ศาลสั่งประหาร 'เสี่ยอ้วน' ฆ่า 'ฟอส-สปาย' - คนเขาชีจรรย์ยังสะเทือนใจ

ศาลจังหวัดพัทยา จังหวัดชลบุรี นัดอ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วนพร้อมพวกรวม 6 คน ในคดีที่ร่วมกันก่อเหตุยิงนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส อายุ 20 ปี และน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปาย อายุ 20 ปี เสียชีวิต 2 ศพ บริเวณลานจอดรถ ฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผา เขาชีจรรย์ หมู่ 6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ซึ่งศาลนัดอ่านคำพิพากษา ตั้งแต่เวลา 9 .30 น.ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่น้องสปาย และนางจอมศรี ชมพูพื้น แม่น้องฟอส 2 ผู้เสียชีวิตเดินทางเข้าฟังคำพิพากษาด้วย ศาลจังหวัดพัทยา พิพากษา ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1(เสี่ยอ้วน) จำเลยที่ 4 และที่ 5 ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้ตายทั้งสองโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่คำให้การในชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยทั้งหมดเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือ จำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 2 ให้จำคุก 50 ปี จำเลยที่ 3 และที่ 6 จำคุกคนละ 16 ปี พร้อมกับให้จำเลยทั้ง 6 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ครอบครัวน.ส.ปวีณา หรือ สปาย 7,314,000 บาท ส่วนครอบครัวนายอนันตชัย หรือ ฟอส 7,320,000 บาท สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2561 ทีมข่าวอมรินทร์ย้อนกลับไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าพ่อค้าแม่ค้าหลายคนยังรู้สึกสะเทือนใจ ไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์นี้ ขณะที่บางคนก็รู้สึกว่าเมื่อเวลาผ่านไป ก็ช่วยเยียวยาจิตใจได้

นางสาวบังอร พลคง เผยว่า แม้ว่าจะเหตุการณ์ดังกล่าวจะผ่านมา 1 ปีกว่า แต่ก็ยังมีผู้คนที่มาเที่ยวเขาชีจรรย์ แวะเวียนมาถามถึงเหตุการณ์นี้อยู่เสมอ ว่าเกิดขึ้นตรงไหน ตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ทำให้ส่วนตัวรู้สึกว่าเหตุการณ์นั้นยังอยู่กับเราตลอดเวลา ช่วงแรก ๆ ที่เกิดเหตุทุกคนยังกลัวผวา แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ซึ่งวันนี้ก็รอติดตามข่าวว่าคำตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร แม้จะเข้าใจว่า สาเหตุที่เสียอ้วนทำลงไปคงเพราะทั้งรักทั้งแค้น เพราะเคยคบหากับน้องสปาย ทุ่มเทให้ทรัพย์สินเงินทองมากมาย ซึ่งคำตัดสินคงจะแค่จำคุกตลอดชีวิต แต่ที่อยากให้ตัดสินโทษประหารชีวิตคือนายสายันต์ ศรีสุข หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งเป็นนกต่อ ที่คอยชี้เป้าให้กับเสี่ยอ้วน ทั้งที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังทำ หลังเกิดเหตุก็ยังไม่มีทีท่าสำนึกผิด