หมอปลาใช้ตะขอช้างปราบผีสิงร่างลุง ญาติเชื่อถูกวิญญาณผีแขกกัดกิน อ้วกพุ่งก่อนผูกวิญญาณ

หมอปลา ควงตะขอช้าง เดินทางไปพิสูจน์ผีสิงร่างชายวัย 50 ปี หลังล้มป่วยเส้นเลือดสมองแตก และครอบครัวเชื่อถูกผีอินเดียเข้าสิงร่างไม่ยอมตาย อ้วกพุ่งก่อนทำพิธีผูกวิญญาณ

จากกรณีนางจำเรียง เหล็กไหล อายุ 60 ปี ชาวบ้านอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังหมอปลา จีรพันธ์ เพชรขาว ให้มาช่วยเหลือเพราะเชื่อว่าสามี คือ นายมนูร เหล็กไหล อายุ 50 ปี ซึ่งล้มป่วยเส้นเลือดสมองแตกมานานกว่า 1 ปี ได้ถูกวิญญาณผีอินเดียเข้าสิงร่าง ทำให้เกิดอาการประหลาดและอยู่อย่างทุกข์ทรมาน

หมอปลา ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านของนายมนูร ซึ่งอยู่ติดกับวัดพร้าวโสภณาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีโบราณวัตถุสมัยอยุธยาและอู่ทองตอนปลายอยู่ภายใน ทันทีที่มาถึงหมอปลา ก็ได้พูดคุยกับนางจำเรียง เมียของนายมนูร ซึ่งได้เล่าให้ฟังว่า ผัวได้ล้มป่วยตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว และได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนานประมาณ 3 เดือน ก่อนจะกลับมาพักฟื้นที่บ้าน โดยหลังจากที่นายมนูร กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ก็มีประหลาดเกิดขึ้นหลายอย่าง ทั้งนางจำเรียง ฝันเห็นผีผู้ชายตัวใหญ่มาหาเรื่องนายมนูร และหลานชายที่ดูแลนายมนูรเห็นวิญญาณผ่านทางหน้าต่างห้องที่นายมนูรอยู่ รวมทั้งคนในบ้านที่ได้กลิ่นสาปสาง คล้ายกับกลิ่นศพที่อบอวลอยู่ในบ้านเป็นระยะ

หลังฟังเรื่องราวจากนางจำเรียงแล้ว หมอปลาได้เดินเข้าไปหานายมนูรเพื่อทำการพิสูจน์ทันที แต่เพียงแค่เดินไปตรงทางเข้าบ้าน หมอปลาก็ได้เกิดอาการแย่ หาวน้ำหู น้ำตาไหล ก่อนจะอ้วกจนต้องถอยออกมาตั้งหลักก่อน ต่อมาหมอปลา ได้เข้าไปหานายมนูร เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งนี้เดินเข้าไปภายในห้องที่นายมนูร นอนพักฟื้นอยู่ ซึ่งรอบนี้อาการของหมอปลาแย่มาก เพราะมีกลิ่นสาปแรงมาก จนหมอปลาต้องรีบออกมาจากห้องนั้นทันที

จากนั้นหมอปลา ได้เรียกนางจำเรียงกับลูกชาย ออกมาพูดคุยว่า หากมีการทำพิธีผูกวิญญาณ ไม่นานนายมนูรจะเสียชีวิต คนในครอบครัวจะยินยอมหรือไม่ ซึ่งนางจำเรียงและลูกชายยินยอม หมอปลาจึงได้ให้ไปเตรียมดอกไม้ ธูปเทียน และน้ำมะพร้าว ให้ครอบครัวนำมาล้างหน้าขอขมาลาโทษกับนายมนูร ซึ่งต่อมานางจำเรียง และลูกชาย ก็ได้พากันเข้าไปขอขมา ซึ่งทั้ง 2 คน ได้ร่ำไห้บอกให้นายมนูร จากไปอย่างสงบ โดยที่ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร

ต่อมาหมอปลาได้นำสายสิญจน์ผูกที่ศีรษะนายมนูร ท่องคาถาทำพิธีผูกวิญญาณที่สิงอยู่ในร่างของนายมนูร โดยใช้ “คชกุศลงอาคม" หรือ ตะขอช้าง โดยหลังทำพิธีหมอปลา ก็ได้บอกกับนายมนูรให้หลับตา จะได้ไปอย่างสงบ แล้วไม่ต้องโกรธแค้นอะไร เพราะตัวเองมาช่วยเหลือ

หมอปลา เปิดเผยว่า สำหรับเคสนี้ สัมผัสได้ว่ามีวิญญาณสิงร่างอยู่จริง ซึ่งเป็นวิญญาณเร่ร่อนและสัมภเวสีที่อยู่ในบริเวณนี้ เพราะเป็นบ้านของนายมนูร ปลูกอยู่ในที่ของวัดและเป็นป่าช้าเก่า โดยยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับผีอินเดียตามที่ครอบครัวเชื่อ จากการไปหาร่างทรง

ส่วนที่ตัวเองมีอาการอ้วกอย่างหนักวันนี้ ก็เพราะวิญญาณค่อนข้างแรงและไม่ยอมไป จึงตัดสินใจให้ครอบครัวนำน้ำมะพร้าวมาล้างหน้านายมนูร ให้เหมือนกับนายมนูรเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งสังเกตได้ว่าหลังจากที่นำน้ำมะพร้าวล้างหน้านายมนูร กลิ่นสาปก็ได้หายไป

หมอปลา บอกด้วยว่า เนื่องจากวิญญาณค่อนข้างแรง วันนี้ตัวเองจึงตัดสินใจใช้ “คชกุศ" หรือ ตะขอช้าง ทำพิธีผูกวิญญาณให้นายมนูร เพื่อให้วิญญาณออกจากร่าง แล้วนายมนูรจะได้จากไปอย่างสงบ ครอบครัวจะได้นำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา

ด้านนางจำเรียง เหล็กไหล เมียของนายมนูร บอกว่า ที่วันนี้ตัวเองยินยอมให้หมอปลาทำพิธีให้นายมนูร เพราะไม่อยากให้นายมนูรต้องทุกข์ทรมานต่อไป ขณะที่ก็เชื่อว่าในร่างของนายมนูรมีวิญญาณสิงร่างอยู่จริง เพราะก่อนหน้านี้เคยไปปรึกษาร่างทรง ก็ได้ทักว่ามีวิญญาณผีอินเดียสิงร่างนายมนูรอยู่ ซึ่งก็ทำให้ตัวเองทุกข์ใจแล้วอยากจะทำบุญ จนเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ร่างทรงได้เสนอให้สร้างพระพุทธรูปองค์ละ 12,000 บาท ก็จึงตกลง แต่ต่อมาร่างทรงก็แจ้งว่า ระหว่างขนย้ายได้เกิดเรื่องประหลาดคนที่ขนย้ายเป็นลมจนทำให้พระพุทธรูปตกลงมาคอหัก

นอกจากนี้ยังเคยไปปรึกษาพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ก็ได้ทักในทำนองเดียวกันว่า ถูกวิญญาณผีอินเดียเข้าสิงร่างตั้งแต่ไปนอนรักษาที่โรงพยาบาล ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ก็เคยทำพิธีตามที่พระและร่างทรงได้เสนอให้ทำแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น จนทำให้ต้องติดต่อไปยังหมอปลา แต่วันนี้ที่หมอปลา มาพิสูจน์แล้วบอกว่าเป็นวิญญาณเร่ร่อนและสัมภเวสีที่วนเวียนอยู่ในบริเวณ ก็เชื่อว่าเป็นไปได้ จากสภาพพื้นที่ที่เป็นป่าช้าเก่า

หลังทำพิธี นางจำเรียง บอกว่าสบายใจมากขึ้น เพราะทำใจไว้แล้วหากนายมนูรจากไปจริงๆ แล้วตอนนี้ก็ยอมรับว่าการที่นายมนูรป่วยอยู่แบบนี้ก็ทำให้ตัวเองลำบาก ออกไปทำมาหากินไม่ค่อยได้ เพราะต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา