับ พวกทีวีตู้เย็นเขาไม่ได้ยึด และมันเป็นทรัพย์สินที่เขาซื้อมา มันเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณเอ้อยู่แล้ว"

งานนี้ คุณแม่ฟร้อง เผยว่า "ทีแรกเราคิดว่า ฟร้องเสียหายทุกอย่างเลย แล้วคุณเอ้จะมาเอาไปได้ยังไง เราจะให้บ้านโดนยึดไปเลย"

สรุปบ้านยึดไปแล้ว แต่เรื่องรถยังเป็นประเด็นเพราะ "ฟร้อง" ไปร้องเรียนว่า "เอ้" เอารถไปซ่อนแล้วไม่ผ่อน

เอ้ ชุติมา : "เรื่องรถที่มีปัญหา เอ้ ขับรถไม่เป็น เขารู้อยู่แล้ว จริงๆ รถไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเอ้เลยนะคะเพราะเอ้ขับรถไม่เป็น แล้วรถคันนี้เป็นรถที่ฟร้องอยากได้"

ฟร้อง ศุภกิจ : "ก็ถามพี่เอ้ตลอดนะว่าถ้าเอามาจะผ่อนไหวไหม ฟร้องก็เป็นห่วง"

เอ้ ชุติมา : "ถามว่าทำไมไม่คืนรถเขาไป จริงๆ รถไม่อยากได้ เพราะขับรถไม่ได้ คนที่บอกว่า กลัวเอารถไปชำแหละ หรือจำนำ มันก็ทำไม่ได้เพราะเป็นชื่อเขา คนที่จะรับจำนำก็เหมือนรับของโจร"

ทนายฝั่งเอ้ : "การคืนรถมันมีระยะเวลา ที่ถามว่าทำไมนานจัง ทำไมไม่คืนสักที มันมีช่วงระยะเวลาที่คุณเอ้ต้องหาที่อยู่ใหม่ก่อน เรื่องรถสำคัญไหม ก็สำคัญ แต่มันเป็นเรื่องรอง ฉะนั้นไม่ได้อยากได้ตั้งแต่แรก ประกอบกับเอาไปทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นชื่อคุณฟร้องนะครับ ทะเบียนรถที่หายไปก็ไปขอใหม่ไม่ได้นะครับ ตอนนี้รถอยู่ที่ สภ.คลองหลวง ส่งมอบเมื่อวานครับ"

ทนายฝั่งฟร้อง : "แต่ไม่ได้คืนรถตั้งแต่แรก สงสัยว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันหรือเปล่าเพราะทำให้ฟร้องเสียเครดิตไปแล้ว"

เอ้ ชุติมา : "ฟังพร้อมกันทั้งประเทศไทยนะคะ รถตั้งแต่เอ้ดาวน์มาแล้วผ่อน รถเป็นชื่อเขา เขาสามารถรีไฟแนนซ์ คุณทนายอาจไม่ทราบข้อเท็จจริงนะคะ เขารีไฟแนนซ์กลับเอาเงินไว้ที่เขาตลอด เอ้ถามคำเดียวเมื่อไหร่เอ้จะผ่อนจบ"

เอ้ ชุติมา : "รีไปแนนซ์ได้เงินกลับมา 4 แสน"
ฟร้อง ศุภกิจ : "ตอนนั้นเราอยู่ด้วยกัน"
เอ้ ชุติมา : "แต่คุณเอาเงินไว้ที่คุณ"
ฟร้อง ศุภกิจ : "แล้วพี่เอ้ต้องจ่ายเหรอ ฟร้องต้องจ่ายสิเพราะรถเป็นชื่อฟร้อง ฟร้องต้องจ่ายที่แบงก์"

เอ้ ชุติมา : "เอ้ไม่ได้ให้เงินฟร้องแค่ตอนฟร้องรีไฟแนนซ์นะคะ ทุกอย่างไม่ว่าจะทำงานมาได้เท่าไร ฟร้องเอาความเป็นจริงให้ประชาชนฟังค่ะ เอ้มีสลิปหมดค่ะ เงินโอนเขาบัญชีคุณหมด ตัวเองแทบจะไม่มีเงินติดตัวเลย"

ฟร้อง ศุภกิจ : "เงินอยู่ที่บัญชีฟร้อง แต่ฟร้องต้องจ่ายภาระของพี่เอ้"
เอ้ ชุติมา : "ค่ะ แต่ภาระมันเดือนละ4-6หมื่น ไม่ได้หลายบาทขนาดนั้น"
ฟร้อง ศุภกิจ : "ค่าที่พี่เอ้ติดนู้นนี่นั้น"
เอ้ ชุติมา : "แล้วทำไมคุณไม่เล่าล่ะคะว่าเงินที่เหลือ ที่อยู่ที่แบงก์คุณ คุณเอาไปทำอะไร เปิดหลักฐานเลยค่ะให้ดูว่าเขาเอาไปทำอะไร โดยที่เอ้ไม่รู้ตัวนะคะ คุณฟร้องรู้อยู่แล้วนี่คะ"

จากนั้นเป็นการเปิดหลักฐานสลิปโอนเงิน ที่ฟร้องโอนไป 1 หมื่นบาท , 3 หมื่นบาท, 5 หมื่นบาท, 1 แสนบาท และ 250,000 บาท พร้อมเขียนโน้ตว่า ปั่นบาคาร่า

เอ้ ชุติมา

ซึ่ง "ฟร้อง" บอกว่า "อันนั้นผมโดนโกง" ด้านคุณแม่พูดเสริมว่า "อันนี้แม่ว่าฟร้องทำคนเดียวไม่ได้ ลูกเราไม่เคยเล่นการพนัน ส่วนตัวเขาเล่นทั้งหวยทั้งอะไร เล่นทีเท่าไร" ซึ่งฟร้องบอกย้ำอีกว่า ตนโดนโกง ตอนช่วงโควิดมีคนทักมาหา ในขณะที่เผยต่อว่าเอ้เล่นหวยออนไลน์หลายเจ้า มีที่ออกทุก 15 นาทีด้วย

เอ้ ชุติมา : "เขารู้มากกว่าเรา เรายังไม่รู้เรื่องเลย เอาเป็นว่า หวยเล่นเพราะอะไร คุณแม่เขาเป็นคนรับแล้วส่งเจ้าใหญ่ เขาได้ 10 % เราเป็นลูกสะใภ้ต้องการหายอดช่วยเขาหารายได้ จากใจเลยค่ะ"

แม่ฟร้อง : "โธ่ คุณเอ้ (หัวเราะ) คุณอย่าเลย คุณเล่นหลายเจ้า งวดหนึ่งอ่ะค่ะ เราต้องเป็นคนนั่งจ่ายให้คุณทุกงวด ก้อนสุดท้ายเท่าไร แสนห้า"

แม่ฟร้อง

เอ้ ชุติมา : "ยังติดหนี้คุณอยู่เหรอคะ"
แม่ฟร้อง : "ไม่ได้ติดไง แต่พูดให้ฟัง ถ้าคุณวกกลับมาทางนี้"
เอ้ ชุติมา : "ลูกคุณนะคะ เอาเงินดิฉันไปหมด แล้วปั่นบาคาร่าเสียไป 840,000 บาท"
แม่ฟร้อง : "คุณเล่นหวยหมดไปเท่าไร ให้ลูกเราโอนไปจ่ายทุกที"
เอ้ ชุติมา : "ลูกคุณมีรายได้จากทางไหนคะ ถึงมาจ่ายให้"
แม่ฟร้อง : "คุณจ้างลูกเราเป็นผู้จัดการไม่ใช่เหรอ"
เอ้ ชุติมา : "จ้างเป็นผู้จัดการ ? ดิฉันมีผู้จัดการส่วนตัวค่ะ"

ด้าน "หนุ่ม กรรชัย" ได้ถามว่า ที่เลิกกันเพราะอะไร ? 
ซึ่ง "คุณแม่" ตอบทันทีว่า "เขาไม่มีตังค์ไง หมดตัวอ่ะ" งานนี้ "เอ้" สวนกลับว่า "อ๋อ พอไม่มีเงินก็หมดความหมายอย่างนั้นเหรอคะ" ขณะที่คุณแม่เงียบ "ฟร้อง" จึงกล่าวเสริมต่อว่า "ผมก็ยังงงว่า ผมผิดอะไรพี่เอ้จึงออกจากบ้านไปแล้วทิ้งภาระไว้ที่ผม"

ต่อมา "หนุ่ม กรรชัย" ถามต่อว่า รถคืนช้าเพราะตั้งใจกลั่นแกล้งเขาหรือเปล่า ?
เอ้ ชุติมา เผยว่า "ไม่ได้ตั้งใจกลั่นแกล้งเลยค่ะ เพราะทั้งชีวิตเรามีแต่ให้กับให้ค่ะ เอ้ไปต่อประกันรถให้ด้วยนะคะ เพื่อเกิดอุบัติเหตุอะไร ถามว่ารถใครขับใครใช้ จอดไว้เฉยๆ เพราะขับไม่เป็น"

เมื่อถามว่าคืนรถไปแล้ว "ฟร้อง" ยังจะเอาไหม "ฟร้อง" ตอบ "เอา"
ถามว่า คุณแม่กับฟร้องจะเอาไปผ่อนต่อไหม คุณแม่บอกว่า "ก็ให้ไฟแนนซ์ยึดไป"
ขณะที่ทาง ทนายฝั่งฟร้อง บอกว่า "มันมีสัญญาอยู่ว่าเอ้ตองรับผิดชอบผ่อนต่อให้ครบ เป็นสัญญาที่ทางเอ้กับกับฟร้องว่า ผู้รับผิดชอบหนี้สินคือเอ้ ก็คือ เอ้ต้องผ่อนให้จบ พอผ่อนจบ ฟร้องก็โอนรถคืนให้เท่านั้นเอง"

เอ้ ชุติมา : "ค่ะ อันนี้ที่ใช้ชื่อน้องเป็นสิทธิครอบครองเพราะเอ้อายุเยอะ ถ้าใช้ชื่อน้องระยะเวลาการผ่อนก็จะยาวขึ้น ให้เป็นสิทธิครอบครองเฉยๆ ไม่ได้ให้ด้วยเสน่ห์หา ถึงได้ทำสัญญาอันนี้ขึ้นมา เป็นสัญญาที่ไม่ใช่ทนายทำ ทำกันเอง แล้วไม่มีสำเนาบัตรประชาชน มีแค่ลายเซ็นแต่ละคนเท่านั้นเอง"

ทนายฝั่งฟร้อง : "น้องเขาแค่อยากให้คุณเอ้ผ่อนให้จบแล้วโอนเป็นชื่อคุณเอ้"
เอ้ ชุติมา : "เอ้ผ่อนจบแล้วค่ะ น้องรีไฟแนนซ์ตลอดเวลา ความยุติธรรมอยู่ตรงไหนคะ"
ฟร้อง ศุภกิจ : "รีไฟแนนซ์แค่ครั้งเดียว แล้วตอนนั้นพี่เอ้ก็อยู่ข้างฟร้องตอนเซ็นเอกสาร ฟร้องช่วยเพราะต้องการหมุนเงินให้พี่เอ้"

เอ้ ชุติมา : "เงินอยู่ที่เขาหมดทุกอย่างนะคะ"
แม่ฟร้อง : "เอ้ คุณอย่าตอแหXมากสิ รถน่ะคุณยังผ่อนไม่หมดเลย"
เอ้ ชุติมา :  "รู้ค่ะ ว่ายังผ่อนไม่หมด ไม่ได้บอกผ่อนจบแล้ว บอกเอารถคืนแล้วค่ะ"

ด้านคุณแม่ฟร้องยังบอกอีกว่าเรื่องนี้ยอมไม่ได้เพราะเป็นหนี้อยู่แค่คนเดียว แต่เอ้สวนกลับทันทีว่า ที่ผ่านมาก็จ่ายไปหลายล้านบาทแล้ว ทั้งส่งเรียน ทั้งกินอยู่ที่บ้านด้วยกันมา 6 ปี ซึ่งตอนนั้นไม่ได้เสียดายตังค์เพราะเป็นเรื่องความรัก

ต่อมาฟร้องบอกว่า ทำไมเอ้ไม่คุยกับตนตั้งแต่แรกว่าไม่เอา แล้วเอารถมาคืนเรื่องก็จบ ขณะที่เอ้ลั่น ตนเป็นคนมีชื่อเสียงแต่มาถูกหาว่ายักยอกทรัพย์ และบอกว่าเอารถไปแยกชิ้นส่วน

ฟร้อง ศุภกิจ : "ก็ทางตำรวจเขาติดต่อไปแล้ว ติดต่อไม่ได้"

เอ้ ชุติมา : "ก็คือเอ้ย้ายที่อยู่ เพราะเอ้โดนไล่ที่ เอ้ไม่มีที่อยู่ค่ะคุณผู้ชม ดังนั้นเวลาที่คุณตำรวจส่งไปที่ ที่อยู่เดิม ไม่อยู่แล้วค่ะ เพราะไม่มีบ้านจะอยู่ค่ะ โดนเขาไล่ที่ออกมาค่ะ จริงๆ คนที่ควรขอความเป็นธรรมน่าจะเป็นเอ้มากกว่านะคะ"

แม่ฟร้อง : "เราไม่เคยมาขายลูกกินขนาดนี้ เอ้ คุณไปคิดให้ดีนะ วันแรกที่คุณไปขอลูกเรา คุณทำไง คุณไม่มีอะไรเลย คุณไปแต่ตัวแล้วก็ชื่อนางงามของคุณ รถก็รถบ้านเราทั้งนั้น รถเสียไปคันหนึ่งคุณซ่อมไหม เกือบแสน คุณบอก ทำไงแว้ ทำไงแว้ แล้วเราต้องมานั่งจ่ายคนเดียว ทำไมตัวเองไม่ช่วยจ่ายล่ะ เอารถไปทำงานล่องเหนือล่องตาย บ้านไม่ได้จนขนาดนั้นนะ เราไม่ได้ขายลูกกิน"

เอ้ ชุติมา VS แม่ฟร้อง ศุภกิจ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส